ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําปรับตัวลดลงหลังจากขึ้นไปทดสอบที่บริเวณ 1,909 เหรียญในเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลของตลาดเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการใช้นโยบาย ทางการเงินที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ในขณะที่เมื่อวานมีการประกาศจํานวนคนขอสวัสดิว่าง งานสหรัฐฯ Unemployment Claims ที่มีจํานวนเพิ่มมากขึ้นกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาด มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มอ่อนแอลง และอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ ด้านด้ชนี ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากการประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ของเฟด โดยขึ้นมาทําจุดสูงสุดที่ ระดับ 103.96 จุด เช้านี้ปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 103.79 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อน ค่าขึ้นไปที่ระดับ 34.37 บาทต่อดอลลาร์ในเช้าวันนี้ กองทุน SPDR เมื่อวานขายออก 4.06 ต้น ปัจจุบันถือครองที่ 1,084.98 ต้น ในขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดําเนินต่อ ไปอย่างต่อเนื่อง โดยนักเศรษฐศาสตร์บางรายมองว่าราคาน้ํามันจะเริ่มปรับตัวลดลงในปีนี้ หลังจากที่อุปสงค์น้ํามันลดตัวลงอย่างมากจากภาวะสงครามและแนวโน้มการใช้รถยนต์ ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจดึงตัว และการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศ จีนทําให้อุปทานน้ํามันลดลงจากการล็อคดาวน์ ซึ่งทําให้หลายฝ่ายยังคงกังวลว่า GDP ของ จีนในปีนี้จะปรับลดลง
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคําทางเทคนิคมีความผันผวนในแนวโน้มทิศทางขาลง โดยราคาทองคําทํา Technical Rebound ขึ้นไป เหนือระดับ 1,909 เหรียญก่อนปรับตัวลดลงมา โดยเช้านี้ราคาทองคํากลับลงมาที่ระดับ 1,870 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง วันนี้คาดว่าราคาทองคําจะเคลื่อนอยู่ในกรอบแนวโน้มทิศทางขาลงโดยมีแนวรับที่ 1,855 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,900 เหรียญ สําหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,855 เหรียญ และแนว ต้าน 1,900 เหรียญ ด้านราคาทองคําไทยคาดว่าจะปรับลดลง -150 บาท/บาททองคํา โดยจะมีแนวรับที่ 30,300 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 30,700 บาท/บาททองคํา
โดยนักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2-5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์ หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th