หากไปถามนักลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สายพลังงานในช่วงไม่กี่เดือนก่อน เชื่อได้เลยว่ามีเพียงน้อยคนที่สามารถมองออกว่าขาขึ้นของก๊าซธรรมชาติจะสามารถให้ผลตอบแทนทิ้งห่างน้ำมันดิบและพลังงานเชื้อเพลิงได้มากขนาดนี้ นี่ขนาดว่าเหลือเวลาอีกเพียงหกสัปดาห์เท่านั้นก่อนที่ฤดูร้อนจะสิ้นสุดลง แต่ขาขึ้นของก๊าซธรรมชาติก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่หมดแรงลงง่ายๆ หากวัดจากจุดปิดเมื่อวันอังคาร จะพบว่าราคาก๊าซธรรมชาติตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันได้ขยับตัวขึ้นมาแล้วเกือบ 65% เทียบกับขาขึ้นน้ำมันและพลังงานเชื้อที่ทำได้ 40% และ 60% ตามลำดับ
นักวิเคราะห์หลายสำนักเชื่อว่าตอนจบเดือนสิงหาคม ราคาก๊าซธรรมชาติจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้อีกประมาณ 10% นับจากจุดปิดในวันอังคาร เนื่องจากการใช้งานเครื่องปรับอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน หลังจากนั้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 22 กันยายน) จะเป็นช่วงเวลาที่การใช้งานก๊าซธรรมชาติลดลง ก่อนที่จะไปเร่งตัวขึ้นอีกในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาว และคนต้องการก๊าซธรรมชาติเพื่อให้ความอบอุ่น
อย่างไรก็ดี มีความกังวลบางอย่างเกิดขึ้นกับวงการก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากการใช้งานก๊าซธรรมชาติในช่วงหน้าร้อนที่สูงขึ้น จึงทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองที่อยู่ในคลังจะมีใช้เพียงพอสำหรับช่วงฤดูหนาวนี้หรือไม่ ในช่วงแปดสัปดาห์ล่าสุด ระดับก๊าซธรรมชาติสำรองที่มีอยู่ในคลังยังถือว่าเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ มีบ้างในบ้างสัปดาห์ที่หลุดไปจากตัวเลขคาดการณ์เพราะผลิตก๊าซออกมาต่ำเกินไป สองอาทิตย์ที่มีตัวเลขโดดเด่นที่สุดคือสัปดาห์ของวันที่ 15 มิถุนายน และสัปดาห์ของวันที่ 6 กรกฎาคม สองสัปดาห์นั้นตัวเลขก๊าซธรรมชาติคงคลังออกมาที่ 16 bcf เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ 72 bcf และ 16 bcf เทียบกับคาดการณ์ 34 bcf
สำหรับตัวเลขปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังที่จะประกาศในวันนี้เวลา 21:30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) นักวิเคราะห์จาก Investing.com คาดว่าจะมีตัวเลขอยู่ที่ 21 bcf เทียบกับตัวเลขของสัปดาห์ก่อน 36 bcf...ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หากเป็นไปตามนี้จริง จะเท่ากับว่าสหรัฐฯ มีปริมาณก๊าซธรรมชาติในคลังสำรองทั้งหมด 2.735 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ต่ำกกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี 6.1% และต่ำกว่าตัวเลขของสัปดาห์ที่แล้ว 16.3%
ข้อมูลจาก Refinitiv ยังระบุด้วยว่าตัวเลข 21 bcf นี้ถือว่าต่ำกว่าตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 32 bcf และค่าเฉลี่ยในรอบห้าปีล่าสุด (2016-2020) ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 30 bcfที่มา: Gelber & Associates
แดน เมเยอร์ นักวิเคราะห์จาก Gelber & Associates เป็นหนึ่งในนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่าตัวเลขปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังในสัปดาห์ของวันที่ 30 กรกฎาคมจะมีตัวเลขที่ลดลงถึง 17 bcf เขาให้สาเหตุว่าเป็นเพราะในสัปดาห์หน้าอุณหภูมิจะร้อนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นในระยะสั้น และนั่นจะทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีโดยเฉลี่ย
“ช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของปี”
การที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่จะเพิ่มเข้ามาในคลังมีแนวโน้มลดลงเช่นนี้ ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น แดน ไมเยอร์ วิเคราะห์ว่าราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนกันยายนบนตลาด NYMEX สามารถขึ้นยืนเหนือจุดสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ $4.18 ต่อ mmBtu ได้แล้ว สร้างจุดสูงสุดใหม่ในวันที่ 26 กรกฎาคมเอาไว้ที่ $4.205
“ตราบใดที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังยังมีตัวเลขที่อยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสที่ราคาก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ในเร็วๆ นี้เราอาจจะได้เห็นราคาก๊าซธรรมชาติที่ $4.50 ก็เป็นได้” แดน ไมเยอร์ กล่าว
ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นราคาก๊าซธรรมชาติแพงที่สุดต้องย้อนกลับไปในช่วงวันคริสต์มาสปี 2018 ในสัปดาห์ของวันที่ 7 ธันวาคมเดือนนั้น เราได้เห็นก๊าซธรรมชาติที่ระดับสูงสุด $4.66 mmBtu
นักวิเคราะห์บางคนเตือน “ขาขึ้นจงระวังให้ดี”
แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ทุกคนทืี่เห็นด้วยกับแดน ไมเยอร์ นายสก๊อต เชลตัน นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ ICAP ในนอร์ท แคลร์โรไรนา ให้ระวังขาขึ้นที่ลากมายาวนานกว่าห้าสัปดาห์ติดต่อกันเอาไว้ให้ดี
“อันที่จริง ผลก็ประเมินว่ากราฟจะเเป็นแนวโน้มขาขึ้นนะ แต่เพื่อลดความเสี่ยง ผมจะถัวเฉลี่ยไปลงกับขาขึ้นในก๊าซธรรมชาติฟิวเจอร์สอื่นๆ ด้วย 50% อาจลงกับฟิวเจอร์สส่งมอบในเดือนกันยายน 50% จะลงกับช่วงซัมเมอร์ของปี 2022 และ 2023 และอีก 80% จะลงไปกับโอกาสดีดตัวกลับที่มีมากถึง 80%”
ในตอนนี้ราคาก๊าซธรรมชาติในช่วงหน้าร้อนของปี 2022 มีราคาอยู่เหนือ $3 ต่อ mmBtu ในขณะที่ของปี 2013 มีราคาเกือบจะแตะ $3 แล้ว สิ่งที่เชลตันเป็นกังวลมากกว่าคือธรรมชาติของตลาดก๊าซธรรมชาติที่เวลาเลือกเทรนด์แล้ว มักจะวิ่งไปในทิศทางเดียวกันเป็นเวลานาน และไม่มีโอกาสให้ฝั่งตรงข้ามได้แก้ตัวเลย หากเห็นว่าตกรถแล้ว
ระดับอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปไม่ได้หมายความว่าตลาดจะพักตัว
บริษัทวิเคราะห์ EBW แสดงความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ตลาดจะพักตัวว่ามีน้อยลงเพราะอุณหภูมิที่มีโอกาสกลับมาร้อนได้อีกในสัปดาห์หน้า สำนักข่าว Bespoke ก็ให้ความเป็นไปในทางเดียวกันกับ EBW ว่าสัปดาห์หน้าอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดในฤดูร้อนของปีนี้ มีโอกาสได้เห็นอุณหภูมิขึ้นสูงขึ้น 90 องศาฟาเรนไฮต์ในพื้นที่มิดเวสท์และทางตะวันออก
“ความร้อนที่ชาวอเมริกันกำลังต้องเผชิญในสัปดาห์หน้าจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี” - Bespoke กล่าว
บางสำนักข่าวพยากรณ์อากาศด้วยว่าในช่วงต้นสัปดาห์หน้าอาจจะมีลมแรงพัดเข้ามา แต่กำลังลมก็อาจจะแผ่วลงในช่วงปลายสัปดาห์ ในขณะที่ NatGasWeather วิเคราะห์ปัจจัยภายนอกเหล่านี้ว่าแทบจะไม่ส่งผลอะไรกับขาขึ้นของก๊าซธรรมชาติในตอนนี้เลย แต่กลับกัน ยิ่งมีข่าวว่าสหรัฐฯ มีโอกาสจะร้อนมากขึ้น กลับยิ่งทำให้ราคาก๊สซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น