ไม่มีใครปฏิเสธแน่นอนว่าตลอดระยะเวลาสองปีที่มีโรคระบาดโควิดเกิดขึ้น หุ้นของโมเดิร์นา (NASDAQ:MRNA) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสชื่อดังจะสามารถทะยานขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปีที่แล้ว หุ้นโมเดิร์นาปรับตัวขึ้นไปแล้วทั้งหมด 680% โดดเด่นเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น ที่ใครๆ ต่างก็กำลังประสบความยากลำบาก จากการระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน ดูเหมือนว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นได้หายไป ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ หุ้นโมเดิร์นาร่วงลงมาแล้วมากกว่า 42% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $144.97 สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะนักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้นในกลุ่มเติบโต หันไปลงทุนกลับกลุ่มวัฐจักร ลดความเสี่ยงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
สำหรับสถานการณ์โควิดทั่วโลก ล่าสุดสหราชอาณาจักรได้ประกาศเริ่มวางแผนจบมาตรการคุมเข้มโควิดทั้งหมดแล้ว พวกเขากลายเป็นประเทศแรกที่กล้าตัดสินใจเช่นนี้ การตัดสินใจดังกล่าวหมายความว่าชาวสหราชอาณาจักรไม่ว่าจะเป็นโควิดหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องทำการกักตัวเองอยู่ที่บ้านอีกต่อไป นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังประกาศด้วยว่านโยบายตรวจโควิดฟรีจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 เมษายน
เมื่อประเทศมหาอำนาจโลกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนไม่รู้ว่าจะคาดหวังอัตราการเติบโตจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนได้อย่างไรอีก เพราะในไตรมาสที่สาม รายงานผลประกอบการของบริษัทโมเดิร์นนาไม่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ เมื่อตัวเลขกำไรที่ทำได้ออกมาอยู่ที่ $4,970 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับรายงานผลกำไรไตรมาสสี่ในวันพรุ่งนี้ บริษัทหวังว่าจะได้เห็นกำไร $6,570 ล้านเหรียญสหรัฐ และตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นที่ $9.62
สเตฟาน แบนเซิล CEO ของบริษัทโมเดิร์นาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่าเขาเข้าใจที่หลายๆ คนจะมองว่าเราได้เดินทางมาถึงช่วงปลายยุคของการระบาดใหญ่แล้ว แม้แต่ตัวเขาเองยังยอมรับว่ามีโอกาส 80% ที่ความรุนแรงของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ต่อจากนี้จะมีความรุนแรงลดลง ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทไฟเซอร์ (NYSE:PFE) คู่แข่งคนสำคัญของโมเดิร์นาก็ได้ออกมาเตือนให้นักลงทุนทำใจกับรายงานผลประกอบการรอบล่าสุดด้วยเช่นกัน เมื่อวัคซีนกลายเป็นสิ่งที่หาได้ทั่วไปแล้วในโลกตะวันตก อัตราการเติบโตในเชิงผลกำไรของบริษัทก็จะลดลง นั่นคือสิ่งที่ไฟเซอร์ประเมิน
ช่วงเวลาโปรโมชันได้หมดลงแล้ว
หากเป็นนักลงทุนระยะยาว เราเชื่อว่าคำถามตอนนี้คงจะเป็นในลักษณะเดียวกัน หุ้นของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเหล่านี้ยังควรลงทุนอยู่ไหม? มีโอกาสที่หุ้นโมเดิร์นาหรือไฟเซอร์จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายติดต่อกันได้อีกหรือไม่? คำตอบของคำถามนี้ ส่วนตัวแล้วเรามองว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในปีนี้ว่าจะแผ่วลงแบบสมบูรณ์เลยหรือไม่ และขึ้นอยู่กับว่าบริษัทเหล่านี้จะมีศักยภาพพอที่จะพัฒนาวัคซีน mRNA ให้ไปจนถึงขีดสุด จนทำให้โควิดกลายเป็นหวัดธรรมดาไปเลยได้หรือไม่
ผู้บริหารของ Moderna มองในเชิงบวกว่าเทคโนโลยีของพวกเขาจะนำไปใช้รักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่น ๆ เช่นไวรัสระบบทางเดินหายใจ (RSV) และไซโตเมกาโลไวรัส (CMV) เช่นเดียวกับการรักษาอื่นๆ ที่เป็นไปได้ รวมถึงโรคมะเร็งและโรคเกี่ยวกับการอักเสบ
การเดิมพันเพื่อความก้าวหน้าอื่นๆ ไม่อาจนำกำไรมาสู่นักลงทุนได้เร็วเท่ากับการที่วัคซีนโควิดอื่นๆ ในอนาคตได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นยาฉุกเฉิน ในตอนที่วัคซีนโมเดิร์นาออกสู่ตลาดช่วงปลายปี 2020 วัคซีนทดลองของ Moderna ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในการทดลองในระยะเริ่มต้นของมนุษย์ (ยกเว้นสำหรับไซโตเมกาโลไวรัส) ตอนนั้นนักลงทุนก็เดิมพันกับความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์หากสามารถใช้งานได้จริง
นักวิเคราะห์บางคนยังเชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ยกตัวอย่างเช่นธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เมื่อเร็ว ๆ ในรายชื่อหุ้นคุณภาพของโกลด์แมน โมเดิร์นายังสามารถผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัด "คุณภาพ" ต่างๆ เช่นมีงบดุลที่มั่นคง มีอัตรากำไร และมูลค่าตลาดสูง ตลอดจนผลตอบแทนจากกระแสเงินสดอิสระที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย จากข้อมูลของโกลด์แมน โมเดิร์นามีผลตอบแทนจากกระแสเงินสดอิสระสูงสุดที่ 20% และอัตรากำไรสูงสุดที่ 56%
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จากทั้งหมด 19 คนของ Investing.com ยังเชื่อว่าหุ้นโมเดิร์นามีโอกาสปรับตัวขึ้นจากปัจจุบันอีด 84.18%
ที่มา: Investing.com
โดยสรุปแล้ว
จากสถานการณ์ที่ความตื่นเต้นที่มีกับวัคซีนลดลง และนักลงทุนรายย่อยถอนตัวจากหุ้นโมเดิร์นา ทำให้หุ้นตัวนี้ยิ่งมีความน่าดึงดูดมากขึ้น เหตุผลเป็นเพราะอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น และบริษัทยังได้ทุนมาจากวัคซีนโควิดมากมาย มาต่อยอดการพัฒนาวัคซีนหรือยาสำหรับโรคอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ Moderna เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนระยะยาวมากกว่าเดิม