สรุป ราคาทองคำระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 1,836.30-1,849.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเมื่อวานนี้ปิดบวก 25.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แรงหนุนจากการเปิ ดเผย ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่เกินคาดทุกรายการ ทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก , ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (LEI) จาก Conference Board ปัจจัยดังกล่าวยิ่งกดดันให้ดัชนีสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลงแตะระดับต ่าสุดใน รอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่วันนี้มีปัจจัยบวกจาก ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เผยกองกำลังรัสเซียได้ทำลายล้างภูมิภาคดอนบาสอย่างสมบูรณ์ โดยได้ทิ้งระเบิด อย่างไร้เหตุผลและการรุกรานที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ญี่ปุ่นเดือนเม.ย.ขยายตัว 2.1% จากปี ก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 7 ปี และ สูงกว่าระดับเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำหนดไว้ที่ 2% อย่างไรก็ตามด้านตลาดหุ้นเอเชียปิดในแดนบวก หลังธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี สู่ ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2562 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระทรวงพาณิชย์จีน เผยการบริโภคของจีนฟื้นตัวขึ้น หลังเริ่มควบคุมผลกระทบจากโควิด -19 ได้ ประเด็นดังกล่าวอาจมากดดันได้วันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้เข้าซื้อในบริเวณ 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทั้งนี้ควรเน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะจำนวนมาก แบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,851-1,858 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อหากไม่หลุด 1,823
จุดทำกำไร ขายเพื่อทำกำไร $1,851-1,857
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,823
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th