สรุป ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 17.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยืนยันว่าจะ ยังคงดําเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป ซึ่งทําให้เกิดช่องว่างของการดําเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกัน (monetary policy divergence) ระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นมากขึ้น สถานการณ์ ดังกล่าวกดดันเงินเยนให้อ่อนค่าลงจนหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟต) ออกมาแสดงความเห็นในเชิง Hawkish อาทิ นายนิส แศซแศรี ประธานเฟดมินเนขาโพลิส ที่กล่าวในวันศุกร์ว่า เขาจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนหน้า ปัจจัยดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.87% จนเป็นปัจจัยสําคัญที่ กดดันให้ราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,833.83 ติอิสลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงของทองคําถือว่ายังอยู่ในกรอบจํากัด ส่วนหนึ่งเพราะราคาทองคําได้รับแรงหนุน จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่แกว่งตัวใกล้ระดับต่ําสุดของสัปดาห์ ท่ามกลางแรงซื้อพันธบัตรระยะยาวจากความวิตกว่าการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของเฟดจะส่งผล กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประกอบกันกองทุน SDR ถือครองทองคําเพิ่ม +11.50 ตันในวันศุกร์ ซึ่งเป็นการถือครองทองคําเพิ่มในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ซึ่งช่วยสกัด ช่วงติดลบของราคาทองคํา สําหรับวันนี้ ไม่มีกําหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทําการ ส่วนตลาดทองคํา COMEX จะปิดทําการเร็วกว่าปกติในเวลา 01.30 น. เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ซึ่งเป็นวันรําลึกถึงการประกาศอิสรภาพของทาสผิวดําและการสิ้นสุดของการค้าทาสในสหรัฐ
หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือต้าน 1,858-1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ความแข็งแกร่งของราคาทองคำ ยังน้อยทำให้การลงทุนอาจต้องเก็งก าไรในลักษณะรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาจะอ่อนตัวลงทดสอบโซนแนวรับ 1,831-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ถ้าสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ จะเกิดแรงซื้อเพิ่มขึ้น
คําแนะนํา ปิดสถานะซื้อ $1,831-1,816
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,858- 1,860
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,816
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th