สรุป ราคาทองคําระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,781.50-1,788.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ต่อ ขอนซ์ จากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย. แต่ถือว่าไม่ได้ร้อนแรงเท่าที่คาดไว้ว่า ขาพุ่งขึ้นเหนือ 7% นั่นทําให้ตลาดลดการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวในปีหน้า ในวันนี้ราคาทองคํามีปัจจัยหนุนจากบริษัทจด ทะเบียนของจีนหลายสิบแห่งได้ระงับการผลิตในส่วนที่ได้รับผลกระทบจากโควิต-19 ในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน และได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโค วิต-19 อย่างเป็นทางการจํานวน 173 ราย โดยมีการยืนยันระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค. นับเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดในประเทศกลุ่มแรกในปีนี้ รวมถึงยอดขาย รถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศจีนในช่วงเดือนพ.ย. ปรับตัวลง 12.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.82 ล้านคัน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกตาม ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดปรับตัวขึ้น ประกอบกับดอลลาร์แข็งค่าที่กรอบกลางของ 113 เยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ หลังจะมีการ ประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ ประเด็นเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่สกัดช่วงบวกราคาทองคําได้ ทั้งนี้ระหว่างวันหากราคาทองคําไม่ทะลุแนวต้าน 1,7931,796 ตอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนําเปิดสถานะขายในโซนดังกล่าว (ตัดขาดทุนหากผ่านโซน 1,805 ตอลลาร์ต่อออนซ์) ประเมินแนวรับบริเวณ 1,769-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา
เปิดสถานะขาย 1,793-1,796
จุดทํากําไร
ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,769-1,767
ตัดขาดทุน
ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,808
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ylgbullion.co.th