💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน

เผยแพร่ 13/06/2565 10:21
XAU/USD
-
GC
-

สรุป ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนอย่างมาก หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ศ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 40 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3% ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดกระตุ้นคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะ “เร่ง" ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนจาก CME FedWatch Tool ที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ําหนัก 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 5% ในวันพฤหัสบดี และให้น้ําหนัก 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 1996 ในวันพฤหัสบดี ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่อัตราผลตอบแทน พันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ศ จนกดดันทองคําให้ร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1,825.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําทะยานขึ้นอย่าง แข็งแกร่งในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงหนุนจาก (1.) แรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อหลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CH) ที่สูงเกินคาด (2.) แรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ ปลอดภัย หลังสินทรัพย์เสี่ยงดิ่งลงอย่างหนัก จากความวิตกว่าการที่เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย และ (3.) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐของม.มิชิแกน ดิ่งลงสู่ระดับ 50.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ําสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในช่วงทศวรรษ 1940 และต่ํากว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 58. นั่นทําให้ราคาทองคําพุ่งขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์จาก ระดับต่ําสุดในระหว่างวันที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์บริเวณ 1,875.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +3.48 คัน สําหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

ความแข็งแกร่งของราคาทองค ายังน้อยท าให้การลงทุนอาจต้องเก็งก าไรในลักษณะรอจังหวะ โดยหากราคา ทองค าไม่สามารถยืนเหนือต้าน 1,873-1,879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้(ระดับสูงสุดรายสัปดาห์) มีแนวโน้มที่ราคา จะอ่อนตัวลงทดสอบโซน 1,855-1,846 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ จะ เกิดแรงขายเพิ่มขึ้น โดยแนวรับระยะสั้นถัดไปจะอยู่บริเวณ 1,829 ดอลลาร์ต่อออนซ

คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,855-1,846

จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,873-1,879

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสกานะซื้อหากหลุด $1,829

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย