Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,610-1,640 จุด เราคาดว่า SET ยังมี โอกาสผันผวน แม้จะมี Sentiment ที่เป็นบวกหลังเฟด และ BoE ยังไม่ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย โดยยังคงมุมมองต่อภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงระยะสัน และคาดว่าจะทยอยปรับ ลดลงในช่วง 2Q65 ขณะที่แผนการปรับลด QE ของเฟด เป็นไปตามที่ Market,Consensus ประเมินไว้ ขณะที่ราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่องจากภาพรวมอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เรามองเป็นลบต่อหุ้น ในกลุ่มพลังงาน (Mid to Up-Stream) โดยเฉพาะ PTTEP แต่เป็นบวกระยะสันต่อ หุ้นในกลุ่ม สายการบิน (AAV และ BA) รวมไปถึง TASCO EPG GPSC PTG BGRIM GULF OsP CPALL (BK:CPALL) และ Bic ที่จะมีต้นทุนในการดําเนินงานที่ลดลง ขณะทึกลยุทธ์หลัก เรายังแนะนําหุ้นในกลุ่ม Domestic Play เป็นหลัก เราเลือก CBG CPALL BJC AMATA WHA AOT (BK:AOT) BAFS AAV BEM และ ERW BOE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และคงวงเงิน QE เรามองเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุน - 2 ประเด็นสําคัญ ที่ได้จากการประชุม ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คือ (1) คณะกรรมการ BOE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับที่ Market Consensus คาดว่าจะปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ไปอยู่ที่ระดับ 0.15% อย่างไรก็ตามคณะกรรมการ BOE มีมติ 7 ต่อ 2 เสียง โดยคณะกรรมการ 2 ราย ลงมติสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.15% และ (2) คงวงเงินใน โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อลด ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยมติ 6-3 เสียง ราคาน้ํามันดิบปรับลงต่อ จากความกังวลด้านอุปทาน เรามองเป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน (Mid to UpStream) - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 78.81 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 2,05 เหรียญ (-2.59%) สะท้อนความกังวลต่ออุปทานที่คาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นจาก (1) การเพิ่มกําลังผลิตต่อเนื่องของกลุ่ม OPEC+ โดยมติล่าสุด ยังคงแผนการปรับเพิ่มกําลังผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 64 ทําให้ Market Consensus กลับมาเชื่อว่าซาอุดีอาระเบีย จะกลับผลิตน้ํามันดิบในระดับที่สูงกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใน ระยะอันใกล้ (2) อิหร่านจะกลับมาเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ร่วมกับชาติตะวันตกในช่วงปลายเดือน พ.ย. 64 ในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 (Joint Comprehensive Plan of Action: JCPOA) เริ่ม 29 พ.ย. หากการเจรจาสําเร็จจะทําให้เกิดการยกเลิกมาตรการคว่ําบาตรต่ออิหร่าน และทําให้อิหร่านสามารถกลับมา ส่งออกน้ํามันได้อีกครั้ง ประเด็นดังกล่าวจะเพิ่มอุปทานให้กับตลาดไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ (3) แผนการเพิ่มกําลังผลิตของกลุ่ม non-OPEC ในปี 2565 ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 1-3 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ราคาน้ํามันดิบยังมีแรงกดดันจากการรายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบรายสัปดาห์ที่เพิ่มต่อเนื่อง แม้ในช่วงปลายปีจะมี Seasonal Demand เป็นปัจจัยหนุนก็ตาม แต่เราเชื่อว่าความกังวลต่ออุปทานที่ เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยจํากัด Upside ของราคาน้ํามันดิบ เรามองเป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน (Mid to UpStream) โดยเฉพาะ PTTEP PTG (แนะนํา ซื้อ: ราคาเป้าหมาย 22.90 บาท) ยังมองผลประกอบการ 4O64 เริ่มฟื้นตัว - จากประเด็นที่ ผอ. สถาบันปิโตรเลียม แนะขยับราคาตรึงน้ํามันดีเซลขึ้นเป็น 34 บาทต่อลิตร รวมถึงลดภาษีสรรพสามิต 1-2 บาทต่อลิตร และลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลเหลือเพียง 59% (จากเดิมที่ 7-106) (ที่มา: อินโฟเควสท์) เรามี ความเห็นว่า แนวทางที่มีความเป็นไปได้สูงคือ การกู้ยืมเงินของสํานักงานกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิง โดยเรายัง มองราคาดีเซลจะถูกตรึงที่ 30 บาทต่อลิตร์ แต่ปัจจัยบวกจะมาจากค่าการตลาดที่สูงขึ้นจากการช่วยเหลือของ รัฐฯ ในด้าน Earrings Momentum เราประเมินว่าผลประกอบการ 3Q64 เป็นจุดต่ําสุดของปี โดยเราคาด ว่าจะลดลง 599%YoY และลดลง 5896QoQ แต่จะกลับมาฟื้นตัวในช่วง 4Q64 หนุนจากการเปิดเมือง แม้ว่าการประท้วงของรถบรรทุกที่หยุดเดินรถ 20% คาดกระทบปริมาณจําหน่ายน้ํามันลดลงราว 5% ในเดือน พ.ย. โดยกลยุทธ์การลงทุน เรามองราคาหุ้นที่ปรับลดลงก่อนหน้า เริ่มมี Downside ที่จํากัด คําแนะนําเชิงปัจจัยพื้นฐาน เรายังคงคําแนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 22.90 บาท จากที่คาด ผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวช่วง 4Q64
บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: LPN Company Update: LPN (ขาย., ราคาเป้าหมาย 3.66 บาท) แม้คาดกําไร 4064 ฟื้นตัว แต่เป็นการฟื้น ตัวอย่างช้าๆ - คาดผลประกอบการ 4Q64 ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อัตรากําไรขั้นต้น ยังถูกกดดันจาก การออกแคมเปญระบายสต๊อก ยอด Presales 9M64 อยู่ที่ 6,200 ล้านบาท คิดเป็น 63% ของเป้าหมาย Presale ทั้งปี 64 ปรับกําไรปี 64-65 ลง 43% และ 14% จากการเลื่อนโอนโครงการและอัตรากําไรขั้นต้นที่ ลดลง กําไร 3064 ที่ 26 ล้านบาท ลดลงทั้ง YoY และ QoQ และคาดเป็นจุดต่ําสุดของปี จากผลกระทบของ COMID-19 และปิดแคมป์ก่อสร้าง, คงแนะนํา “ขาย” ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 3.66 บาท อิง PER 8.0 เท่า รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ครั้งแรก ลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 269,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ําที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2563 และต่ํากว่าที่ Market Consensus คาดที่ระดับ 275,000 ราย มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,610-1,640 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค: ASK PLANB และ BEM
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities