รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

กลยุทธ์ทองคำที่ใช้ลงทุนในทองคำ

เผยแพร่ 01/10/2564 17:07
อัพเดท 09/07/2566 17:31

เป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดทองคำในปีนี้ทำผลงานได้น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ $2,063 เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020 ทองคำก็เข้าสู่โหมดแนวโน้มขาลง และไม่สามารถกลับขึ้นมาที่จุดสูงสุดตลอดกาลนี้ได้อีกเลย ที่น่ากังวลยิ่งไปกว่านั้น จากลักษณะการวิ่งของราคาทองคำในตอนนี้ดูเหมือนว่าราคากำลังพยายามจะปรับตัวลดลงอีกด้วย

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทองคำได้ลดมาตรฐานราคาเป้าหมายของตัวเองลง จากเดิมที่นักลงทุนเคยหวังว่าจะได้เห็นขึ้นยืนเหนือ $2,000 อีกครั้ง กลายเป็นว่าต้องลดลงมาอยู่ที่ $1,900 ก่อนที่ในช่วงสองเดือนล่าสุด จะได้ยินแต่นักลงทุนทองคำพูดว่า “$1,900 ? ยืนเหนือ $1,800 ให้ได้ก่อนไหม?” แม้แต่ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมบทตลาด COMEX เมื่อวันที่ 29 กันยายนยังมีราคาต่ำกว่า $1,800 แล้ว

ส่วนตัวแล้ว กลยุทธ์การลงทุนในทองคำของผมนั้นเรียบง่าย ผมเทรดตามเทรนด์และให้อัลกอริธึมช่วยวิเคราะห์ในการหาจุดเข้า แน่นอนว่าในระยะหลังมานี่ผมได้กำไรจากฝั่งขาลงมากกว่าที่จะเป็นแนวโน้มขาขึ้น แต่วิธีการกระจายความเสี่ยงของผม ที่ไม่เหมือนกับนักลงทุนสมัยนี้คือการเอากำไรที่ได้ออกมาไปถือครองทองคำแท่งจริงๆ

ภาพรวมตลาดทองคำตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2020 Gold Daily
ที่มา: CQG

กราฟรายสัปดาห์รูปนี้แสดงให้เห็นจุดสูงสุดที่ปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆ ภายในระยะเวลาทั้งหมดสิบสามเดือน (นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2020) แม้แต่อินดิเคเตอร์อย่าง RSI และเส้นค่าเฉลี่ยอื่นๆ ก็ยังพากันปรับตัวลดลง ยอมศิโรราบอยู่ใต้แนวโน้มขาลง

เมื่อมาพิจารณาสัญญาซื้อขายทองคำในตลาดฟิวเจอร์สตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมปี 2020 หรือในวันที่ทองคำสร้างจุดสูงสุดตลอดกาล จะเห็นว่าจำนวนสัญญานั้นลดลงจาก 550,509 สัญญามาอยู่ที่ 490,856 สัญญาในวันที่ 28 กันยายนปี 2021 จำนวนสัญญาที่หายไปนั้นคิดเป็น 10.84% หรือหายไปทั้งหมด 59.653 สัญญา 

เหตุผลที่ฝ่ายสนับสนุนขาขึ้นทางเทคนิคของทองคำที่มีอยู่ในตอนนี้คือการปรับตัวลดลงมาในปัจจุบันก็ยังอยู่สูงกว่าจุดต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคม ในวันนั้นราคาทองคำได้ลงไปทำจุดต่ำสุดเอาไว้ที่ $1,680 ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หากพิจารณาจากมุมนี้ ในระดับราคาที่เหนือ $1,725 ในวันที่ 29 กันยายน ก็จะเห็นว่าราคานั้นยกจุดต่ำสุดใหม่สูงกว่าจุดต่ำสุดเดิม แบบนี้ก็น่าจะพอพิจารณาเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้

แต่ในภาพรวมยังไงทองคำก็วิ่งอยู่ในแนวโน้มขาลงมาเกินหนึ่งปีแล้ว และถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่เชื่อว่าเทรนด์คือเพื่อนของคุณ ความเป็นจริงในเรื่องนี้ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลย

อย่าคิดสวนเลย...เทรดตามเทรนด์ไป...เดี๋ยวดีเอง

ปี 2004 งานวิจัยของ James Surowiecki ได้ข้อสรุปว่าการตัดสินใจแบบกลุ่มนั้นได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการตัดสินใจเพียงลำพัง หลักการของเจมส์สามารถเอามาปรับใช้กับตลาดการลงทุนได้ เชื่อว่าคงจะเคยได้ยินประโยคที่ว่าแนวโน้มในตลาดสะท้อนความคิดของกลุ่มคน และเมื่อกลุ่มคนคิดว่าแนวโน้มทองคำตอนนี้เป็นเทรนด์ขาลง แล้วคุณคนเดียวจะไปเดินสวนกระแสน้ำได้อย่างไร

และสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อาจจะยังไม่ทราบว่าตลาดลงทุนที่ตัวเองกระโดดเข้ามาเล่นด้วยนั้นมีความใหญ่โตแค่ไหน นอกจากคุณต้องต่อสู้กับกลุ่มคนที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้แล้ว หากคุณคิดจะสวนเทรนด์ เท่ากับว่าคุณกำลังประกาศตัวเป็นฝั่งตรงข้ามกับสถาบันการเงิน ไม่ใช่แค่ภายในประเทศ แต่เป็นสถาบันกองทุนจากที่ต่างๆ ทั่วโลก เพราะใครๆ ก็อยากถือทองคำเอาไว้เป็นสินทรัพย์สำรองทั้งนั้น

ดังนั้นนี่คือคำแนะนำแรกของผมสำหรับการเทรดทองคำในช่วงนี้ คือหยุดสวนเทรนด์!!! หันมามองความเป็นจริงว่ากระแสหลักคิดกันแบบไหน และปล่อยตัวปล่อยใจให้ลอยไปตามกระแสน้ำนั้น

นโยบายการเงินสามข้อของอเมริกาที่อาจจะเป็นแรงสนับสนุนให้ทองคำในระยะยาว

แม้ว่าในระยะสั้นผมจะไม่เชื่อว่าราคาทองคำจะกลับไปเป็นแนวโน้มขาขึ้น แต่ในระยะยาวผมเชื่อว่าไม่ว่าอย่างไรราคาทองคำก็จะปรับตัวขึ้นตามกฎอุปสงค์อุปทานกับสินทรัพย์ที่มีจำกัด นอกจากนี้ยังมีนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่อาจช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นในระยะยาวมีสามข้อดังนี้

1.) ธนาคารกลางและรัฐบาลสหรัฐฯ เสพติดสภาวะแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำไปแล้ว ที่สำคัญพวกเขามีแนวโน้มที่จะขยายเพดานหนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ  ตอนนี้หนี้สาธารณะของอเมริกามีมูลค่าสูงถึง $430 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และทุกๆ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25 จุดเบสิส หมายความว่ารัฐบาลจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มในการชำระหนี้สูงถึง $75,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

2.) แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวขึ้น แต่การใช้เงินของรัฐบาลชุดนี้เรียกได้ว่ายิ่งกว่ามือเติบแล้ว ล่าสุดรัฐบาลกำลังเจรจากับสภาคองเกรสเพื่อของบอีก $3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หากสภาฯ อนุมัติวงเงินก่อนนี้ ก็เลิกเชื่อคำพูดของประธานเฟดที่ชอบบอกว่า “เงินเฟ้อเป็นเรื่องชั่วคราว” ไปได้เลยเพราะว่า “เงินเฟ้อกำลังจะกลายเป็นเรื่องถาวร”

3.) การปรับขึ้นภาษีเพื่อเอามาทบหนี้ของรัฐบาลนั้น จำนวนเงินที่ได้มาแทบไม่มีประโยชน์อะไรกับการลดหนี้ แม้โจ ไบเดนจะสัญญาว่านโยบายทางการเงินที่เพิ่มเข้ามาจะไม่กระทบต่อระดับหนี้ที่มีอยู่ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมมองว่านี่คือการพูดแบบไร้ความริบผิดชอบทางการเงิน ยิ่งหนี้ของอเมริกาเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น ราคาสินค้า อาหาร และบริการที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้ก็เป็นหลักฐานชั้นดีที่แสดงถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์ 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมอเมริกาถึงได้กลัวสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเบ่งบานขึ้นทุกวัน เพราะพวกเขารู้ดีว่าหนี้ที่มีอยู่นับวันยิ่งยากแก่การชำระ และต่อให้ท้ายที่สุดแล้ว โลกของสกุลเงินดิจิทัลจะล่มสลาย แต่ทองคำก็ยังคงอยู่ เมื่อไม่มีเงิน คนจะหันไปใช้อะไรได้นอกจากทองคำ

สำหรับตอนนี้...ทองคำแท่งเท่านั้นที่จะการันตีมูลค่าได้

ในปัจจุบันมีหลายช่องทางที่คุณสามารถลงทุนในทองคำได้ ทั้งแบบทางตรงหรือทางอ้อม ทางตรงก็คือการนำเงินจริงๆ ไปแลกเป็นทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณออกมาถือครองจริง ในขณะที่การถือครองทางอ้อมอย่างเช่นลงทุนใน ETF ETN ฟิวเจอร์ส CFD ออปชัน วิธีเหล่านี้คือการถือครองทางอ้อม แต่ว่าคุณก็ต้องยอมเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินงานให้กับตัวกลาง 

ถ้าจะให้ผมแนะนำ วิธีลงทุนกับทองคำที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการลงทุนทางตรง กับการเทรดทองคำตามเทรนด์ เพราะการลงทุนทางอ้อมก็เหมือนกับการฝากเงินให้คนอื่นลงทุน ซึ่งหมายความว่าเขาอาจจะคิดไม่เหมือนคุณก็ได้ ไม่มีอะไรการันตีว่าลงทุนในทองคำด้วย ETF แล้วจะช่วยให้คุณผ่านวิกฤตขาลงของสินทรัพย์สำรองได้ การลงทุนในฟิวเจอร์สอาจยุ่งยากมากขึ้นหาก กลต. มีการเพิ่มข้อกำหนดเพิ่มเติมในอนาคต การลงทุนในหุ้นของเหมืองทองจะรู้ได้ไงว่าวันหนึ่งเหมืองจะไม่ถูกปิดด้วยการเซ็นเพียงครั้งเดียวของรัฐบาล 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย