1620-1660
SET: คาดวอลุ่มการซื้อขายจะเริ่มเบาบางในสัปดาห์นี้ หลังตลาดหุ้นเข้าสู่ สัปดาห์สุดท้ายของปี สอดคล้องกับปฏิทินทางเศรษฐกิจที่เบาบางใน สัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน จะมีก็แต่ด้วเลขเศรษฐกิจไทยประจําเดือนพ.ย.ที่จะ ออกมาในวันที่ 30 ธ.ค. (แนะจับตาตัวเลข Private consumption index: PCI และ Current account) รวมถึงตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศ จนเดือนธ.ค.ที่จะออกมาในวันที่ 31 ธ.ค. (ล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 50.0) ประเมินกรอบการแกว่งด้วของ SET ทั้งสัปดาห์ที่ 1620-1660 จด SSF & RMF: ในส่วนของปัจจัยเม็ดเงินกองทุนลดหย่อนภาษีที่จะ ไหลเข้ามาในช่วงปลายปีนั้น เราไม่ได้ให้น้ําหนักเชิงบวกต่อคัชนี SEI แต่อย่างใด เนื่องจากหากอ้างอิงสถิติเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนจะ พบว่า เม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน SSF ราว 3.1 หมื่นล้านบาทนั้น กว่า 93% หรือ 2.9 หมื่นล้านบาทเลือกที่จะไหลเข้าสู่กองทุน SSF ตราสารหนี้ทั้งสิ้น เหลือเพียงแค่เม็ดเงิน 1.2 พันล้านบาทที่ไหลเข้ากองหุ้นต่างประเทศ และ 1.0 พันล้านบาทที่ไหลเข้ากองหุ้นไทยเท่านั้น (รูปที่ 1) Big Picture: ส่วนในภาพใหญ่ ยังคงคาดการณ์ SET Index แกว่งตัว Sideways ถึง Sideways up สู่ระดับเป้าหมายถัดไปของเราที่ 1660-1680 จด โดยล่าสุด Risk Sentiment ในตลาดโลกยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อน ผ่านเงิน USD ที่อ่อนค่า ราคาโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น รวมไปถึง VIX Index ที่ต่าลง แถมเริ่มมีสัญญาณ Fund flow ในบ้านเราที่เป็นบวกมากขึ้น โดย นักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่าง ต่อเนื่อง และมีสัญญาณเชิงบวกจากการปรับตัวของ ETF หุ้นไทยที่ สหรัฐฯ Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนํานักลงทุนถือครองหุ้นเพื่อ Let profit run ต่อไป ทั้งกลุ่ม 1) Domestic consumption (KBANK (BK:KBANK), BBL, BJC, CPALL (BK:CPALL), HMPRO, DOHOME, COM7, M, ORI, SPALI, SIRI, BEM, BTS, PLAN, MAJOR, VGI, PF&REIT) ซึ่งหากตัวเลข PCI ในสัปดาห์นี้ ออกมาดี คาดเป็นปัจจัยกระตุ้นต่อเนื่องสําหรับกลุ่มนี้ และ 2) กลุ่ม High dividend (SCC, TISCO, AP, ADVANC, PTT (BK:PTT), INTUCH, BBL, LH, GUNKUL, PTTEP, SIRI) ที่เตรียมเข้าสู่ High season ในช่วง 4 เดือนแรก ของปีหน้า BJC: ทั้งนี้ สําหรับหุ้น BJC ที่อยู่ในธีม Domestic consumption ของเรา ด้วยนั้น แนะหาจังหวะซื้อในช่วงสัปดาห์นี้เพื่อคาดหวังการรีบาวดใน ระดับ 5-7% ช่วงเดือนมกราคม หลังผลการศึกษาของเราในอดีตแสดง ให้เห็นว่า ด้วหุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SET50 นั้นมักปรับด้วรีบาวด์ขึ้นได้ ราว 5-7% ในช่วง 1 เดือนหลังจากนั้น SCFI: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รายงานดัชนีค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ประจํา สัปดาห์จากทางเซียงไฮ้ปรับด้วสูงขึ้นทําจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง (รูปที่ 2) มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มเรือคอนเทนเนอร์ (RCL) และกลุ่ม Logistic ทางทะเล (LEO, SONIC, WICE) ต่อไป
แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,647
Key risk: ในส่วนของปัจจัยเสียงที่สําคัญที่สุดช่วงต้นปีหน้า มองไปยังการเคลื่อนย้าย สัญจรของผู้คนในช่วงสิ้นปีและปีใหม่ที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งแน่นอนคงจะน่ามาสู่การแพร่ ระบาดที่มากขึ้นของโควิดสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงสายพันธุ์ใหม่อย่าง Omicron แต่หาก ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้นํามาซึ่งมาตรการจํากัดการเดินทางคนในประเทศที่มากขึ้น มองจะ ท้าให้สมมติฐานการลงทุนหลักของเราต่างๆ ยังคงเกิดขึ้นได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นระดับ เป้าหมายของ SET ที่ 1660-1680 จุดในกรณีฐาน และ 1800 จุดในกรณีที่สุด การมอง ว่าไตรมาส 1 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด และการแนะน่ากลุ่ม Domestic consumption เป็น Core portfolio ของเรา
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities