รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

บุกตลาดหุ้นเวียดนาม ทะยานพุ่งทะลุกราฟศก.ขาลง

เผยแพร่ 28/06/2564 08:59

มาแล้วค่ะอิป้าหามาเล่า วันนี้ขอโกอินเตอร์ไปที่ตลาดหุ้นต่างประเทศกันสักหน่อยนะคะ ไม่ได้ไปไหนไกลค่ะ ก็ใกล้ ๆ บ้านเรานี้เอง เวียดนามซึ่งต้องยอมรับและขอคาราวะกับประเทศนี้จริง ๆ เลยนะคะ แม้ว่าจะเกิดวิกฤตอะไรมาก็ตามแต่ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสที่ระบาดอยู่ ณ ขณะนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรชีได้เลย หรือล่าสุดเฟดส่งสัญญาณเตือนการปรับลดลงคิวอี และเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ย (รอลุ้นอีกทีเดือน ส.ค. - ก.ย.) เค้าโดนรับแรงกระแทบกันไปถ้วนหน้าทั้งอเมริกา ยุโรป และแถบเอเชีย รวมถึงบ้านเรา แต่เวียดกลับผงกหัวเชิดใส่เสียนี่กระไร (แหม!! นายนี้มันแน่จริง ๆ)

หากย้อนกลับไปช่วง 4 - 5 เดือนที่ผ่านมา หลายประเทศยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก แต่ดัชนี VN เวียดนามกลับทะยานขึ้นสวนกระแสทำ All time High ใหม่ทะลุไปที่ 1,216 จุด และ 1,300 จุด ไล่เรียงกันติด ๆ ทิ้งระยะห่างเพียงไม่ถึงเดือนเท่านั้น ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์สูงสุดของตลาดหุ้นในแถบอาเซียนเลยก็ว่าได้ค่ะ และคาดว่าในช่วงสิ้นปีนี้อาจทะยานพุ่งทะลุไปถึงยอด 1,500 จุดก็เป็นได้นะคะ มาลุ้นกันดูค่ะ

ดั๊นจึงมองว่า หากใครที่กำลังจะก้าว หรืออยากเข้าไปลงทุนในตลาดต่างประเทศดูบ้าง เวียดนามถือว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน และที่สำคัญตลาดหุ้นเวียดนามมีราคาที่ค่อนข้างถูก อีกทั้งในปีนี้การเติบโตของบริษัทจดทะเบียนในเวียดนามคาดว่า ผลประกอบการมีอัตราความก้าวหน้าสูงถึง 40% หากเปรียบเทียบปีที่ผ่านมาสร้างการเติบโตไปได้อีกราว 20% ส่งผลให้ค่า PE (อัตราส่วนทางการเงิน ที่จะแสดงถึง อัตราส่วนราคาหุ้น​ต่อกำไรสุทธิ ที่ได้จากการนำ ราคาหุ้น มาเทียบกับ กำไรต่อหุ้น) ตลาดหุ้นเวียดนามอยู่ที่ราวไม่เกิน 15 เท่า ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำอยู่

และเมื่อย้อนกลับไปช่วง 5 - 6 เดือนที่ผ่านมา นักลงทุนรายย่อยต่างให้ความสนใจในตลาดหุ้นเวียดนามเป็นอย่างมาก เข้ามาเปิดบัญชีการซื้อ - ขายสูงถึง 110,000 รายต่อเดือน ซึ่งสูงมาก เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมานักลงทุนรายย่อยเข้ามาเปิดบัญชีซื้อ - ขายเฉลี่ยที่ 16,000 รายต่อเดือน ซึ่งถือว่าตลาดหุ้นเวียดนามเนื้อหอมเป็นอย่างมาก

ส่วนด้านจีดีพีเองเวียดนามตั้งเป้าเติบโตทั้งปีนี้ไว้ที่ 6.5% ซึ่งในไตรมาสแรกนี้สามารถขยายตัวไปได้ที่ประมาณ 4.48% หากเปรียบเทียบกับจีดีพีปีที่แล้วขยายตัวอยู่ที่ 2.9% ขณะที่จีดีพีของประเทศไทยปีที่แล้วเราติดลบ 6.1%

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าการเติบโตของ GDP เวียดนามจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 7% ต่อปี หรือขยายตัวในระดับที่ 6.6% และอีก 15 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจเวียดนามจะขยายการติบโตได้ถึง 5 เท่า คาดว่าจะสามารถขยับเลื่อนขั้นมาอยู่ที่อันดับ 19 ของโลกได้ จากการขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ และมีเสถียรภาพของเวียดนามจะทำให้ขยับแทรงหน้าเศรษฐกิจในเอเชีย

โดยหุ้นที่น่าสนใจในครั้งนี้น่าจะเป็นในเรื่องของการท่องเที่ยว ACV (Airport Corporation of Vietnam) คล้าย ๆ กับหุ้น AOT (BK:AOT) บ้านเรา ซึ่งมี 22 สนามบิน ทั่วประเทศ โดยรวมทุกสนามบินนั้นสัดส่วนผู้โดยสารภายในประเทศต่อต่างประเทศเป็น 36:64 บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 2012 โดยเป็นการควบรวมกันของบริษัทสนามบินหลายๆแห่งในเวียดนาม และในปี 2016 จดทะเบียนในตลาดหุ้น UPCOM: ACV โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ถึง 95% คือรัฐบาล

และตัวที่น่าสนใจน่าจะเชื่อมโยงรับอานิสงค์จากภาคอุตสาหกรรมได้นั่นคือ SCS (Sai Gon Cargo) ประกอบธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ จัดตั้งขึ้นมาในเดือนเมษายน 2008 ในรูปแบบของ Public-Private Partnership (PPP) โมเดล เพื่อพัฒนาโครงสร้างของเวียดนาม ด้วยทุนจดทะเบียน US$ 19 ล้าน

อย่างไรก็ดี ประเทศเวียดนามมีการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น ทำให้เศรษฐกิจกลับฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นแล้วจึงส่งผลให้จีดีพีมีการเติบโตขึ้นมาได้ นอกจากนี้เวียดนามเองยังได้รับประโยชน์จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทำให้บรรดาบริษัทใหญ่ อย่าง เช่น Apple (NASDAQ:AAPL) ย้ายฐานการผลิต เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงกำแพงภาษี และส่งผลให้มูลค่าส่งออกสินค้าเวียดนามไปสหรัฐฯ 9 เดือนพุ่งสูงถึง 25% หรืออยู่ที่ราว 54,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ขณะเดียวกันค่าแรงในประเทศเวียดนามมีอัตราค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับแถบเอเชียเดียวกัน แถมประชากรของประเทศเวียดนามมีมากถึง 97 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีกำลังแรงงานที่มาก ทำให้อัตราการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจมีศักยภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบในอาเซียน จึงทำให้ผู้ผลิตสินค้าขนาดใหญ่จากหลากหลายประเทศอย่าง สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน เข้ามาลงทุนขยายโรงงานที่เวียดนามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มของสมาร์ทโฟน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ส่งผลให้มีเขตอุตสาหกรรมมากสุดถึง 500 แห่ง

สุดท้าย การจะเข้าไปลงทุนไม่ว่าจะในแต่เทศหรือต่างประเทศ ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ก่อนนะคะ เพื่อสร้างความมั่นใจในการลงทุนได้ และรับผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม วันนี้ไปล่ะค่ะ...บ๊ายยย

บทความนี้จัดทำโดย อิป้าหามาเล่า - E'pa hamalao ล้วงลึกทุกการลงทุน หุ้น กองทุนรวม

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย