รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันแพง แต่ทำไมระดับการสำรวจและการผลิตยังคงต่ำ?

เผยแพร่ 18/02/2565 13:53
อัพเดท 09/07/2566 17:31

ระดับราคาน้ำมันที่สูงกว่าที่เคยเป็นมาในรอบเจ็ดปี แม้จะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภค แต่ในมุมมองของผู้ผลิตแล้วถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับบริษัทน้ำมัน และการขยายตัวของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เราเห็นสิ่งผิดปกติในประเด็นนี้Crude Oil WTI Weekly Chart

ด้วยราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น การสำรวจและการผลิต (E&P) ก็ควรที่เพิ่มมากขึ้นตาม แต่นั่นกลับไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น จากข้อมูลของ Amrita Sen นักวิเคราะห์ในบริษัทด้านพลังงานเผยว่า อุตสาหกรรมพลังงานต้องการ "การลงทุนอย่างน้อย 520 พันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี" เพื่อให้การผลิตทั่วโลกอยู่ในระดับ 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการวิเคราะห์ของเธอ อุตสาหกรรมในตอนนี้มีการลงทุนเพียง 370 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น

เหตุใดเราจึงไม่เห็นการลงทุนเพิ่ม และการขาดแคลน E&P นี้มีความหมายต่อตลาดในระยะยาวอย่างไร?

อะไรคือปัจจัยฉุดรั้งระดับการสำรวจและการผลิตน้ำมัน?

กำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐอเมริกาปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าระดับการผลิตในเดือนมกราคม 2020 แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นอย่างน้อย 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และดึงดูดผู้ผลิตมากขึ้น เมื่อมาดูที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน พบว่ายังอยู่ที่ประมาณ 500 แท่น เทียบกับแท่นขุดเจาะน้ำมันเกือบ 700 แห่งที่เปิดทำการก่อนเกิดโรคระบาด สิ่งนี้บ่งชี้ว่ากำลังการผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักทั้งๆ ที่มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า

ตัวชี้วัดอย่างเช่นผลสำรวจจากธนาคารกลางแห่งดัลลัส และอื่นๆ บอกเราว่าผู้ผลิตในสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในการผลิต ด้วยเหตุผลหลายประการ เหตุผลบางอย่างเหล่านี้เป็นปัญหาที่มีลักษณะเฉพาะในสหรัฐฯ แต่บางปัญหาก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตอื่นๆ นอกชายฝั่งของสหรัฐอเมริกาด้วย

1. ความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐ

กฎระเบียบของรัฐบาลกลางที่ควบคุมการผลิตน้ำมันและก๊าซนั้นไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎที่ควบคุมการปล่อยมลพิษ ความชัดเจนของการอนุญาต และการเช่าซื้อ แม้จะมีศักยภาพในการสร้างผลกำไรในระยะสั้น แต่ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ยังคงวิตกกังวลว่านโยบายของรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนที่พวกเขาที่พวกเขามีอยู่ในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในโครงการระยะยาว

2. เหล่านายทุนไม่กล้าตัดสินใจ

เมื่อนโยบายภาครัฐไม่ชัดเจน ธนาคารและนักลงทุนก็ไม่มั่นใจในอนาคตเช่นเดียวกัน ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากนักเคลื่อนไหว เกี่ยวกับการลงทุนขนาดใหญ่ในบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเผชิญกับแรงกดดันให้ยกเลิกการทำกิจการเกี่ยวกับพลังงานไปเลย แรงกดดันและความไม่แน่นอนเหล่านี้ลดแรงจูงใจในการรับความเสี่ยงที่จะทำธุรกิจในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

3. ปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อม

ด้วยความไม่แน่นอนมากมาย ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซจึงระมัดระวังที่จะดำเนินนโยบายให้ไม่ขัดกับสิ่งที่ขบวนการนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต้องการน้อยที่สุด ซึ่งสิ่งนี้รวมถึงความสามารถในการขยายและเพิ่มงบประมาณให้กับ E&P ประเด็นเหล่านี้ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษในยุโรป ที่นโยบายของรัฐบาลกีดกันผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากการมีส่วนร่วมในการสำรวจและผลิตใหม่ บริษัทหลายแห่ง เช่น BP (NYSE:BP) ยังคงทุ่มเงินและลงทุนในโครงการที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แม้ว่าการขายและการกลั่นน้ำมันดิบยังคงเป็นแหล่งรายได้และกำไรที่ใหญ่ที่สุด และราคาน้ำมันจะสูงมากก็ตาม 

4. ราคาหุ้น 

บริษัทน้ำมันยังคงพอใจกับราคาหุ้นสูงในระยะสั้น นับตั้งแต่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในปี 2014 ผู้ผลิตน้ำมันก็ได้ลดงบประมาณของ E&P ลง พวกเขาลดการลงทุนเพื่อปกป้องราคาหุ้นของตนเอง เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้นอีกครั้ง ผู้ผลิตสามารถนำรายได้กลับมาลงทุนใน E&P (พร้อมสิทธิประโยชน์ทางบัญชีและการลดหย่อนภาษี) หรืออาจใช้ผลกำไรเพื่อหนุนราคาหุ้นผ่านเงินปันผลและรายงานตัวเลขผลประกอบการที่ออกมาดีเยี่ยม เพื่อให้การลงทุนกับ E&P ไม่สูงจนเกินรับได้ ผู้ประกอบการในวงการนี้ส่วนใหญ่เลือกอย่างหลัง เนื่องจากปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ มีโอกาสที่จะได้ราคาหุ้นและเงินปันผลสูง (ไม่ใช่เฉพาะผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่เลือกดำเนินนโยบายเช่นนี้)

ระดับการสำรวจและผลิตต่ำมีความหมายอย่างไรกับอุตสาหกรรมและตลาดลงทุน

สำหรับตลาดลงทุน ระดับการผลิตในอนาคตระยะสั้นที่ยังไม่เพิ่มขึ้นจะเป็นการลดความกังวลในแง่ของอุปทานส่วนเกิน แต่หลังจากนั้น ในระยะยาว (หลายปีต่อจากนี้) เราอาจเห็นการขาดแคลนอุปทานที่สำคัญหากผู้ผลิตไม่เริ่มลงทุนใน E&P เพิ่มในเร็วๆ นี้

สำหรับอุตสาหกรรมผู้ผลิตพลังงาน การลงทุนใน E&P อย่างจำกัดหมายความว่าราคาของหุ้นส่วนใหญ่จะสูงตราบเท่าที่ราคาน้ำมันยังสูง แต่หากทำเช่นนี้ต่อไป ผู้ผลิตจำนวนมากจะต้องประสบปัญหาในระยะยาว หากพวกเขาไม่กระตือรือร้นหาวิธีการผลิตพลังงาน ในอนาคต ผู้ผลิตพลังงานที่ลงทุนใน E&P หรือที่สามารถซื้อสินทรัพย์ ที่พร้อมสำหรับการผลิตได้ จะมีความได้เปรียบมากกว่าผู้ผลิตที่ไม่ได้เตรียมตัวในเรื่องนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

อย่มาตั๋ว
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย