🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

เชื่อว่า Downside สำหรับ SET Index ไม่มาก

เผยแพร่ 29/12/2564 09:16
SETI
-
KBANK
-

นับจากการเกิดขึ้นของ Covid-19 สายพันธ์Omicron จนถึงปัจจุบัน พบว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้ตอบสนองเชิงลบ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะอยู่ในระดับสูง เหตุผลส่วนหลักน่าจะมาจากท่าทีของรัฐบาล ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการจำกัด กิจกรรมเศรษฐกิจถึงขั้น Lockdown แต่ก็พบในบางประเทศที่มีLockdown ปรากฎว่าก่อนการประกาศราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาแรงก่อนค่อยๆ ฟื้นตัว กลับ เราเห็นว่าตัวแปรประการสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทรงตัวอยู่ได้ น่าจะมาจากสภาพคล่องส่วนเกินในระบบการเงิน ซึ่งอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ใน ส่วนของตลาดหุ้นไทยก็น่าจะอยู่ในภาวะดังกล่าวเช่นกัน เรายังเชื่อว่า Downside ของ SET Index มีไม่มาก แต่ก็ต้องติดตาม Omicron ใกล้ชิด
SET Index ยังน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1635-3650 จุด จนถึงสิ้นปี 2564 พอร์ตจำลองวันนี้ไม่มีการเปรับเปลี่ยน โดยคงระดับเงินสดสำรองไว้ที่ 10% หุ้น Top Pick เลือก CPF, KBANK (BK:KBANK) และ ADVANC
ผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นทำ New high ช่วงปลายปี แต่ไทยยังต่ำ รอลุ้นต้นปี 2565
2 วันสุดท้ายของปี 2564 เริ่มขาดปัจจัยหนุน หลักๆ ทั่วโลกยังคงให้น้ำหนักฟรือติดตาม พัฒนาการ สถานการณ์Covid สายพันธุ์ Omicron จะทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ New Case ทั่วโลกหลังเทศกาลปีใหม่ช่วงต้นปี 2565 เป็นอย่างไร ???
หากพิจารณาสถานการณ์ปัจจุบัน ทั่วโลก : สหรัฐ เมื่อวานรายงาน New Caseเพิ่มขึ้น ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ล่าสุด เพิ่ม 5 แสนราย (ดังรูปเส้นสีฟ้า) เช่นเดียวกับยุโรป รายงาน New Case ทำ New High เพิ่ม 8.1 แสนราย (เส้นสีแดง) และอังกฤษ เพิ่ม 3 แสนราย หลักๆเกิดเป็นการแพร่กระจายจาก Omicron แต่เป็นที่สังเกตุว่าตลาดหุ้น โลก ทั้งสหรัฐและยุโรป เมื่อวานนี้ไม่ได้ตอนสนองเชิงลบ และยังปรับตัวเพิ่มขึ้นทำ New high บ่งชี้ว่าตลาดเริ่มซึมซีมประเด็นเหล่านี้ไประดับนึงแล้ว คาดให้น้ำหนักการออก มาตรคุมเข้มของรัฐที่จะออกมามากกว่า
สวนทางกับไทย อิงเช้านี้ รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ไทยเพิ่มขึ้น 2.57 พันราย (ยังต่ำกว่า 1 หมื่นรายติดต่อกันราว 2 เดือน) อย่างไรก็ตามยังต้องติดตาม 3 Scenario ฉากทัศน์ ที่กระทรวงสาธารณะสุขคาดการณ์สถานการณ์ Covid-19 หลังเทศกาลปีใหม่ หรือ เดือน ม.ค.-ก.พ.65 ว่าจะเป็นในกรณีใดกล่าวคือ 1.) Best case ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นวัน ละ 1-1.3 หมื่นรายต่อวัน 2.)กรณี Base Case (เส้นสีน้ำตาล) ผู้ติดเชื้อวันละ 1.5-1.6 หมื่นรายต่อวัน 3.) กรณีเลวร้าย (เส้นสีน้ำเงิน) ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2.5-3 หมื่นรายต่อวัน
ฝ่ายวิจัย ASPS ให้น้ำหนักติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid หลังปีใหม่??? หากออกมา ไม่เกิน 1.5 หมื่นราย หรือเท่ากับ Base case ที่สาธารณะสุขคาดการณ์ไว้ เชื่อว่า จะยัง ไม่น่าเห็นการคุมกิจกรรมเศรษฐกิจแบบเข้มงวด หรืออาจจะเป็นการดำเนินงานในบาง พื้นที่ หรือบางกลุ่มธุรกิจ และคาดจะไม่รุนแรงเหมือนในงวด 2Q63 โดยผลกระทบต่อคาดการณ์ เศรษฐกิจไทยและกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2565 คาด น่าจะจำกัด หรือไม่หดตัวแรง
Omicron ยังเป็น Overhang จากสิ้นปี-ต้นปีหน้า
ฝ่ายวิจัย ASPS ได้ทำการศึกษารูปแบบการระบาดของโควิด สายพันธุ์ Omicron ใน ประเทศที่พบการระบาดที่มัสัดส่วนมากกว่า 40% พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ใน ภาพรวมเร่งตัวมีแนวโน้มกินระยะเวลามากกว่า 1 เดือน (ดังรูป a)ส่งผลให้บางประเทศ กลับมาเพิ่มความเข้มงวดกิจกรรมทางเศรษฐกิจสะท้อนได้จาก Stringency Index ซึ่ง เป็นดัชนีวัดความเข้มงวดของมาตรการภาครัฐฯ เช่น ปิดโรงเรียน สถานที่ทำงาน การ จำกัดการเดินทาง มีค่าตั้งแต่ 0-100 โดยระดับยิ่งสูงหมายความว่ามาตรการยิ่งเข้มงวด ที่สูงขึ้น (รูป b) พบว่ามักจะสร้างความอ่อนไหวต่อทิศทางตลาดหุ้นในช่วงรอยต่อการ ปรับใช้มาตรการ แต่หลังจากนั้นหากไม่มีการบังคับใช้หรือรัฐออกมีมาตรการคุมเข้ม กิจกรรมเศรษฐกิจเพิ่มเติม พบว่าตลาดหุ้นประเทศต่างๆจะฟื้นตัวขึ้นมาตามลำดับ
ส่วนในบ้านเราที่ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงต้นของการระบาด Omicron ทำให้เดือน ม.ค.65 ประเด็นนี้อาจกลับมาสร้างความกดดันหรืออย่างน้อยจะเป็น Overhang ที่จำกัดการ ขึ้นของ SET Index ในช่วงที่เหลือของปี แต่อย่างไรก็ตามหากอ้างอิงกับประเทศอื่นๆที่โดยส่วนใหญ่ Downside ในการปรับลงจะไม่ต่ำกว่ารอบที่ WHO ประกาศว่า Omicron เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลในช่วงปลายเดือน พ.ย. ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินแรง กดดันต่อ SET Index น่าจะจำกัดตรง 1568 จุด
ตลาดหุ้นไทยมี Forward MEYG65F ระดับ 4.5% หนุนหุ้นพื้นฐานน่าสะสม
สภาพคล่องที่ยังล้นระบบจากเงินฝากที่อยู่สูงถึง 16.35 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้น ต.ค. 64) รวมถึงดอกเบี้ยนโยบายไทยที่ยืนในระดับ 0.5% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ กลาง พ.ค. ถึงปัจจุบัน และมีโอกาสต่อเนื่องอีกตลอดปีหน้า ขณะที่ Market Earning น่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น ทำให้นักลงทุนอาจคงย้ายเม็ดเงินลงทุนเข้า มาในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ โดย SET Index ณ ปัจจุบัน มี Market Earning Yield Cap. อยู่ที่ 4% (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย) และกำไรที่มีแนวโน้ม เติบโตชัดเจนในปีหน้า หนุน Market Earning Yield Cap. 65F อยู่ที่ 4.5% (เป็น ระดับใกล้เคียง +1SD) ถือเป็นโอกาสในการสะสมหุ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานดี เนื่องจากราคาค่อนข้างที่จะ Laggard โดย SET50 +7.9%ytd ต่างกับดัชนี MAI, SSET ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง +70%ytd, +61%ytd ตามลำดับ และในปีหน้าประเทศไทยเริ่มมีข้อจำกัดในการเก็งกำไร ทั้ง จากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มความเข้มข้นของเกณฑ์ Cash Balance, คลังจะ พิจารณาเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นไทย ส่งผลให้นักลงทุนอาจลดปริมาณการเก็งกำไร ในหุ้นขนาดเล็กที่ขึ้นมาร้อนแรงในปี 2564 จน และกลับมาพิถีพิถันในการเลือกหุ้น ในมุมพื้นฐานมากขึ้น กลยุทธ์วันนี้แนะนำสะสมหุ้นใหญ่พื้นฐานดี โดยเลือก ADVANC, CPF, KBANK เป็น Top pick

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย