โลกเราทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วเหลือเกิน หากย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว ถ้ามีคนพูดว่าบิทคอยน์ขึ้นมา เชื่อได้เลยว่าเก้าในสิบคนจะมองว่าสิ่งๆ นี้คงจะเป็นสกุลเงินในโลกของเกมหรือเงินเฉพาะพวกเด็กเนิร์ดคอมพิวเตอร์ใช้กัน ในปี 2010 มูลค่าของเหรียญบิทคอยน์มีอยู่เพียง 5 เซนต์ เท่านั้น ก่อนจะกลายมาเป็น $65,500 ในวันที่ 14 เมษายน หากคุณเป็นคนที่ลงทุนกับบิทคอยน์ด้วยเงินเพียง $10 ในปี 2010 ตอนนี้เงินของคุณจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากถึง $31.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ธรรมชาติของตลาดลงทุนนั้นจะวิ่งขึ้นและลงอยู่เสมอ ในบางครั้งก็ขึ้นอย่างมีเหตุผลมากๆ และในบางครั้งอยากจะลงก็ลงเลยแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ดังนั้นใครที่บอกว่าตลาดคริปโตฯ นั้นขึ้นลงด้วยความโลภของคนล้วนๆ ไม่มีรูปแบบอะไรจับต้องได้ ผมขอพูดตรงนี้เลยว่าเป็นความ ‘จริง’ ที่ไม่จริงทั้งหมด ก่อนที่จะไปกล่าวหาตลาดคริปโตฯ เช่นนั้น ลองไปดูตัวอย่างจากตลาดอื่นกันดีไหม ยกตัวอย่างเช่นพลังงานที่โลกนี้ขาดไม่ได้ก่อนเลยอย่างน้ำมันก็แล้วกัน
เชื่อว่าทุกคนยังจำวันนั้นกันได้ดีเพราะพึ่งผ่านกันมาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ในเดือนเมษายนปี 2020 ตลาดน้ำมันในโลกยุคใหม่ได้เผชิญกับวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นครั้งแรก ไม่มีใครเคยนึกเคยฝันมาก่อนว่าจะมีเรื่องอะไรที่จะมาแยกมนุษยชาติออกจากการใช้งานน้ำมันได้ จนกระทั่งมาเจอโควิด จากอุปสงค์ของน้ำมันที่หายไปเพราะการล็อกดาวน์ทั่วโลก ในเดือนนั้นราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงไปไม่ใช่แค่ถึง $0 ต่อบาร์เรล แต่สามารถลงไปได้ถึงระดับติดลบ $40 ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมา และในปีนี้เราก็ได้เห็นราคาน้ำมันขึ้นไปถึง $72.42 ต่อบาร์เรลได้….จากจุดต่ำสุดในวันนั้น
ถ้าคุณยังเป็นคนที่อึ้งอยู่กับขาขึ้นของบิทคอยน์ในปีที่แล้ว แปลว่าคุณพึ่งเข้ามารู้จักตลาดนี้ได้ไม่นาน เพราะก่อนหน้านี้บิทคอยน์ก็เคยทำพฤติกรรมขึ้นสุดลงสุดเช่นนี้มาแล้ว การสวิงขึ้นลงเป็นเรื่องปกติในโลกของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีความผันผวนน้อยที่สุดแค่ไหนก็ต้องมีวันที่ทะยานขึ้นหรือร่วงลงแบบไม่มีเหตุกันบ้าง ที่ใดที่มีขาขึ้น ที่นั่นย่อมจะมีนักเก็งกำไรเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวัฐจักรเพื่อปั่นราคาให้ยิ่งสูงขึ้นสูงขึ้นไปอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญก็คือในตอนที่คุณอยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับขาขึ้นนั้น คุณรู้หรือไม่ว่าตอนนี้คุณกำลังเป็นผู้ที่กอบโกยหรือผู้ที่กำลังถูกกอบโกยอยู่ ในชีวิตการลงทุนของผม ผมเห็นมาเยอะแล้วกับคนที่ใส่สูทเข้ามาในตลาดแต่เดินกลับออกไปด้วยเสื้อกล้ามตัวเดียว วิธีตรวจสอบง่ายๆ ว่าตลาดที่คุณเล่นอยู่สมควรแก่เวลาแล้วหรือไม่ที่จะถอนตัว ให้รอดูวันที่คนรอบๆ ตัวคุณเริ่มพูดถึงสิ่งที่คุณถือครองอยู่ โดยที่คนๆ นั้นไม่น่าจะเข้ามายุ่งกับวงการนี้ได้เลย อย่างในกรณีของผม ผมตัดสินใจขายบิทคอยน์ทันทีในวันที่คุณแม่วัยอายุ 88 ปีของผมเรียกไปถามว่าเขาสมควรลงทุนในบิทคอยน์หรือไม่
สกุลเงินดิจิทัลที่ดี คือสกุลเงินที่มี market cap เกิน $1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันที่จริงแล้วเรื่องราวของสกุลเงินดิจิทัลถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผมมากเช่นกัน ตั้งแต่ผมรู้จักกับวงการนี้มีเพียงสองสกุลเงินเท่านั้นที่ผมให้การยอมรับว่ามีอนาคตไกลนั่นคือบิทคอยน์และอีเธอเรียม ในตอนที่ผมเริ่มเข้ามาสู่วงการนี้อย่างจริงจังในไตรมาสที่ 1 ปี 2019 ตอนนั้นโลกของสกุลเงินดิจิทัลมีเหรียญอยู่ทั้งหมดเพียง 2,136 เหรียญเท่านั้น
แต่การเติบโตของวงการนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในช่วงสิ้นปี 2020 เมื่อผมมานั่งดูจำนวนเหรียญทั้งหมดในตลาดกลับพบว่ามีเหรียญเพิ่มขึ้นเป็น 8,153 เหรียญ และในวันที่ 30 มิถุนายนปี 2021 ก็มีเหรียญอยู่ในระบบทั้งสิ้น 10,725 เหรียญ และทุกวันนี้ก็มีเกิน 10,880 เหรียญขึ้นไปแล้ว
อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนเหรียญไม่ได้เป็นตัววัดความสำเร็จของวงการ เพราะที่แห่งนี้คือการคัดสรรตามธรรมชาติอย่างแท้จริง ทุกคนสามารถสร้างเหรียญเป็นของตัวเองได้ แต่จะมีสักกี่เหรียญที่สามารถเติบโตไปกลายเป็นเหรียญที่มีคุณภาพ ได้รับการยอมรับจากตลาดทั่วโลก นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมทุกวันนี้จึงมีแต่คนเอาแต่ตามหา “นิวบิทคอยน์ นิวอีเธอเรียม” หรือนิวโดจคอยน์
เพราะฉะนั้นหากมองอย่างเป็นธรรมแล้ว ความเป็นจริงของตลาดคริปโตฯ ในส่วนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับหุ้นราคาถูกที่มีอยู่ในตลาดหุ้น เพราะถ้าบริษัทของคุณไม่สามารถทำผลงานได้ดี ไม่สามารถพัฒนาสินค้าขึ้นมาจนเป็นที่ยอมรับของสังคมได้ สุดท้ายหุ้นของบริษัทคุณก็ไม่มีค่าอะไรเลยเช่นเดียวกับสินค้าของหุ้น และก็จะถูกคลื่อนลูกใหม่ที่โถมเข้ามาซัดหายไป กลายเป็นเพียงทรายเม็ดหนึ่งที่อยู่บนหาด
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับร่วมกันและไม่อาจปฏิเสธความจริงนี้ได้คือการสวิงขึ้นลงในวงการคริปโตฯ นั้นมีความเสี่ยงที่มากกว่า และไม่ได้มี กลต. มาคอยกำกับดูแลตลาดเหมือนกับการลงทุนในตลาดหุ้น นี่ยังไม่นับถึงการฉ่อโกง การหลอกลวง การแชร์ลูกโซ่ ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้จะต้องเรียนรู้และสร้างเกราะป้องกันของตัวเองขึ้นมา โชคดีที่สกุลเงินอย่าง Chiliz (CHZ) และ Synthetix (SNX) ไม่ได้เข้าข่ายนั้น ทั้งสองสกุลเงินมีคุณสมบัติของความเป็นเหรียญที่มีอนาคตไกลทุกอย่างไม่ว่าจะการมีมูลค่าตลาดเกิน $1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การติดอยู่ใน 100 อันดับแรกของเหรียญทั้งหมด 10,880 เหรียญ
สกุลเงินอันดับที่ 56 ของโลกคริปโต: Chiliz
Chiliz (CHZ) เป็นเหรียญ ERC-20 ที่สร้างอยู่บนบล็อกเชนอีเธอเรียม พวกเขามีบล็อกเชนเป็นของตัวเองซึ่งเป็นของเว็บไซต์ Socious.com ถือเป็นเหรียญสำหรับแฟนกีฬาอย่างแท้จริง ใครที่เป็นของทีมฟุตบอลสโมสรไหนก็สามารถเข้าไปถือเหรียญได้ยกตัวอย่างเช่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปารีสฯ ยูเวนตุส บาร์เซโลนา เอซีมิลาน ฯลฯ
ความสวยงามของเหรียญนี้คือผู้ถือครอง CHZ สามารถเอาเหรียญดังกล่าวไปแลกซื้อแฟนโทเคน (Fan Token) ของทีมที่ตัวเองเชียร์ได้ และก็จะได้รับสิทธิ์พิเศษกับสโมสรนั้นๆ ในหลายๆ รูปแบบ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม CHZ มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $1,560 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 56 ของจำนวนสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดที่จัดอันดับโดย CoinMarketCap
ที่มา: CoinMarketCap
CHZ เริ่มเปิดให้ทำการซื้อขายมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2019 ในตอนนั้นมีราคาอยู่ที่ 1.2 เซนต์ ปัจจุบันมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.265 เซนต์ต่อหนึ่งเหรียญ สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ที่ 0.7739 เซนต์ในช่วงกลางเดือนเมษายนปี 2021
สกุลเงินอันดับที่ 69 ของโลกคริปโต: Synthetix
Synthetix (SNX) เป็นคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ถูกสร้างบนบล็อกเชนของอีเธอเรียม จุดประสงค์ของ Synthetix คือการสร้าง สินทรัพย์บน Synthetic ซึ่งมีราคาเชื่อมโยงกับสกุลเงินหรือสินทรัพย์ เหมือนกับสเตเบิลคอยน์ (stable coin) ที่ไปอิงกับราคาของดอลลาร์สหรัฐ Synthetix นั้นเหมือนกับการสร้าง สินทรัพย์ Synthetic ที่ถูกแทร็กจากราคาสินทรัพย์นั้นจริงๆ และถูกค้ำประกันโดย SNX token
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม SNX มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $1,150 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 69 ของจำนวนสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดที่จัดอันดับโดย CoinMarketCap มีราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ $10.08 ต่อหนึ่งเหรียญ
SNX เริ่มเปิดให้ทำการซื้อขายตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมปี 2018 มีราคาเปิดตัวอยู่ต่ำกว่า 44 เซนต์ ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 ราคาเหรียญ SNX สามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ $27.07 ต่อหนึ่งเหรียญ และทำจุดต่ำสุดของเดือนนี้เอาไว้ที่ $11.10 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ส่วนจุดต่ำสุดของปีนี้นั้น SNX เคยทำเอาไว้ที่ $5.84 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน