รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ผลประกอบการอาจหนุนตลาดให้มีความเคลื่อนไหวในวิกฤตน้ำมันแพงที่สุดตั้งแต่ปี 2014

เผยแพร่ 18/10/2564 10:31
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เราได้เตือนแล้วว่าเดือนนี้จะเป็นเดือนที่ผันผวนที่สุดในรอบปี อ้างอิงจากสถิติของตลาดลงทุนที่เคยกิดขึ้นมา แต่ปีนี้อาจจะมีความพิเศษมากกว่าทุกปีเพราะภาวะเงินเฟ้อ ที่เกิดขึ้นจากมาตรการเยียวยาโควิด ยังคงสร้างแรงกดดันขาขึ้นในตลาดหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ตลาดลงทุนมีความผันผวนมากเป็นพิเศษ แม้ว่าเดือนกันยายนจะได้ชื่อว่าเป็นช่วงเวลาขาลงที่หนักที่สุดนับตั้งแต่มีนาคมปี 2020 แต่เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม ตลาดลงทุนก็สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้สองสัปดาห์ติดต่อกัน

ดัชนีหลักทั้งสี่ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นเอสแอนด์พี 500 ดาวโจนส์ แนสแด็ก และแนสแด็ก 100 ต่างก็สามารถสร้างขาขึ้นได้ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ขาขึ้นของดัชนีดาวโจนส์สร้างสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2021 และเป็นขาขึ้นที่ดีที่สุดของเดือนตุลาคมในรอบหกปี จิม แครมเมอร์ พิธีกรรายการ “เมด มันนี่” (Mad Money) ถึงกับเรียกช่วงเวลาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วว่าเป็นเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนักลงทุนโดยแท้

สำหรับการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 จิมคิดว่านักลงทุนไม่ได้สนใจว่าผลประกอบการของทุกบริษัทจะต้องเป็นบวกทั้งหมด ขอเพียงบวกมากพอจนนักลงทุนเลิกสนใจแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาซัพพลายเชนชาดแคลนก็เพียงพอแล้ว อาจจะฟังดูเหมือนเป็นคำพูดปลอบใจ แต่ก็ถือว่ามีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะตั้งแต่การระบาดเริ่มต้นขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทก็พยายามทำเป็นเหมือนกับปิดตาข้างเดียว สนใจแต่กำไรที่จะได้ แม้ว่านั่นจะหมายถึงผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวSPX Daily

จากรูปเราจะเห็นได้ว่ากราฟของดัชนีเอสแอนด์พี 500 เริ่มแสดงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนมากกว่าเดิม ด้วยการที่แท่งเทียนของวันศุกร์สามารถทำราคาปิดเหนือแท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) ที่เป็นสัญลักษณ์ของแท่งเทียนขาลงได้จากวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ที่สำคัญ แท่งเทียนเมื่อวันศุกร์สามารถสร้างจุดปิดอยู่ใกล้กับกรอบราคาด้านบน เพิ่มความเป็นไปได้ที่ราคาอาจจะทะลุกรอบขาขึ้นนี้ขึ้นไป หรืออาจจะดีดตัวกลับลงมาเพราะไม่สามารถผ่านแนวต้านตัดกล่าวได้ 

แต่เมื่อพิจารณาจากอินดิเคเตอร์ RSI และ MACD จะเห็นว่าทั้งคู่สร้างสัญญาณขาขึ้นแล้ว โดยที่เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นของ MACD สามารถตัดเส้นระยะยาวขึ้นไปได้ และอินดิเคเตอร์ RSI สร้างรูปแบบหัวไหล่ด้านหงาย (Inverted Head & Shoulder) เสร็จเป็นที่เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากราฟรายสัปดาห์จะเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างเอสแอนด์พี 500 รายวันและรายสัปดาห์อยู่ ในขณะที่กราฟรายวันกำลังส่งสัญญาณขาขึ้นตามที่ได้กล่าวไป แต่กราฟรายสัปดาห์กลับกำลังส่งสัญญาณขาลงSPX Weekly

จากรูปจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากราฟเอสแอนด์พี 500 รายสัปดาห์ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นระยะยาว ที่ลากมาตั้งแต่จุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมปี 2020 แล้ว และเมื่อพิจารณาอินดิเคเตอร์ตัวเดียวกันอย่าง RSI ก็จะเห็นว่าอินดิเคเตอร์ดังกล่าวหลุดเส้นเทรนด์ไลน์ลงมาแล้วเช่นกัน การที่อินดิเคเตอร์ตัวเดียวกันแสดงความขัดแย้งกันในไทม์เฟรมที่ต่างกันคือหลักฐานของความผันผวนอย่างชัดเจน

นอกจากพฤติกรรมของเอสแอนด์พี 500 ซึ่งเป็นดัชนีหลักแล้ว เรายังพบพฤติกรรมที่ขัดแย้งกันเองในดัชนีของบริษัทจดทะเบียนที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กอย่างรัสเซล 2000 ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับดัชนีเทคโนโลยีรุ่นใหญ่อย่างแนสแด็ก 100 คิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจหรือไม่ที่ได้เห็นดัชนีขนาดเล็กปรับตัวขึ้น สวนทางกับแนสแด็ก ที่ว่ากันว่าเคยเป็นสวรรค์ของผู้ลี้ภัยจากวิกฤตโควิดในปีที่แล้ว 

คำถามที่สมควรถามจากพฤติกรรมแปลกๆ ในตลาดหุ้นครั้งนี้คือในขณะที่นักลงทุนกำลังกังวลกับภาวะเงินเฟ้อที่กำลังกัดกร่อนภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำไมดัชนีที่เคยพึ่งพาได้ในยามยากอย่างแนสแด็กกลับไม่สามารถวิ่งขึ้นได้ดีอย่างเช่นดัชนีรัสเซล 2000?RUT Weekly

แต่เมื่อมาดูกราฟจริงๆ ก็จะเห็นว่ารัสเซล 2000 ก็ผันผวนไม่แพ้เอสแอนด์พี 500 ที่สำคัญความผันผวนของรัสเซล 2000 เกิดขึ้นก่อนเอสแอนด์พี 500 เสียด้วยซ้ำ ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่สองมาจนถึงปัจจุบัน ความผันผวนของรัสเซล 2000 ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบราคาระหว่าง 2290 จุดลงมาจนถึง 2190 จุดโดยประมาณ สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ ผมไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่จิม แครมเมอร์ พูดทั้งหมด ขาขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ล่าสุดไม่ใช่พระเอกขี่ม้าขาว แต่เป็นเพียงคลื่นความผันผวนอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น 

ไม่ว่าสัปดาห์นี้ตลาดจะผันผวนไปทางไหน นักลงทุนก็ไม่ได้สนใจว่าขาขึ้นจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวจริงหรือไม่ สิ่งที่พวกเขาจะให้ความสนใจคือรายงานผลประกอบการของสัปดาห์นี้ที่เต็มไปด้วยบริษัทชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Netflix (NASDAQ:NFLX), Tesla (NASDAQ:TSLA) Intel (NASDAQ:INTC) Procter & Gamble (NYSE:PG) และ American Express (NYSE:AXP)

ไฮไลท์แรกของสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นวันอังคารที่ 19 ตุลาคม เพราะเน็ตฟลิกซ์จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สาม ปี 2021 หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ ขาขึ้นที่ต่อยอดมาจากรูปแบบหัวไหล่ ช่วยส่งให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์สามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคา $700 ได้NFLX Weekly

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่เคยเติบโตมาได้อย่างงดงามในช่วงการแพร่ระบาดเกิดขึ้นใหม่ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ผู้คนเริ่มกลับออกไปทำงานตามปกติ ประกอบกับเกิดคู่แข่งภาพยนตร์สตรีมมิ่งมากมาย คำถามก็คือเน็ตฟลิกซ์จะยังสามารถรักษาตำแหน่งราชาภาพยนตร์สตรีมมิ่งของตัวเองเอาไว้ได้หรือไม่

หลังจากทราบรายงานผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ ความสนใจของนักลงทุนจะเปลี่ยนไปอยู่ที่รายงานผลประกอบการของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 20 ตุลาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดTSLA Weekly

ก่อนหน้านี้ไม่นานในช่วงต้นเดือน เทสลาพึ่งจะประกาศจำนวนรถยนต์ส่งมอบไปยังลูกค้าในไตรมาสที่สาม ตัวเลขส่งมอบในไตรมาสที่แล้วมีตัวเลขอยู่ที่ 241,300 คัน สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ที่ 220,900 คันได้ แต่สิ่งที่นักลงทุนอยากทราบก็คือปัญหาซัพพลานเชนขาดแคลน ที่ส่งผลกระทบถึงชิปประมวลผลจะส่งผลกระทบต่อบริษัทมากน้อยเพียงใด

สัปดาห์ที่แล้วกราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบแปดสัปดาห์UST 10Y Weekly

จากกราฟวิเคราะห์ทางเทคนิค จะเห็นว่ากราฟอัตราผลตอบแทนฯ กำลังวิ่งอยู่ในกรอบราคาขาขึ้น แต่สิ่งที่กราฟกำลังจะต้องเผชิญตอนนี้คือแนวต้านที่บริเวณ 1.1776% แนวต้านนี้มีความสำคัญเพราะเป็นบริเวณที่เส้นเทรนด์ไลน์พาดผ่านลงมาจากจุดสูงสุด (Peak) 2 แห่งล่าสุด การขึ้นยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์นี้ได้ จะส่งให้ราคาสามารถปรับตัวขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่สามได้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งการอ่อนค่าครั้งนี้ทำให้สกุลเงินสำรองอันดับหนึ่งของโลกผันผวนเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันDollar Weekly

การผันผวนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐสามารถสร้างรูปแบบ double-bottom ที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนมกราคมและเดือนมิถุนายน

ถึงแม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวขึ้น แต่ทองคำก็ยังไม่สามารถใช้โอกาสนี้สร้างขาขึ้นได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นกลับปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยGold Weekly

ขาขึ้นของทองคำเมื่อวันศุกร์ขึ้นมาทดสอบเส้น neckline ของรูปแบบหัวไหล่ขาลง การที่ทองคำไม่สามารถผ่านขึ้นมาได้เช่นนี้ ยิ่งส่งสัญญาณว่าราคามีโอกาสปรับตัวลดลงต่อ

หรือว่าทองคำจะส่งสถานะสินทรัพย์สำรองอันดับหนึ่งของโลกให้กับราชาสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ไปแล้ว เพราะในช่วงเวลาเดียวกันนั้นบิทคอยน์สามารถปรับตัวขึ้นได้เป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันBTC/USD Weekly

แท่งเทียนขาขึ้นรูปแบบสามทหารเสือ (Three White Soldiers) ได้ส่งกราฟบิทคอยน์ให้กลับขึ้นมาทดสอบบริเวณแนวต้านเดิมที่ $60,000 อีกครั้ง ตอนนี้สถานการณ์ของบิทคอยน์ถือว่าน่าสนใจมาก หากปรับตัวขึ้นต่อ แน่นอนว่าต้องมีการสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่สองครั้งภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี แต่ถ้าไม่ กราฟบิทคอยน์ก็อาจจะกลายเป็นการสร้างรูปแบบ double-top ขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเลือกไปทางไหน ต่างมีเหตุผลสนับสนุนทั้งสองด้านด้วยกันทั้งนั้น

สุดท้าย ราคาน้ำมันดิบที่เป็นส่วนหนึ่งของภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันสามารถขึ้นยืนเหนือ $82 ต่อบาร์เรลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 ทำให้กราฟน้ำมันดิบ WTI สามารถสร้างขาขึ้นเป็นสัปดาห์ที่แปดติดต่อกันได้สำเร็จ นี่คือขาขึ้นของน้ำมันดิบ WTI ที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EDT)

วันอาทิตย์ 

 

22:00 (ประเทศจีน) รายงานตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3: คาดว่าจะลดลงจาก 7.9% เป็น 5.2% YoY

 

22:00 (ประเทศจีน) รายงานตัวเลขผลผลิตในภาคอุตสาหกรรม: คาดว่าจะลดลงจาก 5.3% เป็น 4.5% YoY

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

 

วันจันทร์

 

09:15 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขผลผลิตในภาคอุตสาหกรรม: คาดว่าจะลดลงจาก 0.4% เป็น 0.2%

 

21:30 (ออสเตรเลีย) การประชุมของธนาคารกลาง

 

วันอังคาร

 

08:05 (สหราชอาณาจักร) ถ้อยแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลาง

 

08:30 (สหรัฐฯ) การอนุญาตก่อสร้าง: คาดว่าจะลดลงจาก 1.721M เป็น 1.680M

 

21:30 (ประเทศจีน) รายงานตัวเลขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลาง: ตัวเลขครั้งก่อนออกมาอยู่ที่ 3.85%

 

วันพุธ

 

02:00 (สหราชอาณาจักร) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าจะคงที่ 3.2% YoY

 

05:00 (ยูโรโซน) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าจะคงที่ 3.4% YoY

 

08:30 (แคนาดา) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน: ตัวเลขเดือนที่แล้วออกมาอยู่ที่ 0.2% YoY

 

10:30 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 6.088M เป็น 0.702M

 

วันพฤหัสบดี

 

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 293K เป็น 303K

 

08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดเฟีย: คาดว่าจะลดลงจาก 30.7 จุดเป็น 24.5 จุด

 

10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยมือสอง: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 5.88M เป็น 6.06M

 

วันศุกร์ 

 

02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลขยอดค้าปลีก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -0.9% เป็น 0.4%

03:30 (เยอรมัน) ดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะลดลงตาก 58.4 จุดเป็น 56.9 จุด

08:30 (แคนาดา) รายงานตัวเลขยอดค้าปลีกพื้นฐาน: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -1.0% เป็น 3.0%

ความคิดเห็นล่าสุด

s&p น่าจะปรับตัวขึ้นอีก
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย