รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่เปิดเผยไปในช่วงเช้าของวันนี้แสดงให้เห็นว่าเฟดจะมีการร่นระยะเวลาที่จะลดวงเงินเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์เข้ามาเร็วขึ้น คำแถลงที่ถูกบันทึกลงในรายงานใช้คำว่า “ผู้มีสิทธิ์วางนโยบายในปีนี้หลายคนพูดถึงความคาดหวังที่จะปรับลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์เร็วกว่าที่เคยพูดไว้ในการประชุมครั้งก่อนหน้า (หมายถึงการประชุมรอบก่อนเดือนมิถุนายน)” รายงานการประชุมนี้คือการเน้นย้ำคำพูดเฟดอีกรอบและทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากที่รายงานการประชุมนี้ถูกเปิดเผยไปแล้ว ท่าทีของเหล่าบรรดาผู้มีสิทธิ์วางนโยบายดูเหมือนจะสบายใจขึ้น เชื่อว่าการประกาศอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2021
ตอนนี้นักลงทุนบางส่วนให้ความสนใจว่าระหว่างธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใครจะเป็นฝ่ายลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ของรัฐบาลก่อน แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าแต่ก็ไม่ได้ขยับขึ้นไกลกว่าแนวต้านล่าสุดที่ 92.60 จุด ในขณะที่ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของยูโรโซนออกมาได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง ตัวเลขผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันหดตัวลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน นอกจากตัวเลขการผลิต ตัวเลขในภาคการบริการและการเติบโตของรายได้ในยุโรปก็ออกมาไม่ดีมากนัก นั่นจึงทำให้เศรษฐกิจของยุโรปต้องใช้เวลานานกว่าก่อนที่จะกลับมา เทียบกันกับของสหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจดูเหมือนว่าจะกลับมาแล้ว ชาวอเมริกันในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นฤดูร้อนใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย ดังนั้นข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 จึงมีแนวโน้มสูงว่าจะออกมาดีกว่าของยุโรป
ในไตรมาสที่ 3 นี้เราจะเริ่มได้เห็นผลกระทบกับสกุลเงินที่เกิดจากการวางนโยบายการเงินที่แตกต่างกันของธนาคารกลางในแต่ละประเทศ ดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เพราะธนาคารกลางแห่งนิวซีแลนด์ (RBNZ) ออกมาคาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นภายในช่วงสิ้นปีนี้ ธนาคารกลางของนอร์เวย์ก็เริ่มส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายน เชื่อว่าหลังจากนั้น ECB ธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์คงจะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตามมา และจะทำให้กราฟ EUR/NZD และ NZD/JPY เปลี่ยนเทรนด์
แม้ว่าวันนี้เยอรมันจะมีรายงานตัวเลขดุลบัญชีการค้า แต่ความสนใจของตลาดจะหันไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา ก่อนหน้านี้ตัวเลขดัชนี PMI จาก IVEY ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 64.7 จุดเป็น 71.9 จุด ทำสถิติปรับตัวขึ้นสูงที่สุดในรอบสามเดือน ข้อมูลตัวเลขในตลาดแรงงานจะมีประกาศในวันพรุ่งนี้ ซึ่งสองเดือนก่อนหน้าตัวเลขการเติบโตของแรงงานออกมาไม่ดีมากเท่าไหร่ นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าอาจจะได้เห็นตัวเลขการจ้างงานของแคนาดาเพิ่มขึ้นเกือบ 200,000 ตำแหน่ง หากเป็นเช่นนั่นก็อาจทำให้ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) สามารถตัดสินใจร่นระยะเวลาการแตะเบรก QE เข้ามาอยู่ในช่วงเดือนเมษายน และอาจมีการปรับลดวงเงินเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตามขาลงในตลาดน้ำมันช่วงสองวันล่าสุดและการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐทำให้ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าและกราฟ CAD/USD ต้องปรับตัวลดลง
ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูลตัวเลขของออสเตรเลียยังไม่สามารถกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น ตัวเลขดัชนี PMI ภาคบริหารหดตัวลงจาก 61.2 จุดเป็น 57.8 จุด หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็ไม่มีเหตุผลให้ธนาคารกลางออสเตรเลียจะต้องรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามเทรนด์ของธนาคารกลางอื่นๆ ส่วนสกุลเงินปอนด์ในสัปดาห์นี้ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญแล้ว ดังนั้นทิศทางของกราฟจะขึ้นอยู่กับดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก