นับตั้งแต่ขาลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลเหนือ $2,000 ของราคาทองคำในเดือนมิถุนายน ฝั่งที่เชียร์ทองคำก็เอาแต่หวังมาโดยตลอดว่าทองคำจะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวคานเงินเฟ้อ (อย่างที่ควรจะเป็น) และกลับขึ้นไปสู่ระดับราคา $2,000 ได้ไม่ยาก เพราะมีปัจจัยสนับสนุนอย่างวิกฤตโควิดและภาวะเงินเฟ้ออยู่
อย่างไรก็ตาม จากขาลงในเดือนนั้น ลากยาวมาตลอดทั้งปี ทองคำกลับไม่เคยทำหน้าที่เป็นตัวคานความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเลย จนกระทั่งล่าสุดสองสัปดาห์ก่อน และการปรับตัวขึ้นติดต่อกันมาสามวัน จนมีราคาปิดเหนือ $1,860 จึงทำให้ผู้สนับสนุนทองคำมั่นใจแล้วว่า พวกเขากำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่รอมาตลอดห้าเดือนเต็ม นั่นคือการกลับขึ้นสู่ระดับราคา $1,900
ราคาซื้อขายทองคำฟิวเจอร์สบนตลาด NYMEX ที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดได้ที่ $1,873 ซึ่งเหลืออีกเพียง $23 เท่านั้นก็จะแตะ $1,900 ได้สำเร็จ นับเป็นวันที่สามติดต่อกันแล้วที่ราคาส่งมอบทองคำในเดือนธันวาคมสามารถสร้างจุดสูงสุดได้ที่ $1,870 หรือสูงมากกว่านั้น
ที่มา: skcharting.com
Christopher Lewis นักวิเคราะห์ราคาทองคำจาก FXEmpire เขียนถึงความคึกคักของนักลงทุนทองคำในตอนนี้ว่า
“ผมคิดว่าตอนนี้ทองคำเป็นตลาดเดียวที่แสดงพฤติกรรมว่าอยากจะวิ่งไปทางไหนได้ชัดเจนที่สุด มีโอกาสสูงมากที่ทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ในระยะยาว สาเหตุนั้นเป็นเพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่มีข่าวจะปรับอัตราดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้เงินเฟ้อกดดันตลาดทุนได้อย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่เศรษฐกิจอเมริกายังอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้า คายไม่ออกเช่นนี้ ก็ยิ่งมีโอกาสที่ทองคำจะโบยบินสู่แนวต้านถัดไป”
สิ่งที่ส่งให้ราคาทองคำทะยานขึ้นมาได้อย่างรุนแรงเช่นนี้คือการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกา ดัชนี CPI นั้นมีชื่อเล่นว่า “มาตรวัดเงินเฟ้อ” และเป็นหนึ่งในสี่มาตรวัดเงินเฟ้อหลักของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความตกใจของตลาดที่ได้เห็น CPI ในเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นมากถึง 6.2% YoY ส่งให้ทองคำดีดตัวขึ้นจาก $1,830 ขึ้นมาทีเดียว $30 นี่คือตัวเลขเงินเฟ้อที่เติบโตเร็วที่สุดในรับสามสิบปี (ตั้งแต่พฤศจิกายนปี 1990)
สาเหตุที่ราคาทองคำไม่ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นเพราะตอนนั้นตลาดยังหลงเชื่อคำพูดของธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่ว่า “เงินเฟ้อเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว” จึงทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง ส่วนทางกับดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลักฐานที่บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อมีแต่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ความเชื่อใจที่มีกับธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงค่อยๆ หมดลง และมาระเบิดเอาในการรายงานตัวเลข CPI เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสายตาของนักลงทุนตอนนี้พวกเขาเริ่มประเมินแล้วว่าอาจจะได้เห็นการประกาศนโยบายการเงินแบบเซอร์ไพรส์ภายในระยะเวลาไม่เกินครึ่งปีแรกของ 2022 ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี (ที่เป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ย) ขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ที่ 1.62% และดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่สามารถแตะระดับ 95.46 จุดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เฟดอาจต้องโยนความใจเย็นของตัวเองทิ้ง และออกมาตรการรุนแรงบางอย่างเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อในตอนนี้
ถึงแม้ตลาดลงทุนจะวิเคราะห์อย่างนั้น แต่ครั้งนี้ราคาทองคำไม่ยอมถอยลงให้อีกต่อไปแล้ว…
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ล้วนเชื่อว่าทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ ถ้าไม่เกิดสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น Craig Erlam นักวิเคราะห์จาก OANDA ให้ความเห็นว่า
“ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่เนื้อหอมขึ้นมาทันทีถึงแม้ว่าดอลลาร์จะแข็งค่า ภายใต้สถานการณ์ที่คนลดความเชื่อถือที่มีต่อธนาคารกลางลง ทองคำจะยิ่งเป็นที่นิยมในฐานะสินทรัพย์คานเงินเฟ้อ ยิ่งเฟดออกมาพูดคำว่า “ชั่วคราว” บ่อยๆ ก็ยิ่งจะเห็นคนออกมาถือทองคำมากขึ้น”
Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก skcharting.com วิเคราะห์ว่า
“ครั้งสุดท้ายที่เราเห็นทองคำอยู่ที่ $1,900 ต้องย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน และจุดสูงสุดตลอดกาลของทองคำคือ $2,100 ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ การขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $1,900 สำหรับทองคำไม่ใช่เรื่องยาก เพราะก่อนหน้านี้ทองคำสามารถทำราคาปิดเหนือ $1,860 ได้สามวันติดต่อกัน การปิดเหนือ $1,860 ซึ่งเป็นระดับ 23.6% ของ Fibonacci นั้นถือเป็นสัญญาณส่งขึ้นต่อ มีโอกาสได้เห็นทองคำที่ $1,900 - $1,916 เลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะถึง $1,900 ผมเห็นแนวต้านอ่อนๆ อยู่ที่ $1,875 - $1,880”
“อย่างไรก็ตาม” เขากล่าวต่อ “การย่อตัวลงมา 0.1% ของทองคำสปอตอาจทำให้ราคาเกิดการพักตัวเล็กน้อย นอกจากนี้อินดิเคเตอร์ SRSI ของผมก็ได้อยู่ในโซน overbought แล้วทั้งกราฟรายวันและรายสัปดาห์ อย่างไรเสียผมจะยังมองว่านั่นคือการพักฐานจนกว่าทองคำจะหลุด $1,856 ลงไป ถ้าเป็นเช่นนั้น ให้พิจารณาแนวรับที่ $1,824 และ $1,825 เผื่อเอาไว้ด้วย”
Christopher Lewis นักวิเคราะห์ราคาทองคำจาก FXEmpire ก่อนหน้านี้ประเมินสถานการณ์ของทองคำว่า
“อันที่จริงขาขึ้นในรอบนี้ก็ถือว่าสุดกำลังแล้ว การได้เห็นแท่งเทียนสีแดงสักแท่งอาจเป็นโอกาสที่ดีก็ได้ การที่ทองคำจะขึ้งยืนเหนือ $1,900 ได้เลยทันทีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผมคิดว่าจะดีเสียอีกถ้าทองคำย่อตัวกลับลงมา สร้างโอกาสขาขึ้นรอบใหม่ในตอนนี้ การจับตาดูราคาทองคำในปัจจุบัน ต้องไม่ลืมที่จะดูดัชนีดอลลาร์สหรัฐประกบไปด้วย ยิ่งดัชนีดอลลาร์ขึ้นมากเท่าไหร่ โอกาสที่ทองคำจะขึ้นสู้ยิ่งยากลำบากขึ้น”
“ถ้าหากราคาทองคำสปอตสามารถขึ้นยืนเหนือจุดสูงสุดที่ $1,870 ได้ มีโอกาสที่เราจะได้เห็นทองคำที่ $1,881 โดยมีเป้าหมายขาขึ้นในระยะสั้นอยู่ที่ $1,900 - $1,916 แต่ถ้ายังวิ่งอยู่ที่ $1,860 เป้า $1,900 ก็ยากที่จะขึ้นไปถึง”