หากตอนนี้คุณยังลงทุนอยู่ เราต้องขอแสดงความยินดีที่คุณสามารถเอาชีวิตรอดมาในปีที่มีความผันผวนมากที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกลงทุนมาได้ นับจากตอนนี้ เราเหลือเวลาอีกเพียงสี่วันเท่านั้นสำหรับปี 2021 แต่ถึงอย่างนั้นการต่อสู้ระหว่างความเสี่ยงและความกลัวก็ไม่ได้ลดลงเลย สินค้าโภคภัณฑ์หลายๆ ประเภทกำลังพยายามจะรักษาระดับราคาของตัวเองให้อยู่รอดไปจนถึงปีหน้า น้ำมันดิบพยายามที่จะทรงตัวอยู่เหนือ $70 ต่อบาร์เรล (ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขึ้นไปที่ $80 ต่อบาร์เรล) ในขณะเดียวกันทองคำก็พยายามที่จะยืนเหนือ $1,800 ให้ได้ 
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนได้ทำให้สายการบินในอเมริกาต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 1,000 ไฟลท์ในช่วงวันหยุดคริสต์มาส สภาพอากาศที่เลวร้าย ประกอบกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทำให้หลายคนตัดสินใจยอมแพ้ จัดปาร์ตี้ปีใหม่เล็กๆ อยู่ในที่พักของตัวเองดูจะเป็นทางเลือกที่สบายใจกว่า นอกจากการโควิดจะโจมตีสายการบินแล้ว ธุรกิจเรือสำราญก็ได้รับผลกระทบ เรือหลายลำต้องถูกบังคับให้กลับเทียบท่าเนื่องจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อขึ้นไปพักผ่อนอยู่บนเรือ
โอมิครอนกดดันการท่องเที่ยวและราคาน้ำมันอย่างหนัก
ก่อนที่จะมีโรคระบาดที่เรียกว่าโควิด-19 เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้โลกเราเคยมีความสุขกับช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ลากยาวไปจนถึงปีใหม่เป็นอย่างมาก การท่องเที่ยวสามารถทำกำไรได้จนอิ่มหนำสำราญก็ต้องทำในช่วงนี้ การเดินทางเฟื่องฟู ส่งผลให้มีความต้องการน้ำมันมากขึ้น ครั้งสุดท้ายที่อุตสาหกรรมนี้เติบโตจนถึงขีดสุดต้องย้อนกลับไปในปี 2019 เลยทีเดียว หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ไฟลท์บินต้องถูกยกเลิกเพราะหากพบเพียงความเป็นไปได้ที่มีผู้ติดเชื้ออยู่บนเครื่องบิน ทั้งกัปตัน ลูกเรือ และผู้โดยสารจำเป็นต้องกักตัว 14 วันทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อเกิดขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่านับจากวันแรกที่โอมิครอนสามารถเหยียบสหรัฐอเมริกาได้เมื่อเดือนพฤศจิกายน จนถึงตอนนี้ในบางพื้นที่มียอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 90% ในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกของอเมริกา มีรายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 45% คิดเป็น 179,000 รายต่อวัน นี่คือตัวเลขของเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ถึงจะมีข้อมูลว่าความรุนแรงของโอมิครอนอาจสู้สายพันธุ์ก่อนหน้าไม่ได้ แต่ถ้าให้เลือก ก็ไม่มีใครอยากติดเชื้อโควิด ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใดก็ตาม
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนี้ยังไม่นับถึงประเด็นคนที่ไม่ต้องการรับวัคซีนเข็มแรกเพราะความเชื่อผิดๆ หรือคนที่ต้องการรอยาต้านโควิดชนิดเม็ด ที่บริษัทไฟเซอร์ (NYSE:PFE) พึ่งจะได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นยาฉุกเฉินเมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับการระบาดที่เกิดขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าทำเนียบขาวออกมาพูดเพียง “สถานการณ์การะบาดของเราในคริสต์มาสปีนี้ถือว่าดีกว่าปีทีแล้ว มีเพียงคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ”
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิดโอมิครอน ได้ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดฝั่งเอเชียช่วงบ่ายวันนี้ปรับตัวลดลง 0.5% เปิดโอกาสให้มีการดีดตัวกลับขึ้นมาในช่วงที่ตลาดลงทุนฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ กำลังจะเปิด ราคาน้ำมันดิบ WTI ณ เวลา 10:30 AM ของสิงคโปร์มีราคาซื้อขายอยู่เหนือ $73.50 ต่อบาร์เรล จุดสูงสุดของ WTI ในสัปดาห์ที่แล้วมีราคาอยู่ที่ $73.79 ต่อบาร์เรล หากพิจารณาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งหมด 51% มีจุดสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ $85.41 ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาวิ่งต่ำกว่า $65 ต่อบาร์เรล
ทองคำกับโอกาสขาขึ้นในปี 2022
สำหรับตลาดทองคำ ตอนนี้ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์บนตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์มีราคาซื้อขายอยู่เหนือ $1,811 ต่อออนซ์ ถือเป็นจุดสูงสุดในรอบห้าสัปดาห์ สร้างขวัญกำลังใจให้กับนักลงทุนที่ต้องการใช้ทองคำเป็นตัวคานความเสี่ยงเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นท่ามกลางการประกาศอย่างเป็นทางการจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะเพิ่มวงเงินสำหรับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเตรียมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าอย่างแน่นอน จริงอยู่ว่าข่าวนี้ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับตลาดทองคำ แต่ในเมื่อสิ่งนั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องรอดูในอนาคต นักลงทุนจึงขออยู่กับปัจจุบัน ที่อัตราเงินเฟ้อยังคงทะยานขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์
ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินเฟ้อในช่วงระยะหลังของอเมริกาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนพฤศจิกายนมีตัวเลขเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.8% เติบโตเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982 ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตของเดือนพฤศจิกายนก็ทะยานขึ้นเช่นกัน ด้วยตัวเลข 9.6% YoY ตั้งแต่ต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำปรับตัวลดลงเกือบ 5.5% สร้างจุดสูงสุดตลอดทั้งปีเอาไว้ที่ $1,980 ในเดือนมอกราคม มีจุดต่ำสุดของปี 2021 อยู่ที่ $1,680 ในเดือนสิงหาคม
เอ็ด โมญ่า นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA แสดงความเห็นต่อราคาทองคำหลังจากการประกาศตัวเลขดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคลในเดือนพฤศจิกายน ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.7% YoY ว่า
“ปี 2022 อาจจะยังเป็นปีที่ปรับตัวขึ้นได้ของราคาทองคำ เพราะความเสี่ยงที่มีในปี 2021 ไม่มีทีท่าว่าจะสามารถจบลงได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียว”