ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําดีดตัวกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านระยะสั้นที่บริเวณ 1,865 เหรียญ ก่อนจะมีแรงเท ขายลงมาปิดที่บริเวณ 1,853 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมตลาดยังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนมิ.ย. ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามยูเครนที่สร้างแรง กดดันต่อเศรษฐกิจโลกและภาวะเงินเฟ้อ ด้านกองทุนทองคํา SPDR เข้าซื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเมื่อวานนี้เข้าซื้อ 4.64 ต้น ปัจจุบันถือครองที่ 1,068.07 ต้น สําหรับดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง มาทดสอบที่บริเวณ 102 จุด โดยเมื่อวานแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 102.04 - 103.07 จุด เช้านี้อยู่ที่ 102.30 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.42 บาท/ดอลลาร์ ก่อนแข็งค่าลงมาที่ 34.12 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้อยู่ที่ 34.24 บาท/ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองไทยปรับขึ้นได้อย่างจํากัดแม้ราคาทองในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น ภาพรวม ของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯวันนี้ ได้แก่ New Home Sales คาดว่าจะลดลงจากเดิมเล็กน้อย และ ติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล คืนนี้ เวลา 23.20น. ซึ่งอาจจะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์ และราคาทองคํา
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคํามี Technical Rebound ขึ้นมาทดสอบแนวต้านสําคัญที่บริเวณ 1,865 เหรียญวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะ เคลื่อนตัวอยู่ในกรอบเช่นเดิม หากราคาทองคําสามารถทะลุยืนเหนือ 1,865 เหรียญไปได้ จะทําให้ภาพรวมราคาทองคําใน ระยะสั้นเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้นได้ราคาทองคําจะมีแนวรับที่ 1,835 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,865 เหรียญ เช่นเดียวกับ Gold Comex กลยุทธ์การลงทุนในกรอบ Sideways สําหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,835 เหรียญ และแนวต้าน 1,867 เหรียญสําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับที่ 29,800 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 30100 บาท/ บาททองคํา คาดว่าจะแกว่งตามสภาวะของเงินบาท ขึ้นได้ไม่เยอะเพราะเงินบาทแข็งค่า
โดยนักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2-5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th