ถึงแม้เราจะได้ยินข่าวเศรษฐกิจพาดหัวอยู่ตลอดทั้งปีว่า “มีความกังวลเงินเฟ้อ” แต่สินทรัพย์คานเงินเฟ้ออย่างทองคำและโลหะเงินกลับไม่ได้ทำหน้าที่มากเท่าที่ควร ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพียง 2.5% ในขณะที่โลหะเงินปรับตัวขึ้น 5.5% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนว่าตลาดลงทุนจะกลับมาให้ความสำคัญกับสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งสองอีกครั้ง เมื่อรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกาทะยานขึ้นสูงอย่างน่าตกใจ ดัชนี CPI ที่มีชื่อเล่นว่า “มาตรวัดเงินเฟ้อ” และเป็นหนึ่งในสี่มาตรวัดเงินเฟ้อหลักของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความตกใจของตลาดที่ได้เห็น CPI ในเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นมากถึง 6.2% YoY ส่งให้ทองคำดีดตัวขึ้นจาก $1,830 ขึ้นมาทีเดียว $30 นี่คือตัวเลขเงินเฟ้อที่เติบโตเร็วที่สุดในรับสามสิบปี (ตั้งแต่พฤศจิกายนปี 1990)
อันที่จริง ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุนในตลาดอะไรก็ตาม สิ่งที่นักวิเคราะห์หรือกูรูมักจะย้ำอยู่เสมอคือให้ลงทุนในสินทรัพย์คานความเสี่ยงจากระบบการเงินปกติเอาไว้บ้าง อย่างน้อยต้องมีการลงทุนในทองคำประมาณ 5-10% เพื่อคานความเสี่ยงในกรณีที่เหตุการณ์เช่นทุกวันนี้เกิดขึ้น
แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ต้องลงทุนในทองคำหรือโลหะเงินรูปพรรณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผู้ที่สนใจกระจายความเสี่ยงสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม ETF ที่ลงทุนกับบริษัทในอุตสาหกรรมโลหะมีค่าได้ ในบทความนี้ เราจะพาไปดูสามกองทุน ETF ที่น่าสนใจหากคิดจะลงทุนในทองคำและโลหะเงิน
1. SPDR Gold Shares
- ระดับราคาปัจจุบัน: $172.92
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $157.13 - $183.21
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.40% ต่อปี
นักลงทุนทองคำต้องรู้จักกองทุนนี้เป็นอย่างดี SPDR® Gold Shares (NYSE:GLD) เป็นกองทุนที่ติดตามราคาทองคำแท่งโดยเฉพาะ เป็นตลาดทองคำสปอตที่เปิดให้ทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ในปัจจุบัน ความต้องการทองคำหลักๆ มาจากการลงทุนและการนำไปแปรรูปเป็นสินทรัพย์รูปพรรณ กองทุนนี้เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2004 มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น $58,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
GLD ถือเป็นกองทุน ETF ทองคำจับต้องได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน GLD ปรับตัวลดลง 2.4% ก่อนที่จะปรับตัวกลับขึ้นมาได้ประมาณ 5% ในเดือนที่แล้ว ตอนนี้ GLD มีระดับแนวต้านอยู่ที่ $180 สำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น ให้พิจารณาลงทุนที่ระดับราคา $170 ส่วนตัวแล้ว เราเชื่อว่าปี 2022 จะเป็นปีทองของทองคำ ระดับราคาเป้าหมายที่ $190 ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อม
2. iShares Silver Trust
- ระดับราคาปัจจุบัน: $22.96
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $19.78 - $27.98
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.40% ต่อปี
เมื่อมีกองทุนที่ลงทุนในทองคำโดยเฉพาะ แน่นอนว่าก็ย่อมต้องมีกองทุนที่ลงทุนในโลหะเงินโดยเฉพาะด้วยเช่นกัน iShares Silver Trust (NYSE:SLV) คือกองทุนที่ลงทุนในโลหะเงินผ่านโบรกเกอร์ SLV ติดตามความเคลื่อนไหวของโลหะเงินในรูปแบบแท่ง (คล้ายกับทองคำแท่ง) อ้างอิงราคามาจากสมาคมตลาดโลหะมีค่าแห่งลอนดอน (LBMA) ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายทองคำและโลหะเงินที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน
SLV เปิดเริ่มต้นให้ลงทุนมาตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2006 มีสินทรัพย์รวมแล้วทั้งสิ้น $13,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน SLV ปรับตัวลดลง 5.4% ก่อนที่จะปรับตัวกลับขึ้นมาได้ประมาณ 7.5% ในเดือนที่แล้ว ปัจจุบัน ความต้องการโลหะเงินหลักๆ มาจากการทำเครื่องประดับ เป็นตัวนำไฟฟ้าและความร้อน
ในบางครั้ง การเติบโตทางเศรษฐกิจและการนำโลหะเงินไปใช้เพื่อการปรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศก็สามารถทำให้ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นได้ สำหรับนักลงทุนสายซื้อและถือยาว ควรรอให้โลหะเงินปรับตัวลดลงมาที่ $22.5 ก่อนเพื่อจุดเข้าที่ดีกว่า
3. Sprott Gold Miners ETF
- ระดับราคาปัจจุบัน: $29.68
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $24.35 - $32.99
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.31%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.50% ต่อปี
เปลี่ยนบรรยากาศจากการลงทุนในโลหะมีค่าโดยตรงมาเป็น บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขุดเหมืองแร่โลหะมีค่ากันบ้าง การเติบโตของบริษัทเหล่านี้ถือเป็นมาตรวัดหนึ่งที่สามารถชี้วัดได้ว่าในเวลานั้นตลาดโลหะมีค่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด กองทุน Sprott Gold Miners ETF (NYSE:SGDM) ลงทุนในบริษัทเหมืองโลหะมีค่าขนาดกลาง-ใหญ่ (วัดจากมาร์เก็ตแคป) เปิดเริ่มต้นให้เทรดในเดือนกรกฎาคมปี 2014
ปัจจุบัน SGDM ถือครองหุ้นอยู่ทั้งหมด 35 ตัว อ้างอิงราคาจากดัชนี Solactive Gold Miners Custom Factors Index หุ้นของเหมืองในแคนาดามีสัดส่วนถือครองอันดับหนึ่งคิดเป็น 78.1% ตามมาด้วยเหมืองในสหรัฐฯ 15.6% และสหราชอาณาจักร 4.7%
หุ้นสิบอันดับแรกคิดเป็นสัดส่วน 60% ของสินทรัพย์ทั้งหมด $252 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทชื่อดังที่ SGDM ถือครองได้แก่ Newmont Goldcorp (NYSE:NEM) Franco-Nevada (NYSE:FNV) Barrick Gold (NYSE:GOLD), Wheaton Precious Metals (NYSE:WPM) และ Kirkland Lake Gold (NYSE:KL)
ในปีนี้ SGDM ปรับตัวลดลงมา 1.6% ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาได้ 9.2% ในเดือนที่แล้ว ถือเป็นการปรับตัวขึ้นตามราคาทองคำและโลหะเงินที่อยู่ในขาขึ้น ณ ตอนนี้ อย่างไรก็ตาม การปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไรไปก่อนอาจทำให้ราคา SGDM ย่อตัวลดลงมาที่ $28.5 ซึ่งถือเป็นจุดเข้าที่ดี
นอกจากสามกองทุนที่กล่าวมานี้ ยังมีกองทุน ETF อื่นๆ ที่ลงทุนในโลหะมีค่าที่น่าสนใจดังนี้
- SPDR Gold MiniShares (NYSE:GLDM)
- ETFMG Prime Junior Silver Miners ETF (NYSE:SILJ),
- Global X Silver Miners ETF (NYSE:SIL),
- iShares MSCI Global Gold Miners ETF (NASDAQ:RING),
- iShares MSCI Global Silver and Metals Miners ETF (NYSE:SLVP),
- VanEck Gold Miners ETF (NYSE:GDX)
- VanEck Junior Gold Miners ETF (NYSE:GDXJ)