รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

มนุษย์จะทิ้งโลกความเป็นจริงไปอยู่ในเมต้าเวิร์สจริงหรือ?

เผยแพร่ 26/10/2564 13:59
อัพเดท 09/07/2566 17:31

คุณนึกถึงอะไรในทุกๆ ครั้งที่ได้ยินคำว่า “โลกเสมือนจริง” สำหรับคนรุ่นก่อน 90 พวกเขาคิดว่าสิ่งนี้คงเป็นได้เพียงโลกในอุดมคติ สำหรับคนยุค 2000 พวกเขามองว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนอนาคต แต่สำหรับวัยรุ่นยุคนี้ พวกเขามองว่าโลกเสมือนจริงคือสิ่งที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม 

หากศึกษาประวัติศาสตร์ เราจะเห็นว่าทุกครั้งที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเติบโตของอุตสาหกรรมที่รองรับเรื่องเหล่านั้นจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ทำให้เมืองแมนเชสเตอร์รุ่งเรืองแซงหน้าลิเวอร์พูลอย่างมหาศาล การเข้ามาของอินเตอร์เน็ตเชื่อมโลกทั้งใบเข้าด้วยข้อมูลข่าวสาร และการเกิดขึ้นของเมต้าเวิร์สว่ากันว่าจะเป็นการสร้างโลกดิจิทัลให้กลายเป็นโลกแห่งความจริง แม้กระทั้งผมที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ ก็ยังมองภาพไม่ออกว่าโลกเมต้าเวิร์สจะกลายเป็นโลกความจริงได้อย่างไร?

เมต้าเวิร์สคืออะไร?

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหนังสือเล่มใด หรือใครคนใดที่สามารถนิยามคำว่า “เมต้าเวิร์ส” (Metaverse) ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เมื่อถามว่าคำนี้คืออะไร ทุกคนจะมีภาพคร่าวๆ ว่าเมต้าเวิร์สคือส่วนผสมระหว่างโซเชียลมีเดีย เกมออนไลน์ และสกุลเงินดิจิทัล ที่กลายเป็น “ความเป็นจริงบนโลกดิจิทัล” ซึ่งการกระทำของคุณบนโลกใบนี้จะส่งผลกระทบถึงโลกความเป็นจริง

นิตยสาร Wall Street Journal ได้นิยามเมต้าเวิร์สเอาไว้ว่า

“แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่อยู่เหนือโลกแห่งความจริง ซึ่งผู้คนที่อยู่ในพื้นที่เสมือนจริงสามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้อย่างเต็มที่ ผู้คนสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าหรือไปงานคอนเสิร์ตกับเพื่อนๆ ได้ราวกับตัวเองได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในโลกความเป็นจริง”

อย่างไรก็ตาม มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก CEO ของบริษัทเฟซบุ๊ก (FB) ที่ช่วงนี้มีข่าวเป็นอย่างมากว่ากำลังต้องการจะเปลี่ยนบริษัทให้กลายเป็นเมต้าเวิร์สกล่าวว่า การจะสร้างเมต้าเวิร์สให้เกิดขึ้นจริงจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์มหาศาล ทั้งการเขียนโค้ด การใช้เครื่องมืออุปกรณ์ฮาร์ตแวร์ต่างๆ

“เมต้าเวิร์สเป็นสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่คุณสามารถมีตัวตนได้จริงๆ กับคนอื่นๆ ในโลกดิจิทัลเดียวกัน คุณสามารถคิดว่าเมต้าเวิร์สเป็นอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ได้มากกว่าเพียงแค่เฝ้าดู เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นเทคโนโลยีที่มาแทนอินเทอร์เน็ตบนมือถือ”

เทคโนโลยีอยู่รอบตัวเราไปไกลได้มากกว่าที่คุณคิด

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ถ้าผมซื้อบิทคอยน์มูลค่า 100 เหรียญในวันนั้น มันจะมีมูลค่ามากกว่า 120 ล้านเหรียญเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อมองย้อนกลับไป ผมละเลยแนวคิดที่ว่าวิดีโอเกมก็เป็นเทคโนโลยีอย่างหนึ่ง ผมดูลูกๆ ของผมเติบโตขึ้นมาด้วยเกม Super Mario และ Xbox รุ่นล่าสุด ในขณะที่ผมเลิกเล่นวิดีโอเกมหลังเลิกเรียนเพราะไม่มีเวลาทุ่มเทให้กับแพคแมนและเตอร์ติสอีกต่อไป

หากจะพูดว่าเมต้าเวิร์สคือโลกที่อยู่ไกลเกินเอื้อมของผมไปแล้วก็คงจะไม่ผิดนัก ผมยังพอเข้าใจได้ว่าทำไมบิทคอยน์ถึงมีค่าในฐานะสินทรัพย์สำรองปลอดภัย แต่เมื่อหันมาถามลูกๆ ผมที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่โลกเมต้าเวิร์ส ผมจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ ว่ามนุษย์จะมีชีวิตอยู่ในโลกเสมือนจริง โดยที่ไม่ออกมาใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริงได้อย่างไร นี่มาถึงวันที่มนุษยชาติสามารถนอนอยู่บนเตียงเฉยๆ แล้วเข้าไปทำงาน ใช้ชีวิต บนโลกเสมือนจริง แทนโลกความเป็นจริงแล้วอย่างนั้นหรือ

วงการฟินเทคฯ คืออนาคต

ต้องยอมรับความจริงว่าการถือกำเนิดขึ้นของเทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังปฏิวัติการใช้งานเทคโนโลยีรวมศูนย์แบบเดิมๆ ให้กระจายตัวออกไปสู่ส่วนอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกันมากขึ้น บิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการทำระบบการเงินบนบล็อกเชนเท่านั้น ลองคิดดูว่าจะสะดวกสบายแค่ไหน หากในอนาคตคุณสามารถเข้าโรงพยายาลที่ไหนก็ได้ เพราะพวกเขามีฐานข้อมูลของคนไข้เหมือนกัน

สาเหตุที่คริปโตเคอเรนซี่กำลังเฟื่องฟูไม่ใช่แค่เฉพาะในเรื่องของความสะดวกสบายเท่านั้น แต่บล็อกเชนทำให้ผู้คนที่ใช้งานได้เห็นว่าเรื่องของการเงินไม่จำเป็นต้องพึ่งพารัฐอีกต่อไป ถ้าผู้ซื้อและผู้ขายตกลงซื้อขายสินค้ากันด้วยสกุลเงิน ABC การทำธุรกรรมก็สามารถเกิดขึ้นได้ มีหลักฐานรองรับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบการเงินที่นับวันมีแต่จะเสื่อมค่าลง เพราะการพิมพ์เงินออกมาแก้ปัญหาอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น การใช้งานสกุลเงินดิจิทัลและการเชื่อในฟินเทคฯ คือหลักฐานยืนยันว่ามนุษยชาติได้วิวัฒนาการความรู้ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว

แต่วิวัฒนาการนั้นต้องการเวลา เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าใจและยอมรับการใช้งานของสกุลเงินดิจิทัลได้ แต่จากการปรับตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ของบิทคอยน์ ตั้งแต่วันที่มีมูลค่าห้าเซนต์ในปี 2010 วันที่มีตลาดฟิวเจอร์สเป็นของตัวเองครั้งแรกในปี 2017 และการมี ETF เป็นของตัวเองในปี 2021 แสดงให้เห็นว่าบิทคอยน์กำลังเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆBitcoin Futures Chart

ที่มา: CQG

กราฟรายเดือนรูปนี้แสดงให้เห็นขาขึ้นของบิทคอยน์ที่พึ่งขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ $67,680 เมื่อสัปดาห์ก่อน มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้ มาพร้อมๆ กับคำกร่นด่าของผู้ที่ไม่รู้ กล่าวอ้างว่าคริปโตฯ นั้นอันตราย บ้างก็ว่านี่คือฟองสบู่ แต่การเพิ่มขึ้นของมูลค่าเช่นนี้ อาจจะเป็นการส่งสัญญาณไปยังเหล่าผู้มีอำนาจแล้วว่า ถ้าทำระบบการเงินไม่ดี ก็ให้อัลกอริทึมเป็นผู้กำหนดดีกว่า

นี่คือช่วงเวลาการเติบโตทางเทคโนโลยีที่เด่นชัดมากที่สุด

ผมมักจะนึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของปู่ย่าตายายของผม พวกเขาผ่านสงครามโลกครั้งที่สองและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ พวกเขาเห็นวิทยุและโทรทัศน์เกิดขึ้นอย่างชนิดที่ว่า “ของมันต้องมี” เข้ามาเปลี่ยนหนังสือพิมพ์และการสื่อสารแบบปากต่อปาก การเปลี่ยนแปลงนี้น่าประหลาดใจสำหรับผู้ที่เกิดในช่วงปลายทศวรรษ 1800 และต้นทศวรรษ 1900 

ส่วนยุคของผมนั้นไม่อยากจะพูดให้อายเด็กเลยว่าผมโตมากับการเดินออกจากบ้านไปเช่าแผ่นหนังมาดู ฟล็อปปี้ ดิสก์ เก็บข้อมูลคืออะไรที่ตื่นเต้นมากสำหรับผม และการได้ใช้รถที่เครอะไปด้วยคราบสนิมนั้นคือเท่ที่สุดในช่วงชีวิตของผมแล้ว

กลับมาที่เมต้าเวิร์ส ปัญหาอย่างเดียวที่ผมมีกับเรื่องนี้คือ ผมยังคิดไม่ออกจริงๆ ว่าอะไรควรทำให้มนุษย์ควรตื่นมาแล้วเดินเข้าหาแว่นตาที่ดูล้ำๆ เพื่อเข้าสู่โลกเสมือนจริง แทนที่จะตื่นมา ดื่มกาแฟร้อนๆ แล้วออกไปสูดอากาศธรรมชาติ ในโลกความเป็นจริงให้เต็มปอด แม้ว่าจิตของเราจะสามารถเอาไปอยู่ในโลกเสมือนจริงได้ แต่ร่างกายเรายังนอนเป็นผักอยู่ที่บ้าน แล้วเช่นนั้นเรื่องนี้จะสร้างผลดีให้กับมนุษย์อย่างไร

ส่วนตัวแล้วผมมองว่าโลกแฟนตาซีนั้นมีพื้นที่ของตัวเอง และมนุษย์ก็ควรมีพื้นที่ในการออกไปใช้ชีวิตจริงด้วยเช่นกัน ถ้าการติดโซเชียลมีเดียยังก่อให้เกิดปัญหาการเข้าสังคมของเด็กในยุคปัจจุบันได้ขนาดนี้ ผมไม่อยากคิดเลยว่าเด็กรุ่นใหม่กว่านี้ ที่โตมากับเมต้าเวิร์สจะขาดทักษะในการเข้าสังคมมากขนาดไหน 

หากมองในเชิงการลงทุน ผมเข้าใจดีว่าผมไม่อยากให้นักลงทุนพลาดเหมือนกับสมัยที่บิทคอยน์เคยมีมูลค่าเพียงห้าเซนต์ การตามกระแสเมต้าเวิร์สว่าของใครจะเกิดก่อน ใครจะสำเร็จก่อน ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนควรทำ สำหรับบริษัทเทคฯ ที่กำลังพัฒนาเรื่องนี้อยู่อย่างจริงจัง ผมอยากจะวิงวอนให้ช่วยคิดเรื่องอื่นนอกจากผลกำไรที่จะได้รับด้วย ในขณะที่พวกคุณกำลังเสวยสุขนั้น ผู้บริโภคอยากจะต้องเสียผลประโยชน์ทางอ้อมบางอย่างมากกว่าที่พวกคุณคิด

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย