สรุป เมื่อวานนี้ราคาทองคําได้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ํามัน หลังประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็น องค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) เสนอให้ประเทศสมาชิก EU ระงับการนําเข้าน้ํามันดิบและผลิตภัณฑ์น้ํามันกลั่นจากรัสเซีย นอกจากนี้ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาว เวลส์ ประธานเฟด ที่ได้ปฏิเสธแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 0.75% ทําให้นักลงทุนปิดโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการ ประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย.เป็นที่มาที่ทําให้ราคาทองคําทะยานขึ้น ขณะที่วันนี้ราคาทองคําช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบ 1,881.10-1,903.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยค่อยๆ เคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ขาขึ้น มีปัจจัยหนุนเพิ่มจากรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ยานพาหนะทุกคันขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ที่เดินทางเข้ายูเครนเพื่อส่งมอบอาวุธแก่กองทัพยูเครน ถือว่าเป็นเป้าหมายอันชอบธรรมสําหรับการทําลายล้าง รวมถึง ผลสํารวจซึ่งมาร์กิตจัดทําร่วมกับในซินระบุ ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนหดตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนเม.ย. เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิต-19 ได้ส่งผลให้ภาค บริการของจีนหยุดชะงัก ด้านราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น 63% แตะระดับ 40,002.75 ดอลลาร์ และ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดบวกในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้น นิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพุธ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปฏิเสธแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75% ประเด็นที่กล่าวมานี้อาจเป็นปัจจัยที่กดดันต่อราคาทองคําได้ สําหรับคืนนี้แนะนําให้นักลงทุนติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ จะเปิดเผยจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการ ว่างงานรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วยเบื้องต้นและประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้น
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ 1,889-1,877
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,920-1,934
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,860
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th