🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

การคืนชีพของหุ้น Neflix ไม่ง่ายเลยท่ามกลางความเสี่ยง ศก. ถดถอยที่ปกคลุมตลาด

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 24/06/2565 16:36
US500
-
NFLX
-

ถือเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับบริษัทผู้ให้บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX)อย่างแท้จริง นอกจากจะต้องมาหาวิธีแก้ปัญหาการหารายได้เพิ่มของตัวเองแล้ว พวกเขาดันต้องมาอยู่ในจังหวะที่มรสุมทางเศรษฐกิจกำลังถาโถมเข้ามาพร้อมกันพอดิบพอดี 

ยอดผู้ใช้บริการที่ลดลงเรื่อยๆ กับสภาพแวดล้อมที่นักลงทุนกำลังหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง ได้ทำให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์กลายเป็นหุ้นที่ทำผลงานบนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้แย่ที่สุด มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $181.71 คิดเป็นมูลค่าที่หายไปทั้งหมดเกือบ 70% แล้ว มูลค่าตามตลาดของเน็ตฟลิกซ์หายไปในช่วงเวลาเพียงหกเดือนคิดเป็นเงิน $220,000 ล้านเหรียญสหรัฐNFLX Weekly

ในอดีตเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนที่โควิดเข้ามาโจมตีมนุษยชาติ ตอนนั้นเน็ตฟลิกซ์เคยมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นในปี 2020 ประมาณ 36 ล้านคน และเพิ่มขึ้นอีก 18.1 ล้านคนในปี 2021 อัตราการเติบโตที่เคยมีนั้นมาพร้อมกับช่วงเวลาที่ผู้คนถูกบังคับไม่ให้ออกไปไหน ไม่สามารถไปโรงภาพยนตร์ได้ เช่นนั้นแล้วสื่อที่จะให้ความบันเทิงได้ก็จึงมีเพียงเน็ตฟลิกซ์ 

แต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทเน็ตฟลิกซ์ได้บอกกับนักลงทุนหลังจากรายงานผลประกอบการไปว่าอัตราการเติบโตที่เคยมีในช่วงของโรคระบาดต้องชะลอตัวลง เฉพาะในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 เน็ตฟลิกซ์เสียลูกค้าไปแล้ว 200,000 รายจากยอดผู้ใช้งานในระบบทั้งหมด 222 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าไตรมาสนี้จะต้องเสียลูกค้าที่เคยเป็นสมาชิกไปอีก 2 ล้านคน

นอกจากเรื่องของวิกฤตโรคระบาดที่ดูเหมือนจะไม่มีใครพูดถึงแล้ว ตอนนี้สถานการณ์ในตลาดภาพยนตร์สตรีมมิ่งก็เปลี่ยนไป มีผู้เล่นหน้าใหม่และยักษ์ใหญ่จำนวนมากเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามหนักๆ กับเน็ตฟลิกซ์ว่าทุกวันนี้พวกเขายังมีพื้นที่เหลืออยู่เท่าไหร่ ภายใต้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และยอดผู้ใช้งานที่จะลดลงเพราะเงินเฟ้อ นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทจึงยังไม่เห็นโอกาสที่บริษัทเน็ตฟลิกซ์จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ในอนาคตอันใกล้

ยอดผู้ใช้บริการที่มีแต่จะลดลงไปเรื่อยๆ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีแต่นักวิเคราะห์ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขาลงจะยังอยู่กับหุ้นเน็ตฟลิกซ์ต่อไปภายใต้ความเสี่ยงที่จะเกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์จากธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ให้ความเห็นว่าสถานการณ์เช่นนี้มีแต่จะทำให้เน็ตฟลิกซ์เสียผู้ใช้งานไปเรื่อยๆ

“ถ้าหากขนาดสินค้าจำเป็นยังมียอดขายที่ลดลง นับประสาอะไรกับเน็ตฟลิกซ์หรือสื่อความบันเทิงที่ถือเป็นว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย พวกเขา (เน็ตฟลิกซ์) มีแต่จะเสียสมาชิกไปเรื่อยๆ แต่การมีคอนเท็นต์ดีๆ ที่เรียกกระแสได้ กับการยอมลดราคารายเดือนแล้วแลกมากับการมีโฆษณา ก็อาจจะบรรเทาผลกระทบลงไปได้บ้าง” NFLX Consensus Estimates

ความเห็นจากนักวิเคราะห์ทั้งหมด 48 คนของ Investing.com ยังถือว่าปราณีมาก 24 คนลดระดับหุ้นเน็ตฟลิกซ์ลงมาอยู่ในระดับกลางๆ 6 คนแนะนำให้ขาย และอีก 14 คนแนะนำให้ซื้อ ส่วนใหญ่แล้วนักวิเคราะห์ของเราตั้งคำถามกับวิธีที่เน็ตฟลิกซ์จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้

“นอกจากเรื่องความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยลดลง อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณาคือการแข็งและอ่อนค่าของคู่สกุลเงินที่เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เพราะหมายความว่าผู้ใช้บริการต่างประเทศจะต้องชำระค่าบริการในราคาที่แพงขึ้น ผลกระทบนี้จะเริ่มเห็นชัดขึ้นในช่วงหลังของปี 2022 นั่นจึงทำให้เราสงสัยว่าบริษัทจะสามารถกลับมาเติบโตแบบยั่งยืน หรือมีค่า P/E ล่วงหน้าในปี 2023 เพิ่มขึ้น 14.1 เท่าตามที่นักวิเคราะห์บางสำนักเชื่อได้อย่างไร”

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเน็ตฟลิกซ์จะนิ่งดูดายกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ไมค์ ฮาสติงส์ CEO ของเน็ตฟลิกซ์กำลังพยายามอย่างหนักในการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืนมา เมื่อเดือนเมษายน เน็ตฟลิกซ์ได้ประกาศที่จะมีแผนการเพิ่มโฆษณาให้เข้ามาอยู่ในระบบ และกำลังพัฒนาระบบที่จะสามารถมาตรวจจับปัญหาแชร์รหัสผ่านของผู้ใช้งาน 

นอกจากนี้เน็ตฟลิกซ์ยังมีแผนที่จะก้าวเข้าสู่วงการเกมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้พวกเขาได้ซื้อบริษัทผู้พัฒนาเกมเข้ามา แต่ในประเด็นนี้ก็ต้องรอดูว่าเกมของเน็ตฟลิกซ์จะสามารถแข็งแกร่งพอจนสู้กับยักษ์ใหญ่ที่เดิมก็ชิงพื้นที่กันในตลาดอย่างดุเดือดอยู่แล้ว ได้อย่างไร Needham ให้ความเห็นกับสถานการณ์ของเน็ตฟลิกซ์ว่า

“ต่อให้เน็ตฟลิกซ์จะเพิ่มโฆษณาเข้ามาในระบบ แต่นั่นก็ยังไม่มากพอที่จะให้พวกเขากลายเป็นผู้ชนะในสงครามสตรีมมิ่งได้ เว้นแต่จะเพิ่มเนื้อหากีฬาและข่าว (เพื่อลดต้นทุนการหาลูกค้า) ซื้อภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาลึกๆ ดีๆ และมีคลังเก็บหนังเก่า เพื่อคงลูกค้ารายย่อยให้อยู่กับช่องต่อไป”

โดยสรุปแล้ว

ช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองในช่วงโรคระบาดได้ผ่านไปแล้ว และภายใต้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน อย่างเช่นเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คู่แข่งที่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องกำไรเพราะมีช่องทางทำเงินอย่างอื่น ทำให้เส้นทางการคืนชีพของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ช่างดูยากลำบากยิ่งนัก

 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย