หากถามว่าหุ้นตัวไหนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงวิกฤตโควิด-19 เชื่อว่าสามอันดับแรกที่คนนึกถึงจะต้องมีชื่อของ ‘ซูม’ (NASDAQ:ZM) รวมอยู่ด้วยแน่นอน เมื่อมนุษยชาติถูกจำกัดการสื่อสารให้ไม่สามารถพบปะพูดคุยกันแบบกลุ่ม ความต้องการเทคโนโลยีที่จะมาช่วยติดต่อสื่อสารเพื่อให้กิจกรรมต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้จึงเกิดขึ้นผ่านเครื่องมือที่สามารถเป็นแพลตฟอร์มตัวกลางการสื่อสาร ซึ่งซูมมีทุกสิ่งที่กล่าวมากนั้นเพียงเจ้าเดียวในปีที่แล้ว
แต่เมื่อมนุษยชาติปรับตัว ทุกคนหันมาใส่หน้ากาก ประเทศมหาอำนาจสามารถผลิตวัคซีนต้าโควิดได้สำเร็จ หลายๆ พื้นที่สามารถกลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อีกครั้ง แอปพิลเคชันชื่อดังเริ่มผลิตเครื่องมือสำหรับการสื่อสารผ่านวิดีโอในรูปแบบของตัวเอง นักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของซูมได้ผ่านพ้นไปแล้ว สังเกตได้จากราคาหุ้นของซูมในนี้ที่ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาล 40% มีราคาซื้อล่าสุดอยู่ที่ $466.40 เทียบกับจุดสูงสุดนั้นที่ $588.84
อย่างไรก็ตามตัวเลขที่ออกมาจากรายงานผลประกอบการในวันที่ 1 มิถุนายนกลับไม่แสดงผลลัพธ์เช่นนั้น ตัวเลขบอกว่าซูมยังไม่ได้เสียอัตราการเติบโตของตัวเองไป ข่าวดีนี้ทำให้บริษัทซูมกล้าที่จะประเมินว่ากำไรที่จะได้ในไตรมาสที่สองซึ่งวัดถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้นเป็น $990 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ $942 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นนั้นคาดว่าจะออกมาอยู่ที่ $1.14-$1.15 มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ $0.94
การปรับตัวของซูมในยุคของการทำงานผสม
อีริค หยวน CEO ของซูมทราบดีว่าในวันที่โควิดถูกควบคุมได้แล้ว ความนิยมใช้งานของซูมจะต้องลดลง ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีใหม่ๆ ในการหากำไรเพิ่มด้วยการให้สิทธิ์พิเศษมากขึ้นสำหรับผู้ที่ยินดีชำระค่าบริการ ยกตัวอย่างเช่นการสร้างระบบโทรศัพท์ผ่านคลาวด์ การปรับโมเดลทางธุรกิจเข้าหาองค์กรหรือธุรกิจขนาดเล็กและกลางมากขึ้น
“ก่อนอื่นเราขอขอบคุณสำหรับกระแสตอบรับที่ดีมาตลอดปี 2020 คำแนะนำเหล่านั้นจะมีส่วนช่วยให้เกิดวิวัฒนาการไปสู่โลกการทำงานไฮบริดที่มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิผล และความสุขมากขึ้นสำหรับการเชื่อมต่อทั้งแบบตัวต่อตัวและแบบกลุ่มในอนาคต” - อีริค หยวน กล่าว
นักวิเคราะห์บางคนก็เชื่อว่าซูมจะยังไม่สิ้นไร้ไม้ตอกในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน แต่กลับกันพวกเขากำลังจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ในโลกยุคหลังโควิด ริชิ จาลูเรีย นักวิเคราะห์จาก RBC วิเคราะห์ว่าขาขึ้นของซูมยังเกิดขึ้นได้จากการเป็นที่ยอมรับของบริษัทหรือธุรกิจยักษ์ใหญ่มากขึ้น
“ในโลกยุคหลังโควิดเราจะได้เห็นการทำงานที่หลากหลายขึ้น เราได้เห็นแล้วว่าการทำงานที่บ้านทำให้ได้ผลลัพธ์ในเชิงประสิทธิภาพไม่แพ้กับการไปทำงานที่ออฟฟิศ และซูมคือส่วนประกอบสำคัญที่จะก่อให้เกิดความเป็นจริงในข้อนี้ ไม่ว่าคุณจะมีอุปกรณ์ใดอยู่ในมือ คุณสามารถเข้าร่วมการประชุม ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานหรือคนข้ามโลกได้ทันที”
RBC ได้ปรับเป้าหมายของหุ้นซูมขึ้นเป็น $450 สูงขึ้นเกือบ 30% ของราคาหุ้นซูมในปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังวิเคราะห์ต่ออีกว่า
“เราไม่ได้อวยซูมโดยไม่พิจารณาคู่แข่งคนสำคัญอย่างไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) หรือกูเกิล (NASDAQ:GOOGL) แต่เพราะทั้งสองค่ายต่างมีเงื่อนไขว่าจะมีบัญชีใช้งานในระบบของพวกเขาก่อน ในขณะที่ซูมคุณจะสามารถเป็นใครก็ได้ ขอเพียงโหลดแอปฯ มาก็สามารถใช้งานได้เลยทันที ความง่ายในการเข้าถึงนี้ทำให้ซูมยังได้เปรียบกูเกิลและไมโครซอฟต์”
แบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารชื่อดังของสหรัฐฯ ก็เป็นอีกบริษัทที่ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของซูม พวกเขาเชื่อว่าจะได้เห็นหุ้มซูมทะยานขึ้นมาอีกครั้งในปีนี้ พร้อมกับปรับราคาเป้าหมายหุ้นซูมขึ้นเป็น $480
“ในมุมมองของพวกเรา ซูมเป็นแอปฯ ที่เข้าถึงการ video call ได้รวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับองค์กรขนาดเล็กที่อาจจะยังพร้อมเพิ่มงบที่ต้องมาใช้จ่ายให้กับแอปพลิเคชันเพื่อการสื่อสารในทุกๆ ปี แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงการ video call ได้ ถึงแม้ว่าโควิดจะจากไป แต่มนุษยชาติได้เรียนรู้วิธีที่จะติดต่อทำงานกับคนอีกซีกโลกหนึ่งแล้ว นั่นจึงเป็ตเหตุผลที่ทำให้เราคิดว่าถึงจะมีคู่แข่ง แต่ด้วยความง่ายในการเข้าถึง ซูมก็จะยังเป็นที่นิยมอยู่ดี”
โดยสรุปแล้ว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าหุ้นซูมจะยังไม่สามารถกลับขึ้นไปยังจุดสูงสุดตลอดกาลได้ในเร็วๆ นี้ เพราะเมื่อการแพร่ระบาดจบลง บริษัทที่ยังยึดติดกับการทำงานที่ออฟฟิศก็ต้องการให้พนักงานกลับไปทำงานที่บริษัทตามเดิม แต่เชื่อได้เลยว่าหลังจากนี้เราจะเข้าสู่โลกการทำงานแบบผสม หลายๆ บริษัทจะมีนโยบายให้สลับระหว่างการมาทำงานที่ออฟฟิศและที่บ้าน และเมื่อถืงเวลานั้นซูมก็ยังจะเป็นแอปฯ ที่หลายๆ คนใช้เพื่อติดต่อสื่อสารเพราะความง่ายในการเข้าถึง นั่นจึงทำให้หุ้นของซูมจึงเป็นที่น่าซื้อและถือครองเอาไว้ในระยะยาว