หากคุณกำลังวางแผนที่จะสร้างพอร์ตโฟลิโอที่จะสร้างรายได้มั่นคงในช่วงเกษียณอายุ การหาหุ้นปันผลที่มีคุณภาพ และให้ผลตอบแทนสูงอาจเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ หุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ามักจะเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยง ดังนั้นจึงไม่ควรลงทุนระยะยาว เนื่องจากความยากในการคาดการณ์ความสามารถในการเติบโตในอนาคต ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้อ ที่สูงขึ้นจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่มุ่งมั่น ภายใต้ความท้าทายและอุปสรรค มักจะมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ ในบทความนี้ เราจึงได้เลือหุ้นสามตัวที่สมควรพิจารณาเก็บไว้ในพอร์ตเกษียณอายุของคุณ
1. IBM
- ผลตอบแทน: 4.97%
- การจ่ายปันผลรายไตรมาส: $1.64
- มูลค่าตามราคาตลาด: $118,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทคอมพิวเตอร์ในตำนาน “ไอบีเอ็ม” (NYSE:IBM) คือตัวเลือกแรกที่จะพลาดไปไม่ได้เลย นี่หุ้นหุ้นเทคโนโลยีที่มีอัตราการเติบโตสูง ในความเห็นของเรา หุ้น IBM ถือเป็นหุ้นปันผลที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่บริษัทพึ่งเปลี่ยนระบบการจัดการใหม่ เน้นการลงทุนไปกับการทำงานผ่านระบบคลาวด์มากขึ้น
สาเหตุที่เราเลือกหุ้นตัวนี้ เพราะมีประวัติการปันผลที่ยอดเยี่ยม ไอบีเอ็มมีการเพิ่มอัตราการปันผลมาตลอด 26 ปีติดต่อกัน ปัจจุบันมีการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $1.64 ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปี 4.97% มีราคาซื้อขายล่าสุดเมื่อวันอังคารอยู่ที่ $131.94 นั่นจึงทำให้ไอบีเอ็มกลายเป็นหุ้นบลูชิพที่ปันผลมากที่สุดตัวหนึ่งของอเมริกา
เมื่อพูดถึงความสามารถในการเติบโต หุ้นไอบีเอ็มไม่เคยทำให้นักลงทุนผิดหวังเลยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หลังจากที่ควบรวมกิจการกับบริษัท Red Hat และเปลี่ยนระบบการจัดการใหม่ บริษัทไอบีเอ็มก็ค่อยๆ กลับสู่เส้นทางการเติบโตอีกครั้ง บริษัทมีบัญชีงบดุลที่ดีขึ้น มีการบริหารจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ และยังสามารถรักษาความสามารถในการปันผลสูงเอาไว้ได้
ในรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด บริษัทไอบีเอ็มสามารถแสดงตัวเลขรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบสิบปี จากความต้องการซอฟต์แวร์ ที่ผสมผสานเข้ากับระบบคลาวด์มากขึ้น Jim Kavanaugh ผู้ดำรงตำแหน่ง CFO ของบริษัทให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า
“นี่คือจุดเริ่มต้นของ IBM และมุมมองใหม่ๆ ต่อสิ่งที่อยู่ในอนาคต ระบบคลาวด์และการให้คำปรึกษาทางเทคโนโลยีทำให้เราเร่งความเร็วในการสร้างผลกำไรได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตทางธุรกิจ”
2. Verizon Communications
- ผลตอบแทน: 5.00%
- การจ่ายปันผลรายไตรมาส: $0.64
- มูลค่าตามราคาตลาด: $215,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
หุ้นของบริษัทต่อมาที่เราอยากแนะนำผู้ให้บริการเทเลคอมที่ใหญ่ที่สุดเป้นอันดับที่สองของสหรัฐอเมริกา “เวอไรซอน” (NYSE:VZ) นี่คือหนึ่งในหุ้นปันผลที่แข็งแกร่งสำหรับผู้เกษียณอายุ ด้วยอัตราการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นมาตลอดนับตั้งแต่ปี 2007 ทำไห้ตอนนี้เวอไรซอนมีการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $0.64 และมีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 5.00% หุ้นมีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $51.25
เวอไรซอนปรับกลยุทธ์การบริหารงานใหม่ด้วยการตัดธุรกิจที่อยู่ในมือซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยงออกไปเช่น บริษัทสื่อต่างๆ และมุ่งเน้นไปที่การขยายเครือข่ายคมนาคมมากขึ้น เมื่อไม่นานมานี้เวอไรซอนพึ่งประกาศขาย Yahoo ไปให้กับบริษัท Apollo Global Management ในวงเงิน $5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุด เวอไรซอนคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของรายได้ตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปี 2024 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% ทุกปี อันเป็นผลมาจากผู้คนที่หันไปใช้โทรศัพท์ 5G มากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทมีแผนที่จะเริ่มโครงการใหม่ๆ เช่น การขายแผนข้อมูล 5G แบบไม่จำกัด ที่มีราคาสูงกว่าให้กับเครือข่ายมือถือ การนำเสนอบรอดแบนด์ไร้สายภายในบ้าน และการรักษาความปลอดภัยด้วยการเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้ พวกเขายังมีแผนที่จะทำโครงการเมต้าเวิร์สร่วมกันบริษัทเมต้า แพลตฟอร์ม (NASDAQ:FB) อีกด้วย
3. Suncor Energy
- ผลตอบแทน: 4.12%
- การจ่ายปันผลรายไตรมาส: $0.42
- มูลค่าตามราคาตลาด: $46,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
หนึ่งในบริษัทพลังงานของแคนาดาที่ใหญ่ที่สุด “ซันเซอร์ เอ็นเนอร์จี้” (NYSE:SU) คือหุ้นตัวสุดท้ายที่เราจะแนะนำในบทความนี้ ซันเซอร์รับทำแทบจะทุกกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานไม่ว่าจะเป็นการสกัด กลั่น และทำการตลาดผลิตภัณฑ์พลังงานให้แก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรม การค้า ค้าปลีก ฯลฯ นอกจากนี้ซันเซอร์ยังเป็นเจ้าของปั้มน้ำมันทั่วแคนาดามากกว่า 1,500 แห่ง ล่าสุดเมื่อคืนนี้หุ้นซันเซอร์มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $32.59
ตั้งแต่ปี 2014 บริษัทซันเซอร์ได้พยายามลดภาระหนี้ด้วยการลดต้นทุนการดำเนินงานลงหลายส่วนมาก และการฟื้นตัวของราคาน้ำมันเพราะไฟสงคราม และโรคระบาด ก็มีส่วนช่วยให้หุ้นซันเซอร์ฟื้นตัวกลับมา สร้างกระแสเงินสดได้มากขึ้น จนกลายเป็นหุ้นที่น่าจับตาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รายงานผลประกอบการครั้งล่าสุดบริษัทกลับยังไม่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้ ทำกำไรในไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ได้เพียง $1,550 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น
แต่ถ้าพูดในแง่ของความต่อเนื่องในการจ่ายเงินปันผล ซันเซอร์มีความสามารถนั้นเต็มเปี่ยม พวกเขาจ่ายเงินปันผลมาตั้งแต่ปี 1992 ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนในปัจจุบันมากกว่า 4% เพื่อชดเชยนักลงทุนสำหรับการลดเงินปันผลในปี 2020 นอกจากนี้ซันเซอร์ยังใช้เงินสดส่วนเกินเพื่อซื้อหุ้นคืนและลดหนี้ในปี 2021 ตามการคาดการณ์ของโกลด์แมน แซคส์ ในระหว่างปี 2021 - 2023 ซันเซอร์จะสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น 38% ต่อปี