สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 14.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําแกว่งตัวในกรอบ 1,845.62-1,821.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบด้านบน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจํานวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน “แย่เกินคาด” ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นของสหรัฐ ลดลงสู่ 52.4 ในเดือนมิ.ย.จาก 57.0 ใน เดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 56.0 ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น สตลงสู่ระดับ 51.6 ในเดือนมิ.ย. จาก 53.4 ในเดือนพ.ค. และต่ํากว่าที่นัก เศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 53.9 เช่นกัน ซึ่งสะท้อนว่าตลาดแรงงาน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างชัดเจน สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งกระตุ้นความวิตกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกําลังเติบโต ลดลง และมีความเสี่ยงมากขึ้นที่อาจจะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถถอยในอนาคต สถานการณ์ดังกล่าวกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ําสุดที่ 3.005% ซึ่งเป็นต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์จนเป็นปัจจัยหนุนทองคํา อย่างไรก็ดี ราคาทองคําเผชิญแรงขายอีกครั้งหลังจากที่ทองคํายังไม่สามารถปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ นอกจากนี้ ทองคํายังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากดัชนีดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันในระหว่างการแถลงต่อศอง เกรสเป็นวันที่ 2 ว่าเฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ประกอบกับ SPDR ถือครองทองคําลดลง -8.70 ต้น นั่นทําให้ราคาทองคําปรับตัวลดลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,821.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมมิชิแกน
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,811
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,848
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,811
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th