ในโลกที่ทุกอย่างสามารถสั่งซื้อได้ด้วยปลายนิ้ว การลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัลถือเป็นการตอบโจทย์นักลงทุนยุคใหม่ที่เกิดมาก็เจอสมาร์ทโฟนเลยเป็นอย่างมาก เรื่องราวของเหล่ามหาเศรษฐีที่ลงทุนตั้งแต่บิทคอยน์คืออะไร มาจนถึงยุคที่แม้แต่คุณยายข้างบ้านยังเรียกเรามาถามว่าควรซื้อบิทคอยน์ดีไหม ทำให้มูลค่าของเหรียญบิทคอยน์ที่เคยมีอยู่เพียง 5 เซนต์ เท่านั้นในปี 2010 กลายมาเป็น $65,500 ในวันที่ 14 เมษายน หากคุณเป็นคนที่ลงทุนกับบิทคอยน์ด้วยเงินเพียง $10 ในปี 2010 ตอนนี้เงินของคุณจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากถึง $31.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตั้งแต่บิทคอยน์ถือกำเนิดขึ้นมาในโลกการลงทุน เราก็ได้เห็นการเติบโตของวงการนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในช่วงสิ้นปี 2020 เมื่อผมมานั่งดูจำนวนเหรียญทั้งหมดในตลาดกลับพบว่ามีเหรียญเพิ่มขึ้นเป็น 8,153 เหรียญ และในวันที่ 30 มิถุนายนปี 2021 ก็มีเหรียญอยู่ในระบบทั้งสิ้น 10,725 เหรียญ และทุกวันนี้ก็มีเกิน 11,000 เหรียญขึ้นไปแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap ในวันที่ 20 กรกฎาคมพบว่ามีสกุลดิจิทัลเพียง 44 เหรียญจาก 10,972 เหรียญเท่านั้นที่มีมูลค่าตลาดเกิน $1,850 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีเพียง 0.40% เท่านั้นที่มีการใช้งานในโลกความเป็นจริง ที่น่าตกใจก็คือสกุลเงิน 0.40% คิดเป็นมูลค่า 96% ของมูลค่าตามตลาดทั้งหมด ในขณะที่เหรียญที่เหลือมากกว่า 10,928 เหรียญมีมูลค่ารวมกันน้อยกว่า 4% ด้วยซ้ำ
การลงทุนและการเก็งกำไรนั้นแม้จะมีความเหมือนกันคือเอาเงินไปลงทุนเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงกลับมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การลงทุนคือการเชื่อในมูลค่าของสิ่งๆ นั้นจริงๆ ว่าจะสามารถสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นกับโลกได้ ในขณะที่การเก็งกำไรเป็นเพียงการโต้คลื่นไปกับราคาที่ผันผวน สวิงไปมา เมื่อหมดประโยชน์ก็ไปหาเหรียญตัวใหม่ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมมีเหรียญจำนวนมากได้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม 4% เพราะผู้คนหวังเพียงว่าเขาจะได้เป็นเจ้าของนิวบิทคอยน์ นิวอีเธอเรียมหรือนิวโดจคอยน์เท่านั้น ในขนาดที่กลุ่ม 0.4% แม้จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ยังได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ
สกุลเงินดิทัลที่มีคุณภาพเปิดโอกาสในการลงทุนและการเทรดได้เยอะกว่า ปลอดภัยกว่า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเตรียมพร้อมสำหรับการขาดทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัลเอาไว้ด้วย ความเสี่ยงคือเหรียญด้านตรงข้ามของผลตอบแทนในทุกตลาดเสมอ ราคาที่มีความผันผวนสูงถือเป็นจุดเด่นของสินทรัพย์คริปโตฯ ดังนั้นจึงควรเพิ่มความเสี่ยงเมื่อเห็นว่าคุ้มค่ากับกำไรที่จะได้มาเท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัลเพียง 44 เหรียญได้รับการยอมรับว่าเชื่อถือได้ เพราะทั้ง 44 เหรียญจะมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือการมีสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบิทคอยน์และอีเธอเรียมที่มีมูลค่ารวมกันคิดเป็น 63.5% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ยิ่งคุณเลือกลงทุนในสกุลเงินที่อยู่ห่างจากทั้ง 44 เหรียญนี้มากเท่าไหร่ ความเสี่ยงและสภาพคล่องที่ขาดหายก็ยิ่งมีมากขึ้น เพราะยิ่งมีการใช้งานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสภาพคล่องสูงเท่านั้น ในขณะที่การลงทุนกับเหรียญโนเนมก็แลกมากับโอกาสที่คุณจะได้เป็นที่หนึ่งของเหรียญที่ไม่เคยมีคนรู้จักมาก่อน แต่สิ่งที่คุณต้องแลกคือเหรียญนั้นอาจกลายเป็นเหรียญที่ไม่มีค่าอะไรเลยได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลตอนนี้ไม่ได้หวือหวาเหมือนอย่างเช่นปีก่อนแล้ว นับตั้งแต่สิ้นเดือนเมษายนเป็นต้นมา เราก็ได้เห็นภาพสกุลเงินบิทคอยน์และอีเธอเรียมนอนแน่นิ่งอยู่ที่จุดต่ำสุดล่าสุดของตัวเอง สวิงขึ้นลงบ้าง แต่ไม่ได้สร้างความเคลื่อนไหวใดที่มีนัยสำคัญ แต่ถึงอย่างนั้นในทุกๆ วันก็มีเหรียญใหม่ที่ยังเข้ามาสู่ตลาดคริปโตฯ อยู่เสมอ ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 2 ผมนับได้ว่ามีสกุลเงินดิจิทัลอยู่ที่ 10,725 เหรียญ ลดลงจาก 10,972 เหรียญ
แต่หากคุณเป็นนักลงทุนที่ไม่ได้เข้ามาเพื่อเอากำไรฉาบฉวย คุณเชื่อในโลกเสรี เชื่อในความงดงามของสกุลเงินดิจิทัล และเชื่อว่าถ้ามีการใช้งานอย่างหลากหลายแล้ว สกุลเงินดิจิทัลนั้นก็สามารถเติบโตได้ในโลกความเป็นจริง หากคุณเป็นคนเช่นนั้น เราขอแนะนำสกุลเงินดิจิทัล Klaytn (KLAY) และ Tezos (XTZ) สกุลเงินดิจิทัลทั้งสองนี้มีการใช้งานที่แพร่หลาย และมีมูลค่าตลาดเกิน $2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นเรื่องความน่าเชื่อถือจึงถือว่าหายห่วงไปได้เลย
สกุลเงินอันดับที่ 38 ของโลกคริปโต: Klaytn
Klaytn (KLAY) เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนพัฒนาโดย Ground X ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Kakao (KS:035720) ในเกาหลีใต้ 90% ของชาวเกาหลีใต้นิยมใช้แอปพลิเคชันสื่อสาร “KakaoTalk” นอกจากนนี้แอปพลิเคชันดังกล่าวยังได้เป็นพาร์ทเนอร์กับธนาคารออนไลน์และบริการเรียกรถโดยสารสาธารณะ ดังนั้นจึงสามารถพูดได้เลยว่าเหรียญตัวนี้ได้รันอยู่บนบล็อกเชนที่มีคนใช้เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว
ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่ เหรียญ KLAY มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 93 เซนต์ มีมูลค่าตามตลาดอยู่ที่ $2,330 ล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 22 กรกฎาคม ปัจจุบันมีอันดับอยู่บนเว็บไซต์ CoinMarketCap เป็นอันดับที่ 38 จากจำนวนเหรียญ 10,972 เหรียญ 
ที่มา: CoinMarketCap
กราฟนี้คือรูปของเหรียญ KLAY ที่เริ่มเปิดให้ทำการซื้อขายตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 เหรียญ KLAY เคยมีราคาต่ำสุดอยู่ต่ำกว่า 7.0 เซนต์และเคยทำจุดสูงสุดในเดือนมีนาคมปี 2021 เอาไว้ที่ $4.26
สกุลเงินอันดับที่ 44 ของโลกคริปโต: Tezos
เหรียญ Tezos (XTZ) นั้นเป็นเหรียญของแพลตฟอร์มบล็อกเชนโครงการหนึ่งซึ่งมีการดำเนินการคล้ายกับอีเธอเรียม โดยมีฟีเจอร์สหลักในการเป็นพื้นที่สำหรับการพัฒนาแอพลิเคชั่นแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized) หรือ DApps ด้วยเทคโนโลยี Smart Contract
ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่ เหรียญ XTZ มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $2.40 มีมูลค่าตามตลาดอยู่ที่ $2,000 ล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 22 กรกฎาคม ปัจจุบันมีอันดับอยู่บนเว็บไซต์ CoinMarketCap เป็นอันดับที่ 44 จากจำนวนเหรียญ 10,972 เหรียญ
กราฟในรูปแสดงให้เห็นกรอบการวิ่งของเหรียญ XTZ ที่เคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่า 35 เซนต์ และวิ่งขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ $10.56 ในเดือนตุลาคมปี 2017 ในเดือนพฤษภาคมปี 2021 เหรียญ XTZ ได้ทำจุดสูงสุดที่ปรับตัวลดลงมายัง $7.54 ก่อนที่จะร่วงลงตามบิทคอยน์และอีเธอเรียม
ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าทั้ง KLAY และ XTZ เป็นเหรียญที่มีพื้นฐานดีทั้งคู่ ทั้งในแง่ของความปลอดภัย สภาพคล่อง และการถูกใช้งานในโลกความเป็นจริงก็ทำให้ได้รับการยอมรับจากสังคม อย่างไรก็ตาม เพราะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล จึงต้องยอมรับว่ายังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง หากคิดจะลงทุนกับเหรียญทั้งสอง ควรมีความรู้ในการวิเคราะห์ราคาทางเทคนิคเพื่อหาทางหนีทีไล่ในวันที่กราฟไม่เป็นใจกับพอร์ตการลงทุนของเรา