รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

2 กองทุน ETF สำหรับนัดลงทุนที่สนใจร่ำรวยไปด้วยกันกับ Apple

เผยแพร่ 22/09/2564 10:45
อัพเดท 02/09/2563 13:05

เชื่อว่าทุกวันนี้คงจะไม่มีใครไม่รู้จักบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง “แอปเปิล” (NASDAQ:AAPL) อีกแล้ว บริษัทผู้ปฏิวัติอุตสาหกรรมธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ให้เข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟน ที่เต็มไปด้วยแอปพลิเคชันมากมาย แอปเปิลพึ่งเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ประจำปีนี้อย่าง iPhone 13 ไปเมื่อวันที่ 14 กันยายน 

แม้ฟังดูเหมือนว่าจะเป็นข่าวดี แต่เมื่อพิจารณาราคาหุ้นของแอปเปิล เราจะเห็นว่าตั้งแต่หุ้นขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ที่ $157.16 ในวันที่ 7 กันยายน ราคาหุ้นแอปเปิลก็ไม่เคยกลับไปที่จุดสูงสุดนั้นได้อีกเลย แม้จะเป็นวันเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ก็ตาม ในวันที่ 20 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่เขียนบทความนี้ หุ้นแอปเปิลมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $142.5 ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 7 กันยายนประมาณ 9% ตั้งแต่ต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้นมาแล้ว 7%Apple Weekly Chart.

แม้ว่าราคาหุ้นและงานเปิดตัว iPhone 13 จะไม่น่าประทับใจเท้าไหร่ แต่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ investing.com 41 คนยังคงลงคะแนนให้หุ้นแอปเปิลเป็นหุ้นที่ทำผลงานขาขึ้นได้อย่างโดดเด่น พร้อมทั้งปรับราคาเป้าหมายของหุ้นในระยะเวลา 12 เดือนขึ้นเป็น $168.51 มีความหมายว่าพวกเขาเชื่อว่าจะได้เห็นหุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้นอีก 18% นักวิเคราะห์จากตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทก็มีความเห็นคล้ายกัน พวกเขาปรับระดับราคาเป้าหมายหุ้นในระยะ 12 เดือนขึ้นอยู่ในกรอบระหว่าง $132 - $190 Consensus Estimates.

ความโดดเด่นในฐานะบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลก ทำให้วันนี้เราจะมาแนะนำกองทุน ETF ที่ถือครองหุ้นแอปเปิล การลงทุนใน ETF เหมาะสำหรับคนที่สนใจอยากได้ถือหุ้นแอปเปิล แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการกระจายความเสี่ยง ไปถือหุ้นตัวอื่นที่ใกล้เคียงกันด้วย

1. iShares Global 100 ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $71.64
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $53.96 - $75.10
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.47%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.40% ต่อปี

กองทุน ETF ที่มีชื่อว่า iShares Global 100 (NYSE:IOO) เป็นกองทุนที่เน้นถือหุ้นของบริษัทที่มึมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาดขนาดใหญ่ กองทุนนี้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2000 อ้างอิงราคามาจากดัชนี S&P Global 100 ปัจจุบันถือครองหุ้นของบริษัทรวมแล้วทั้งสิ้น 104 แห่ง

IOO Weekly Chart.

เราสามารถแบ่งกลุ่มของหุ้นที่ถือครองออกเป็นห้ากลุ่มหลักๆ ได้แก่กลุ่มเทคโนโลยี 29.48% กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย 14.63% กลุ่มเฮลท์แคร์ 11.69% สินค้าจำเป็น 10.78% และกลุ่มการเงิน 10.04% หากพิจารณาธุรกิจของหุ้นที่ถือครองจะพบว่า 72% เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร 6.89% สวิตเซอร์แลนด์ 5.75% ฝรั่งเศส 4.56% เยอรมัน 3.44% มูลค่าของหุ้นบริษัทสิบอันดับแรกคิดเป็นครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์ทั้งหมด $3,450 ล้านเหรียญสหรัฐ

หุ้นของแอปเปิลคิดเป็นสัดส่วนถือครองที่เยอะที่สุด 12.37% นอกจากแอปเปิลก็จะเป็นบริษัทชื่อดังที่เราคุ้นหูกันดีเช่น Microsoft (NASDAQ:MSFT), Amazon (NASDAQ:AMZN), Alphabet (NASDAQ:GOOGL) (NASDAQ:GOOG) JP Morgan Chase (NYSE:JPM) และ Johnson & Johnson (NYSE:JNJ)

ปีที่แล้ว กองทุนนี้สามารถมอบผลตอบแทนคืนแก่ผู้ถือหุ้นได้มากถึง 28.5% ส่วนของปีนี้นั้น IOO ทำได้ 14% กองทุนนี้สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ในเดือนกันยายน มีอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ที่ 28.72x และ 3.65x ตามลำดับ หากต้องการจุดเข้าที่ดี ให้รอราคากองทุนปรับตัวลดลงไปวิ่งที่ $70 หรือต่ำกว่า

2. Emles Luxury Goods ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $29.61
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $24.92 - $32.32
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.11%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.60% ต่อปี

กองทุน ETF Emles Luxury Goods  (NYSE:LUXE) เป็นกองทุนที่ค่อนข้างจะเฉพาะทางอยู่พอสมควร กองทุนนี้ลงทุนกับบริษัทที่ได้ประโยชน์จากความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือย ที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กองทุนนี้เปิดเริ่มต้นให้เทรดในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 มีสินทรัพย์อยู่ภายใต้การจัดการประมาณ $6 ล้าน 1 แสนดอลลาร์สหรัฐLUXE Weekly Chart.

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโทเรโด โอโฮโอเขียนเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคเอาไว้ว่า

“ในปี 2021 ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยในสหรัฐฯ มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ $51,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2026 ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยในประเทศจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก คาดว่าจะถึงขนาด $31,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นตามการคาดการณ์ CAGR 6.7% นอกจากนี้ ประเทศสำคัญอื่นๆ อย่างเช่น ญี่ปุ่นและแคนาดาคาดว่าจะเติบโตที่ 3.8% และ 5% ตามลำดับ”

สำหรับบริษัทแอปเปิล งานวิจัยดังกล่าวเผยว่าความตั้งใจตั้งราคาสินค้าให้แพงขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อขยับเข้าหาตลาดบนมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกับแอปเปิลก็พยายามผูกมิตรกับแบรนด์ตลาดบนอย่า่งเช่นแบรนด์แอร์เมสและเกรซโซ่

นอกจากหุ้นแอปเปิลที่เป็นสิบอันดับแรกของกองทุนนี้ ยังมีหุ้นชื่อดังอื่นๆ อีกเช่น Daimler (OTC:DDAIF) Tesla (NASDAQ:TSLA) Essilor International (OTC:ESLOY) Hermes International (OTC:HESAF) (OTC:HESAY)) และ Fast Retailing (OTC:FRCOY)

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุนนี้ให้ผลตอบแทนแล้ว 11.3% สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้นราคาหุ้นของกองทุนนี้ก็ปรับตัวลดลงมาประมาณ 10% สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ให้รอราคากองทุนนี้ปรับตัวลดลงมาที่ประมาณ $28 ก่อนตัดสินใจเข้าซื้อ

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย