🚀 ProPicks AI ให้ผลตอบแทนถึง 34.9%อ่านเพิ่มเติม

จับตา ท่าทีของเฟดต่อการปรับดอกเบี้ย หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังร้อนแรง

เผยแพร่ 14/03/2565 08:33
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังคงกดดันให้ตลาดการเงินไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง
  • ไฮไลท์สำคัญในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะ ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด ซึ่งตลาดจะรอลุ้นทิศทางการปรับนโยบายการเงินของเฟดหลังเศรษฐกิจเผชิญความไม่แน่นอนจากสงครามมากขึ้น

  • ภาวะสงครามอาจหนุนความต้องการถือเงินดอลลาร์ แต่เงินดอลลาร์ก็พร้อมจะอ่อนค่าลงได้ หากเฟดส่งสัญญาณไม่ได้เร่งรีบขึ้นดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดคาดหวัง อาทิ Dot Plot ใหม่ชี้ว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่า 7 ครั้ง ซึ่งเราคงมองว่า Upside ของเงินดอลลาร์จะเริ่มจำกัดหลังทิศทางนโยบายการเงินเฟดมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนเงินบาทอาจอ่อนค่าลงต่อได้บ้าง จากแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความกังวลผลกระทบจากสงคราม แต่เรามองว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่ารุนแรง เนื่องจากผู้เล่นต่างชาติได้ปิดสถานะเก็งกำไรค่าเงินไปมากแล้ว (สะท้อนผ่านแรงขายบอนด์ระยะสั้น) และหากสงครามไม่ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เงินบาทก็อาจได้รับอานิสงส์จากทั้งการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    33.00-33.50
    บาท/ดอลลาร์

  • มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

    • ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด โดยเรามองว่า เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากระดับ 0.00-0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่ตลาดจะรอลุ้นคือประมาณการอัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่ของเฟด (Dot Plot) ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า เฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ถึง 7 ครั้งในปีนี้ เพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดจะรอลุ้นประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งในด้านการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ หลังจากที่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนมากขึ้นจากผลกระทบของภาวะสงคราม นอกเหนือจากการประชุมเฟด ตลาดจะรอจับตาทิศทางการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนกุมภาพันธ์ โดยตลาดประเมินว่า ยอดค้าปลีกยังสามารถขยายตัวได้ราว 0.4% จากเดือนก่อนหน้า แต่เป็นการชะลอลงมากขึ้นจากเดือนมกราคมที่โตถึง 3.8% จากผลกระทบของราคาสินค้าพลังงานรวมถึงราคาสินค้าอื่นๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งตลาดประเมินว่าผลกระทบจากภาวะสงครามที่เริ่มจะกดดันความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้ปรับตัวลดลง อาจกดดันให้การใช้จ่ายของคนอเมริกันชะลอลงมากขึ้นในระยะสั้นได้ ซึ่งภาพเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามมากขึ้น อาจสร้างความลำบากใจให้กับเฟดในการปรับนโยบายการเงิน

    • ฝั่งยุโรป – สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูงและอาจส่งผลให้ตลาดการเงินยังมีแนวโน้มผันผวนสูงต่อได้ นอกจากนี้ ผลกระทบจากสงครามจะกดดันความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (ZEW Economic Sentiment) ของเยอรมนีและของยุโรปในเดือนมีนาคม ให้ปรับตัวลดลงอย่างหนักและมีโอกาสที่ดัชนีความเชื่อมั่นจะต่ำกว่า 0 จุด (ดัชนีต่ำกว่า 0 หมายถึง มุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ) อย่างไรก็ดี แม้ว่าสงครามอาจสร้างความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ แต่ทว่า ปัญหาเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวสูงขึ้นและอาจอยู่ในระดับสูงได้นานกว่าคาด จะกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) สามารถขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ได้ ทั้งนี้ BOE อาจสื่อสารกับตลาดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นกับผลกระทบจากสงครามต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษโดยเฉพาะการเติบโตเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

    • ฝั่งเอเชีย – ตลาดประเมินว่ายอดการส่งออกของญี่ปุ่น (Exports) มีแนวโน้มโตกว่า +20%y/y ในเดือนกุมภาพันธ์ตามการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังสถานการณ์การระบาดโอมิครอนไม่ได้กระทบเศรษฐกิจมากนัก ทว่าผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอาจกดดันให้เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปชะลอลงและกดดันการส่งออกของญี่ปุ่นในอนาคตได้ ทั้งนี้ ผลกระทบจากสงครามที่ได้หนุนให้ราคาสินค้าพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆเร่งตัวขึ้นจะช่วยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.0% ทว่าหากหักผลของราคาสินค้าพลังงานและราคาอาหารสดออก อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) จะอยู่ที่ระดับ -1.0% สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ไม่ดีและจะกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อ ทั้งคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.10% รวมถึงเดินหน้าคุมยีลด์เคิร์ฟและซื้อสินทรัพย์ต่อ ส่วนในฝั่งธนาคารกลางอื่นๆ ความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบของสงครามจะกดดันให้บรรดาธนาคารกลางในฝั่งเอเชียยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายไปก่อน โดยตลาดคาดว่า ธนาคารกลางไต้หวัน (CBC) และ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.125% และ 3.50% ตามลำดับ

    Weekahead carlendar

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย