รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

กองทุน ETF ในบทความนี้อาจช่วยคุณทำกำไรในตลาดหุ้นขาลง ณ ช่วงเวลานี้ได้

เผยแพร่ 28/04/2565 16:21
อัพเดท 02/09/2563 13:05

แม้ตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาในปี 2022 จะมีแต่แนวโน้มขาลง แต่จำนวนกองทุน ETF หน้าใหม่กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองทุน ETF ที่มีชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ณ เวลานี้มีมูลค่ารวมกันมากกว่า $5.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปแล้ว ส่วนทั่วโลกนั้นมีกองทุน ETF อยู่ทั้งหมดมากกว่า 8,500 กองทุน งานวิจัยของ Brown Brothers Harriman ล่าสุด อธิบายเอาไว้ดังนี้

“ในปี 2021 การเติบโตของจำนวนกองทุน ETF คิดเป็นประมาณ 10% ของจำนวนเงินสุทธิ ที่ไหลเข้ามาจากทั่วโลก โดยได้แรงหนุนจากนักลงทุนสหรัฐเป็นส่วนใหญ่”

ในวงการ ETF เราจะมีคำศัพท์ที่เอาไว้ใช้เรียกกองทุน ETF ที่มีศักยภาพว่า “อัลฟา” และ “เบต้า” เบต้า (β) คือการวัดความผันผวนของผลตอบแทน ที่สัมพันธ์กับตลาดในวงกว้าง โดยจะเริ่มนับความผันผวนที่ตัวเลข 1  ดังนั้นกองทุนที่มีเบต้า 1.3 จะมีความผันผวนมากกว่าตลาด 30% ยกตัวอย่างเช่น หากดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 10% ภายใต้ตัวเลขเบต้า 1.3 ความหมายคือการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับตัวขึ้น 13% ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวเลขนี้ไม่ได้บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของกองทุนนั้นๆ

งานวิจัยจากสถาบันชั้นนำแห่งหนึ่งได้นิยามคำว่า “เบต้า” ในวงการเอาไว้ว่า

“หุ้นเบต้าสูงควรได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงกว่าหุ้น เบต้าต่ำซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของระบบการเงินสมัยใหม่”

กลุ่มหุ้นถัดมามีชื่อเรียกว่าคืออัลฟา (α) หรือการวัดประสิทธิภาพของการลงทุน เทียบกับดัชนีมาตรฐาน เช่น S&P 500 ยกตัวอย่างเช่น หากกองทุนให้ผลตอบแทน 20% ในหนึ่งปีที่ S&P 500 เพิ่มขึ้นเพียง 10% กองทุนนั้นมีค่าอัลฟาหรือผลตอบแทนส่วนเกินที่สูงกว่าดัชนี นักลงทุนจำนวนมากกำลังมองหา ETF ที่มีค่า อัลฟาสูง เนื่องจากความไม่แน่นอนในพฤติกรรมของตลาดของตลาดหุ้น ที่คาดว่าจะคงอยู่ทั้งปี 2022

ขณะนี้มีกองทุน ETF หลายร้อยแห่งในอเมริกาที่ต้องการจะเป็นอัลฟา ค่าอัลฟาสามารถช่วยจัดอันดับประสิทธิภาพของกองทุน ที่มีการจัดการอย่างแข็งขัน อย่างไรก็ตาม เราต้องเตือนผู้อ่านว่าค่าอัลฟาและเบต้าเป็นค่าในอดีต ซึ่งไม่ได้หมายถึงความสามารถในการดำเนินงานหรือสร้างผลตอบแทนในอนาคต ในบทความนี้เราจะมาแนะนำกองทุน ETF นอกสหรัฐอเมริกา ที่เชื่อว่าสามารถพิจารณาให้อยู่ในกลุ่มอัลฟาและเบต้าได้

FCF International Quality ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $30.21
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $30.01 - $37.71
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.4%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.61% ต่อปี

กองทุนที่จะมาแนะนำในบทความนี้มีชื่อว่า FCF International Quality ETF (NYSE:TTAI) เป็นกองทุนที่มีการจัดการอย่างแข็งขัน เป็นพื้นที่อนุญาตให้ลงทุนกับตราสารทุนระหว่างประเทศในวงกว้าง ผู้จัดการกองทุนให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีกระแสเงินสด มีอิสระที่สูง และพยายามให้ผลตอบแทนสูงกว่า S&P Developed Ex-U.S. ดัชนี BMI NTR หรือเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ก็มีความสำคัญต่อการเลือกหุ้นของ TTAI เช่นกันTTAI Weekly Chart

TTAI อนุญาตให้บุคคลทั่วไปสามารถลงทุนได้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2017 ปัจจุบันถือครองหุ้นอยู่ทั้งหมด 136 ตัว หุ้น 10 อันดับแรกของกองทุนคิดเป็น 17% ของสินทรัพย์ทั้งหมด $5,830 ล้านเหรียญสหรัฐ หากพิจารณาแบ่งประเภทการถือครองหุ้นออกเป็นสัดส่วน จะพบว่า TTAI ถือครองหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมมากที่สุด 21.5% ตามมาด้วยการเงิน 14.1% เทคโนโลยีเพื่อข้อมูลข่าวสาร 13.4% และสินค้าอุปโภคบริโภคอีก 11.3% 

แต่หากพิจารณาการถือของหุ้นออกตามแต่ละประเทศ จะพบว่า TTAI ถือครองหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศสหราชอาณาจักรมากกว่า 10% ตามมาด้วยสวิสเซอร์แลนด์ 9.7% ญี่ปุ่น 8.7% แคนาดา 8.5% ออสเตรเลีย 7.7% และประเทศจีน 6.1% 

หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Novo Nordisk (NYSE:NVO) and Swiss Roche Holding (OTC:RHHBY); Royal Bank of Canada (NYSE:RY) ASML Holding (NASDAQ:ASML) และ Relx (NYSE:RELX

ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2022 ราคากองทุน TTAI ได้ปรับตัวลดลงมาแล้วมากกว่า 16.8% และตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุดก็ได้ร่วงลงมาแล้วทั้งสิ้น 13% ถึงกระนั้้นอัตราผลตอบแทนรายปีก็ยังมีตัวเลขมากกว่า 7% สำหรับนักลงทุนที่สนใจกองทุน ETF ภายใต้เงื่อนไขในบทความนี้ แต่เป็นในประเทศสหรัฐอเมริกา เราแนะนำกองทุน FCF US Quality ETF (NYSE:TTAC) ซึ่งตั้งแต่ต้นมกราคมจนถึงปัจจุบัน ราคาของ TTAC ได้ปรับตัวลดลงมาแล้ว 11.3% 

เราเชื่อว่าบริษัทที่สร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง และมีอิสระสูงสมควรได้รับความสนใจจากนักลงทุน ตัวชี้วัดที่สำคัญนี้ ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับสุขภาพการเงินของบริษัท และมีเงินสดที่สามารถใช้เพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นได้ ดังนั้นแม้ว่า ETF TTAI และ TTAC ในช่วงนี้จะปรับตัวลดลง แต่ก็สมควรแก่การพิจารณาเลือกเข้าพอร์ตลงทุน

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย