รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ภาพรวมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา

เผยแพร่ 01/09/2564 10:32
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ก้าวเข้าสู่เดือนที่เก้าของปี 2021 กันแล้ว ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดว่าความร้อนแรงของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์นั้นลดลง เพราะความมั่นใจของนักลงทุนที่หันไปสถิตย์อยู่กับตลาดหุ้นมากกว่าเนื่องจากมีแรงหนุนจากการคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ 

อย่างไรก็ตามการประชุมของธนาคารกลางที่แจ็คสัน โฮลเมื่อสัปดาห์ก่อน ทางธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณแล้วว่าภายใน 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ พวกเขาจะเริ่มลดวงเงินในการทำ QE อย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่า “เงินฟรี” ที่ธนาคารกลางฯ มอบให้มาตลอดระยะเวลา 18 เดือนกำลังจะลดลง

ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ความร้อนแรงของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะลดลง แต่หากเทียบดัชนีที่ติดตามมูลค่าในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง “TR/CC CRB Excess Return” กับดัชนี S&P 500 ตลอดทั้งปี 2021 จะพบว่าดัชนีที่ติดตามสินค้าโภคภัณฑ์ 19 ประเภทปรับตัวเพิ่มขึ้น 31% ในขณะที่เอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นมาเพียง 21%TR/CC CRB Excess Return Index MonthlyChart courtesy of SK Dixit Charting

นับตั้งแต่เฟดและทำเนียบขาวพร้อมใจกับอัดฉีดเงินดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ผลกระทบที่ตามมาก็คืออัตราเงินเฟ้อภายในประเทศได้ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นจึงทำให้การเก็งระยะเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มปรับลด QE หรือเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้น และการเป็นสิ่งตลาดลงทุนคาดหวังในทุกๆ ครั้งที่มีการประชุมของธนาคารกลาง

อย่างไรก็ตาม จากต้นปีจนถึงการประชุมที่แจ็คสัน โฮลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ยังไม่ยอมที่จะบอกระยะเวลาที่ชัดเจนของการปรับลด QE หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ในการประชุมครั้งนี้เขาได้บอกว่าการลด QE จะเกิดขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน จากระยะเวลาเพียง 4 เดือน (นับเดือนกันยายนด้วย) ที่เหลือ นักลงทุนจึงเชื่อว่าเฟดจะรอดูรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์ และจะตัดสินใจภายในการประชุม FOMC ที่จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนนี้

ในบทความนี้เราจะพาไปดูว่าตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ได้ผ่านอะไรมาบ้าง และมีความเป็นไปได้อะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับสินทรัพย์เหล่านี้

ตลาดน้ำมันดิบ WTI

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะเป็นขาลงของน้ำมันดิบ WTI อย่างหนักหน่วง แต่อันที่จริงแล้วหากดูการวิ่งของกราฟตลอดทั้งปี จะเห็นว่าราคาน้ำมันดิบ WTI สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 42% ในเดือนสิงหาคม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงไปมากกว่า 6% และยังไม่สามารถผ่านระดับแนวต้านสำคัญที่ $77.17 ต่อบาร์เรลขึ้นไปได้ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบ WTI เคยลงไปทำจุดต่ำสุดเอาไว้ที่ $65.38 ต่อบาร์เรลOil 5h

หากพิจารณาภาพรวมในระยะยาว จะเห็นว่าจุดสูงสุดที่ $77.17 ในเดือนกรกฎาคม มีความใกล้เคียงกับจุดสูงสุดที่ $77.12 ในเดือนตุลาคมปี 2018 นี่คือรูปแบบส่งสัญญาณขาลงที่คลาสสิกที่สุดอย่าง “double-top” ซึ่งตีความได้ว่าตลาดแห่งนี้กำลังจะเกิดแนวโน้มขาลง

อินดิเคเตอร์ RSI ปรับตัวได้อย่างสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด เพราะตัวอินดิเคเตอร์เองในตอนนี้ได้วิ่งอยู่ที่ระดับ 95/98 เกิดเป็นภาวะ overbought และสร้างความเป็นไปได้ในการพักตัวให้เกิดขึ้น หากการพักตัวครั้งนี้ทำให้ราคาสามารถปรับตัวลดลงไปวิ่งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันหรือ $59.83 ต่อบาร์เรล อาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้ราคาปรับตัวลดลงไปถึงเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ $53.83 ต่อบาร์เรล

สำหรับนักลงทุนฝั่งขาขึ้นก็อย่าพึ่งท้อใจไป เพราะเมื่อมองไปที่กราฟรายสัปดาห์แล้วจะเห็นว่าอินดิเคเตอร์ RSI นั้นอยู่ในโซน oversold เผยให้เห็นความเป็นไปได้ที่ WTI อาจปรับตัวกลับขึ้นมาที่ $73.50 ต่อบาร์เรลได้

ตลาดก๊าซธรรมชาติ

ก๊าซธรรมชาติถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปี 2021 สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนไปแล้วมากกว่า 70% หากลงทุนมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ในปีนี้ก๊าซธรรมชาติมีความต้องการมากเป็นพิเศษเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นนานกว่าปกติในช่วงไตรมาสที่ 1 และอุณหภูมิร้อนที่มากกว่าปกติในช่วงไตรมาสที่ 3Natural Gas 5h

ในปี 2021 กราฟก๊าซธรรมชาติสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $4.50 หลังจากทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ $4.43 ขึ้นไป ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาทรงตัวอยู่ที่ $4.29 จากการที่ราคาวิ่งกลับลงมาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้นักลงทุนบางส่วนประเมินว่ากราฟมีสิทธิ์ที่จะปรับตัวลงต่อไปจนถึง $3.40 และอินดิเคเตอร์ RSI ก็อยู่ในระดับ 89/84 ใกล้เคียงกับ overbought พอสมควร

ตลาดแร่โลหะมีค่า: ทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลงมามากกว่า 4% ต้นปี แต่เพราะขาขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมทำให้สุดท้ายจบเดือนสิงหาคมด้วยการวิ่งลงมาทั้งหมดไม่ถึง 4%Spot Gold 5h

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นด้วยทรงที่ดีนับตั้งแต่เริ่มเดือนมกราคมปี 2021 จากระดับราคา $1,675 ราคาทองคำสามารถขึ้นไปแตะ $1,905 ได้ในเดือนพฤษภาคม จากจุดนั้น เราได้เห็นราคาทองคำพักฐาน ก่อนที่จะไปวิ่งอยู่ในกรอบราคาระหว่าง $1,700 - $1,800 ก่อนที่จะขยับตัวลงสู่ $1,650 ในเดือนสิงหาคม ตั้งแต่ทองคำลงไปที่ $1,650 ที่ผ่านมาราคาทองคำได้พยายามปรับตัวขึ้นเรื่อยมา จนสามารถทะลุระดับราคา $1,688 $1,670 และ $1,676 ขึ้นมาได้ แต่จนแล้วจนรอด ราคาก็ไม่สามารถขยับตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือ $1,834 ได้

จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคตอนนี้อินดิเคเตอร์ RSI ได้ลงมาอยู่ในโซน 9/13 ซึ่งถือว่าเป็น oversold และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวกลับขึ้นไป การขึ้นยืนเหนือ $1,834 จะส่งให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อไปยัง $1,860 และ $1,920 แต่ถ้าไม่ ให้พิจารณาแนวรับเอาไว้ที่ $1,834  $1,800 และ $1,770

ตลาดแร่โลหะมีค่า: ทองแดง

ตั้งแต่ต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ราคาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าบนตลาด NYMEX ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 24% แต่ในเดือนสิงหาคม ราคาทองแดงได้ปรับตัวลดลงมา 2.5% ในเดือนพฤษภาคม ราคาทองแดงสามารถขยับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $4.89 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาเพราะผู้นำเข้าทองแดงอันดับหนึ่งอย่างประเทศจีนตัดสินใจหยุดนำเข้าแร่ทองแดงจากต่างชาติ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประเทศจีนได้ประกาศว่าพวกเขาจะเริ่มใช้แร่สำรองคงคลัง ซึ่งรวมถึงทองแดง 30,000 ตันในวันที่ 1 กันยายน การที่ประเทศจีนทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการควบคุมกลไกราคาทองแดงในตลาด นอกจากจะไม่ต้องซื้อทองแดงจากภายนอกในราคาที่แพงเกินไป จีนยังใช้โอกาสนี้ทดสอบว่าการหยุดซื้อทองแดงจะส่งผลกับตลาดโลกมากน้อยแค่ไหน

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคหากราคาทองแดงปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 4.60 มีโอกาสที่ทองแดงจะได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.88 แต่ถ้าปรับตัวลดลงมาวิ่งต่ำกว่า 4.08 มีโอกาสที่ราคาทองแดงจะได้กลับลงไปทดสอบแนวรับ 3.96 หรืออาจจะหลุดลงไปถึงแนวรับ 3.40 ได้

ตลาดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร: ถั่วเหลือง

ราคาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าบนตลาดลงทุนชิคาโกปรับตัวขึ้น 17% ตั้งแต่ช่วงสี่เดือนแรกของปี 2021 อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนเมษายน ราคาถั่วเหลืองก็ปรับตัวลดลงอย่างฉับพลันเนื่องจากมีซัพพลายอยู่ในตลาดมากเกินไป แม้แต่ในเดือนสิงหาคม ราคาของถั่วเหลืองก็ยังอยู่ในขาลง 2.8% ในปี 2021 ราคาถั่วเหลืองได้สร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $16.68 และทำจุดต่ำสุดเอาไว้ที่ $8.08 ในปัจจุบัน ราคาซื้อขายถั่วเหลืองมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $12.68

อินดิเคเตอร์ RSI ในปัจจุบันมีระดับอยู่ที่ 46/67 แสดงให้เห็นว่าราคามีโอกาสที่จะลงไปทดสอบ $12.38 ได้ และถ้าแนวรับ $12.38 ยังตรึงไว้ไม่อยู่ มีโอกาสที่เราจะได้เห็นราคาถั่วเหลืองที่แนวรับถัดไป $12.07 และ $11.74 ในกรณีที่สามารถแก้ปัญหาซัพพลายล้นตลาดได้ ให้พิจารณาแนวต้านแรกเอาไว้ที่ $14.68 ซึ่งถือเป็นระดับ 50% ของเครื่อง Fibonacci ที่วัดในกรอบระหว่าง $16.68 ถึง $12.68

ตลาดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร: กาแฟอาราบิก้า

หากนับเฉพาะกลุ่มพืชผลทางการเกษตร กาแฟอาราบิก้าถือเป็นกลุ่มที่ทำผลงานขาขึ้นได้ดีที่สุด ในปี 2021 ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 55% และเฉพาะเดือนสิงหาคมเดือนเดียว กราฟกราแฟอาราบิก้าปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 10% จุดสูงสุดที่กาแฟอาราบิก้าเคยทำได้อยู่ที่ $2.152 ก่อนที่จะย่อตัวลงมาที่ $1.7955 และปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ $2.4555 

อย่างไรก็ตาม อินดิเคเตอร์ RSI ได้ค้างอยู่ที่ 97/97 ซึ่งถือเป็นระดับ overbought หากกราฟรายเดือนยังเป็นเช่นนี้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า $1.81 ซึ่งนั่นจะเป็นการเปิดโอกาสให้ราคาได้ลงต่อไปยัง $1.68 และ $1.62

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย