สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 8.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำเผชิญกับแรงกดดัน ได้แก่
(1.) การอ่อนค่าของเงินปอนด์ หลังจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันอนุมัติ "Plan B" เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัสโอมิครอน โดยกฎเกณฑ์ใหม่ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ ที่ 10 ธ.ค.นี้ได้รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะส่วนใหญ่ การใช้เอกสาร รับรองโควิดสำหรับบางสถานที่และการแนะนำให้ทำงานที่บ้าน
(2.) การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 184,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต ่าที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 2512และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 211,000ราย ซึ่งสะท้อนว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เร่ง อัตรการลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE และจะเปิดทางให้เฟดมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เฟดเคยประเมินไว้ และปัจจัยนี้เป็นปัจจัยหนุนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้น 0.31% แตะที่ 96.205และมีแนวโน้มปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน และ
(3.) แรงขายตามทางเทคนิคหลังจากปัจจัยกดดันข้างต้น ฉุดให้ทองคำหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อจนกระทั่งทดสอบระดับต ่าสุดบริเวณ 1,773.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ประจำเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อในฝั่งของผู้บริโภค และตัวเลขเงินเฟ้อมักจะส่งผลกับราคาทองคำทองคำได้ทั้ง 2 ทิศทางจึงต้องระวังความผันผวนของราคาเพื่อตอบรับการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันนี้
มีแรงขายสลับออกมาเพิ่ม หลังจากราคาฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น ขณะที่ความผันผวนของราคาวันนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่ง หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,793-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาปรับตัวลงต่อ มีโอกาสเกิดแรง ขายกลับลงมา โดยมีแนวรับในโซน 1,772-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ เปิ ดสถานะขาย 1,793-1,796
จุดทำกำไร ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,772-1,767
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,808
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th