ถือเป็นปีแห่งความสิ้นหวังสำหรับนักลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัลอย่างแท้จริง ความพยายามที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อของธนาคารกลางทั่วโลกด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้สร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภท ไม่เว้นแม้แต่สกุลเงินดิจิทัล แนวโน้มขาลงอย่างหนักของราชาสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ จนมามีราคาซื้อขายอยู่ที่ $21,220 ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ ทำให้มูลค่าของมันหายไปแล้วถึงสามเท่า และถ้านับจากจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ตอนนี้ราคาบิทคอยน์ได้ปรับตัวลดลงมาแล้วมากถึง 70%
อันที่จริง ตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้ปรับตัวลดลงมาแล้วตั้งแต่สองเดือนก่อนที่ตลาดหุ้นจะเริ่มถูกเทขาย การปรับตัวลดลงครั้งนี้ได้กวาดล้างนักลงทุนหรือนักเก็งกำไรที่ครั้งหนึ่งเคยเบ่งกล้ามอย่างใหญ่โตว่าสกุลเงินดิจิทัลจะก้าวขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ป้องกันความเสี่ยง ซึ่งความเป็นจริงในตอนนี้ได้ตบหน้าคนกลุ่มนี้อย่างจัง และต้องทนใช้ชีวิตอยู่อย่างอัปยศ ภายใต้การถูกเย้ยหยามหยันจากเหล่าบรรดาคนดังที่ไม่เชื่อในการมีค่าของสกุลเงินดิจิทัล
การที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบ 41 ปีได้มีส่วนหนึ่งกับการส่งตลาดสกุลเงินดิจิทัล บิทคอยน์และตลอดหุ้นเข้าสู่ตลาดหมี ตอนนี้หากจะไปบอกใครว่าบิทคอยน์เป็นสถานที่เก็บความมั่งคั่งก็คงจะไม่มีใครเชื่ออีกต่อไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเราจะเห็นบิทคอยน์ร่วงลงมาตั้งแต่ต้นปี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถหาโอกาสทำกำไรจากมันได้ ถ้าหากเราเชื่อว่ามีโอกาสที่บิทคอยน์จะปรับตัวย่อขึ้นมาในระยะสั้น ก่อนที่จะปรับตัวลดลงตามเทรนด์หลักในตอนนี้ต่อไป
จากรูปจะเห็นว่าขาขึ้นที่เกิดจากผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนวันพุธได้สร้างรูปแบบหัวค้อน (Hammer) ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์แบบเท่าไหร่ขึ้นมาหนึ่งแท่ง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะไส้ของแท่งเทียนนั้นไม่ได้มีความยาวมากพอตามที่ตำราเขียนเอาไว้ และถ้าเป็นเช่นนี้ แรงถีบที่จะพาให้ราคาปรับตัวกลับขึ้นไปได้ก็จะมีน้อยลงตามไปด้วย
แน่นอนว่าความคิดที่จะสวนเทรนด์ของเราในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแท่งเทียนเพียงแท่งเดียว ตำแหน่งที่แท่งเทียนหัวค้อนนี้เกิดขึ้นยังอยู่ใกล้กับบริเวณกรอบราคาขาลงด้านล่าง ซึ่งโดยปกติแล้วหมายถึงแนวรับ ก่อให้เกิดเป็นอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนในระยะสั้นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ อินดิเคเตอร์ RSI ก็ได้ลงมาจนอยู่ในโซน oversold แล้ว นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2022 ที่ได้เห็น RSI ลงมาแตะตัวเลข 23 ในครั้งนั้น บิทคอยน์ดีดตัวกลับขึ้นมาประมาณ 40% และกินเวลานานกว่าสองเดือน
ทีนี้ลองขยับเข้ามาดูกราฟให้ใกล้กว่านี้ว่าข้างในกำลังเกิดอะไรขึ้น
จากการวิเคราะห์กราฟรายชั่วโมงจะเห็นว่าราคาในตอนนี้กำลังทดสอบจุดต่ำสุดของเมื่อวานนี้ และก่อให้เกิดเป็นรูปแบบหัวไหล่ด้านหงาย (Head & Shoulder) ซึ่งจะสมบูรณ์ได้ต่อเมื่อราคาได้ทะลุเส้น neckline ขึ้นไปแล้ว (เส้นสีเขียว) เมื่อมาพิจารณาที่อินดิเคเตอร์ RSI จะเห็นว่าเส้นค่าเฉลี่ยได้หลุดเส้นแนวรับลงมาแล้ว แต่เราจะมองว่าแนวความคิดนี้ล้มเหลวก็ต่อเมื่อราคาลงมาวิ่งต่ำกว่าเส้นแนวรับสีแดง
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง มองข้ามการวิเคราะห์นี้ไปได้เลย เพราะนักลงทุนในกลุ่มนี้ควรลงทุนตามเทรนด์ใหญ่เป็นหลัก ซึ่งขาขึ้นในตอนนี้เรียกว่ามีโอกาสน้อยมาก
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะเข้าเมื่อรูปแบบหัวไหล่สมบูรณ์
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งซื้อสวนเทรนด์ขึ้นไป แต่การจะทำเช่นนี้ต้องประเมินมาแล้วว่าแนวรับ $20,000 อาจจะเป็นจุดตัดขาดทุนที่ดี เมื่อเทียบกับกำไรระยะสั้นที่อาจพอจะทำได้
ตัวอย่างการเทรด (ขาขึ้น)
- จุดเข้า: $20,900
- Stop-Loss: $20,000
- ความเสี่ยง: $900
- เป้าหมายในการทำกำไร:$24,500
- ผลตอบแทน: $3,600
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:4