นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 เป็นต้นมา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพยายามที่จะปรับตัวขึ้นมาโดยตลอด แต่ก็ต้องถูกแรงกดดัน เนื่องจากความกังวลของตลาด ที่มีต่อการทำนโยบายการเงินแบบตึงตัว และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความจริงดังกล่าวทำให้ตลาดลงทุนไม่ให้ความสำคัญกับหุ้นเทคฯ และหันไปลงทุนกับสินทรัพย์หรือหุ้นกลุ่มอื่นแทน
ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีตัวช่วยคัดกรองหุ้น Investing Pro+ ซึ่งเป็นระบบในการกรองหุ้นมากกว่า 10,000 ตัว ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ Investing Pro+ จะช่วยเลือกหุ้นที่มีมูลค่าต่ำและมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใสจากจำนวนเหล่านั้น ให้มาอยู่ในลกุ่มรายชื่อหุ้นเทคฯ ที่น่าสนใจ
อ้างอิง: InvestingPro
ระบบคำนวณของ Investing Pro+ จะเน้นเฉพาะหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดตั้งแต่ 10,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป และอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ที่ต่ำกว่า 20 จากนั้นเราจึงสแกนหาบริษัทที่มีส่วนต่างของราคาหุ้นที่ควรจะเป็น ที่มีค่ามากกว่า 40% เมื่อใช้เกณฑ์เหล่านี้แล้ว เราก็เหลือบริษัทเพียง 6 แห่งเท่านั้นที่เข้าตากรรมการ
อ้างอิง: InvestingPro
และเมื่อยิ่งพิจารณาให้ลึกซึ่งมากขึ้น เราสามารถเลือกหุ้นที่น่าสนใจมาได้ทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. Applied Materials
- คะแนนสุขภาพการเงินของบริษัท: B
- อัตราค่า P/E: 14.7
- มูลค่าตามราคาตลาด: $96,200 ล้านเหรียญสหรัฐ
- มูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นอ้างอิงจาก Pro+: +43.9%
บริษัท Applied Materials (NASDAQ:AMAT) เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านอุปกรณ์ การผลิตซอฟต์แวร์แก่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนี้พวกเขายังสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์สำหรับการออกแบบ ผลิตจอแสดงผลด้วยคริสตัลเหลว สร้างไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์ (OLED) และเทคโนโลยีการแสดงผลอื่นๆ สำหรับอุปกรณ์เช่น โทรทัศน์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้
แรงกดดันที่มีต่อหุ้นในกลุ่มเทคฯ จากปัญหาซัพพลายเชนขาดแคลน ก็ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้น AMAT ในปีนี้ด้วยเช่นกัน ระดับการวิ่งของราคาหุ้นในตอนนี้ถือว่าต่ำกว่าดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ ตั้งแต่ต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน หุ้น AMAT ได้ปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 31% และถ้าหากวัดจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $167.06 ในวันที่ 14 มกราคม ก็จะพบว่าปรับตัวลดลงมาแล้วทั้งหมด 35%
ราคาหุ้น AMAT ล่าสุดเมื่อวันอังคารมีตัวเลขอยู่ที่ $108.32 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 13 เดือนล่าสุด แม้ว่าเมื่อพิจารณาดูจากพฤติกรรมราคาแล้วจะพบว่าราคายังคงสร้างขาลงอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่หุ้น AMAT กลับเป็นตัวเลือกที่น่าเสี่ยง หากนักลงทุนยังคงเชื่อว่ามีโอกาสที่หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์จะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ปัจจุบัน หุ้น AMAT มีอัตราส่วนราคาเทียบกับกำไรต่อหุ้น (P/E) อยู่ที่ 14.7 ซึ่งถือว่าถูกกว่าเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกันอย่างเช่น ASML Holding (NASDAQ:ASML), KLA-Tencor Corporation (NASDAQ:KLAC) และ Teradyne (NASDAQ:TER)
อ้างอิง: InvestingPro
ข้อมูลจาก Investing Pro+ ชี้ให้เห็นข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญอีกสองสามข้อเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ Pro+ วิเคราะห์ว่าการซื้อหุ้นคืนและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งคือจุดที่โดดเด่นที่สุด
อ้างอิง: InvestingPro
Pro+ ยังแสดงให้เห็นภาพรวมสภาพทางการเงินของบริษัท Applied Materials ซึ่งได้คะแนน 4/5 จากผลกำไรที่สดใสและแนวโน้มการเติบโตของยอดขาย
อ้างอิง: InvestingPro
ที่ระดับราคาต่ำกว่า 110 ดอลลาร์ หุ้น AMAT ถือว่ามีราคาต่ำมากเมื่อเทียบกับแบบจำลองเชิงปริมาณใน InvestingPro ซึ่งชี้ให้เห็นถึงขาขึ้น ที่เป็นไปได้ของหุ้น AMAT ในอีก 12 เดือนข้างหน้าประมาณ 44% จากระดับราคาปัจจุบัน
อ้างอิง: InvestingPro
บริษัท Applied Materials จะรายงานผลประกอบการครั้งถัดไปในวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด ซึ่งรายงานผลประกอบการก่อนหน้านี้ก็สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไปได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ครั้งนี้ นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่าจะได้เห็นตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น 16.5% เพิ่มขึ้นจาก $1.63 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเชื่อว่าจะมีตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้น 14% YoY หรือเท่ากับ $6,340 ล้านเหรียญสหรัฐ
อ้างอิง: InvestingPro
2. Dell Technologies
- คะแนนสุขภาพการเงินของบริษัท: B
- อัตราค่า P/E: 7.1
- มูลค่าตามราคาตลาด: $35,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
- มูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นอ้างอิงจาก Pro+: +50.2%
เชื่อว่าชื่อนี้นักลงทุนคงรู้จักกันดี Dell Technologies (NYSE:DELL) หรือที่เรียกสั้นๆ กันว่า “เดล” คือบริษัทผู้สร้างผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากมาย ยกตัวอย่างเช่นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เซิร์ฟเวอร์ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์และความปลอดภัยเครือข่าย ตลอดจนบริการรักษาความปลอดภัยข้อมูล เช่นเดียวกับหุ้นเทคฯ ตัวอื่นๆ ที่ปรับตัวลดลง หุ้นของเดลก็ได้ลงมาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน หุ้นเดลปรับตัวลดลงมาแล้ว 17.2% มีราคาซื้อล่าสุดเมื่อวันอังคารอยู่ที่ $46.51 หากวัดจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $115 ในเดือนตุลาคมปี 2021 ตอนนี้หุ้นเดลร่วงลงมาจากจุดนั้นแล้วประมาณ 60%
จากการวิเคราะห์ของ Pro+ ได้ข้อสรุปว่า เดลยังมีสุขภาพทางการเงินที่ยอดเยี่ยม บริษัทยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี และทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
อ้างอิง: InvestingPro
ปัจจุบันหุ้นเดลมีค่า P/E อยู่ที่ 7.1 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 12.7 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นบริษัทในกลุ่มเดียวกันอื่นๆ ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 14.7 นอกจากนี้ เดลยังเป็นผู้นำในด้านความสามารถในการทำกำไรและยอดขาย เดลมีรายได้เติบโตเกือบ 17% สูงกว่ารายได้เติบโตของบริษัทคู่แข่ง 12.5%
อ้างอิง: InvestingPro
ข้อมูลจาก InvestingPro ยังเผยให้เห็นอีกว่าตอนนี้หุ้นเดลกำลังมีราคาหุ้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก 50% ภายในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า ขึ้นไปอยู่ในระดับหุ้นที่ควรจะเป็น $69.84
อ้างอิง: InvestingPro
บริษัทเดลจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ในวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์เชื่อว่าเดลจะสามารถทำกำไรได้ $25,300 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.40
อ้างอิง: InvestingPro
3. NortonLifeLock
- คะแนนสุขภาพการเงินของบริษัท: B
- อัตราค่า P/E: 16.0
- มูลค่าตามราคาตลาด: $14,800 ล้านเหรียญสหรัฐ
- มูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นอ้างอิงจาก Pro+: +41.7%
บริษัท NortonLifeLock (NASDAQ:NLOK) ในอดีตถือเป็นที่รู้จักกันดีในนามบริษัท Symantec Corporation พวกเขาเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 ได้แก่ Norton 360 Security, Norton Security, Norton Secure virtual private network (VPN), Avira Security และโซลูชั่นความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคอื่นๆ
บริษัท NortonLifeLock ได้รับประโยชน์จากความต้องการเครื่องมือ และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยท่ามกลางภัยคุกคามความปลอดภัยทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีการเทขายอย่างต่อเนื่องในหุ้นเทคโนโลยี แต่หุ้นของ NortonLifeLock กลับปรับตัวลดลงเพียง 2% YoY เท่านั้น ซึ่งถือว่ายังทำกำไรได้มากกว่าดัชนีแนสแด็กในช่วงเวลาเดียวกัน
หุ้น NLOK เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ $30.92 มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวันอังคารอยู่ที่ $25.45
สุขภาพการเงินของบริษัทที่วิเคราะห์ด้วย Pro+ ให้คะแนนสูงจาก 4 เต็ม 5 ถือเป็นระดับคะแนนที่ดึงดูดมาก และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคานความเสี่ยงในโลกการเงินที่เต็มไปด้วยความผันผวน
อ้างอิง: InvestingPro
เมื่อพิจารณาถึงความต้องการซอฟต์แวร์ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องพีซีและอุปกรณ์มือถือจากไวรัสและการโจมตีทางไซเบอร์ หุ้นของ NLOK อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 42% ตามโมเดลการคำนวณของ Investing Pro ทำให้มูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 36.06 ดอลลาร์ต่อหุ้น
อ้างอิง: InvestingPro
นักวิเคราะห์ยังมองบริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการนี้เป็นบวก โดยอ้างถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตลาด ราคาเป้าหมายของหุ้น NLOK ที่นักวิเคราะห์ให้ไว้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นขาขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้าอีกประมาณ 16% จากระดับราคาในปัจจุบัน
อ้างอิง: Investing.com
บริษัท NortonLifeLock จะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์เชื่อว่า NLOK จะสามารถทำกำไรได้ $709.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.45
อ้างอิง: InvestingPro