รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

นอกจากอุปสงค์อุปทานแล้ว...อะไรคือแรงผลักดันตลาดน้ำมันให้ปรับตัวขึ้น?

เผยแพร่ 15/10/2564 10:30
อัพเดท 09/07/2566 17:31

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมอยู่ดีๆ ราคาน้ำมันดิบ WTI ก็สามารถทะยานขึ้นมาได้อย่างหน้าตาเฉย? ทั้งๆ ที่เมื่อสองเดือนก่อน ราคาน้ำมันดิบยังมีราคาวิ่งอยู่ต่ำกว่า $63 ต่อบาร์เรล แต่ล่าสุดหรือสัปดาห์ที่แล้วกลับมีราคาขึ้นยืน $80 ต่อบาร์เรล สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 แม้ว่าตอนนี้ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงมาแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่จะกลับไปยืนเหนือ $80 ต่อบาร์เรลได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง

ในบทความนี้ เราจะพาไปดูว่าอะไรคือสาเหตุเบื้องหลังของขาขึ้นครั้งนี้ ทุกอย่างเป็นเพียงกลไกธรรมดาของอุปสงค์อุปทานเท่านั้นหรือ? ข้อมูลที่คุณจะได้รับจากบทความนี้จะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือบรรยากาศนักลงทุนและการเก็งกำไรในตลาดWTI Weekly TTM

กลไกอุปสงค์และอุปทานคือความจริงเพียงบางส่วน

ความจริงอย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับคือความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นจริงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และก็เป็นความจริงอีกเช่นกันที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เพิ่มขึ้นคือแรงกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง แต่ตอนนี้ทั้งสองสิ่งนี้กำลังกลับด้านกัน อ้างอิงข้อมูลจาก GasBuddy ระบุว่าความต้องการน้ำมันในเดือนกันยายนลดลง 3.35% เศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด มีแหล่งข่าวไม่ระบุสำนัก (ฟังหูไว้หู) ระบุว่าฤดูหนาวนี้เศรษฐกิจของโซนอเมริกาเหนืออาจจะทรุดลงอีกครั้งเพราะอาจมีการระบาดใหญ่อีกรอบ

สำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) เปิดเผยข้อมูลว่าความสามารถในการกลั่นน้ำมันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีตัวเลขอยู่ที่ 89.6% และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในแต่ละสัปดาห์ก็ทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับ สิ่งที่เราได้จากข้อมูลนี้คือซัพพลายน้ำมันของอเมริกาตอนนี้หรืออนาคตระยะสั้นจะไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน 

อีกหนึ่งข่าวดีที่อาจจะทำให้นักลงทุนน้ำมันเบาใจได้บ้างคือเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน กำลังการผลิตที่ก่อนหน้านี้เจอพายุเฮอริเคนไอดาถล่มสามารถกลับมาผลิตได้อย่างเต็มกำลัง หากขาขึ้นของตลาดน้ำมันในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนเป็นเพราะพายุไอดานั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่กับเดือนตุลาคมตอนนี้ไม่ใช่ประเด็นผลักดันราคาน้ำมันอีกต่อไปแล้ว

กำลังการผลิตน้ำมันจากหินน้ำมันไม่ได้เพิ่มขึ้น

ผลกระทบจากกิจกรรมการผลิตน้ำมันด้วยการขุดหินน้ำมันส่งผลต่อราคาน้ำมันสองประการ หนึ่งคือบริษัทผู้ผลิตไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตกลับมาเหมือนช่วงก่อนการระบาด และสองคือบริษัทผู้ผลิตน้ำมันหลายแห่งพูดตรงกันว่ายังไม่ยินดีที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไปมากกว่าที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

ก่อนที่เชื้อไวรัสโควิดจะระบาด กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐอเมริกาเคยมีตัวเลขสูงสุดอยู่ที่ 13.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่กำลังการผลิตในปัจจุบันเฉลี่ยแล้วมีตัวเลขอยู่ที่ 11.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ความคาดหวังของผู้บริโภคและตลาดก้าวข้ามผ่านตัวเลข 11.3 ล้านบาร์เรลต่อวันไปแล้ว เมื่อความคาดหวังมีสูงกว่าความเป็นจริง ประกอบกับผู้ผลิตน้ำมันยังไม่ต้องการที่จะผลิตน้ำมันเพิ่ม ราคาน้ำมันจึงปรับตัวสูงขึ้นตามความคาดหวังของนักลงทุนในตลาด

ความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ

นักลงทุนในตลาดบางกลุ่มเริ่มเป็นกังวลอย่างจริงจังแล้วว่าในช่วงฤดูหนาวนี้อาจจะได้เห็นปรากฎการณ์ก๊าซธรรมชาติขาดแคลนในสหรัฐอเมริกา เหตุผลที่เชื่อกันอย่างเป็นจริงเป็นจังก็เพราะยุโรปกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ แม้แต่ทำเนียบขาวก็ได้ออกมาเตือนชาวอเมริกันแล้วว่าบิลเก็บเงินจากฮีตเตอร์ในปีนี้อาจแพงขึ้น 50% จากค่าเฉลี่ยเดิมที่เคยจ่าย 

หากเกิดเหตุการณ์ก๊าซธรรมชาติขาดแคลนในสหรัฐอเมริกาจริง โรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติ (ที่ปกติพลังงานไฟฟ้า) อาจจะต้องเปลี่ยนไปพึ่งพาพลังงานน้ำมันแทน อนึ่ง ในปัจจุบันก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 40% ของการผลิตพลังงานไฟฟ้าในสหรัฐฯ ทั้งหมด

การเก็งกำไรในตลาดลงทุน

การเก็งกำไรเป็นสิ่งที่อยู่คู่ตลาดลงทุนมาอย่างช้านาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบันหรือนักลงทุนทั่วไปต่างลงทุนด้วยจุดประสงค์เดียวกันคือหวังผลกำไรกลับคืน และตอนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ทำท่าว่าพร้อมที่จะเข้าสู่ขาลงได้ทุกเมื่อหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศลดวงเงิน QE การลงทุนในตลาดน้ำมันดิบจึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา

ความคิดเห็นล่าสุด

ผมเองที่ทำให้ขึ้น555
Thanks
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย