ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่น่าเบื่อสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดซื้อขายด้วยการปรับตัวลดลง 8 จุดเบสิส ในขณะที่ดัชนีแนสแด็ก 100 สามารถปรับตัวขึ้นปิดบวกได้เพราะราคากองทุน Investco QQQ Trust (NASDAQ:QQQ) ปรับตัวขึ้นประมาณ 30 จุดเบสิส
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง 2.39% เมื่อวันจันทร์ สวนทางกับกราฟผลตอบแทนพันธบัตรที่วัดโดย TIPS ซึ่งปรับตัวขึ้น 3.4 จุดเบสิส เท่ากับว่าจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ เราจะได้เห็นกราฟผลตอบแทนถูกกดดันไปจนถึงการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อ
เมื่อมานั่งดูกราฟผลตอบแทนฯ ทั้งสองจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ปรับตัวลดลงมากนัก กราฟจาก TIPSกลับปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยซ้ำ ในบางจุดที่มีการปรับตัวขึ้น ผมกลับมองว่าขาขึ้นเหล่านั้นไม่สามารถเชื่อได้เพราะล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากความคาดหวังที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อ
ถึงแม้จะมีคนบอกว่าความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อคือสาเหตุที่ทำให้ตลาดลงทุนสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ดูไม่สดใส แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับไม่คิดว่าเรื่องนั้นจะเป็นตัวที่ทำให้ขาขึ้นของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ต้องชะลอตัว
ตลาดที่อยู่อาศัยเป็นอย่างไรกันบ้างในช่วงนี้?
การที่ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย PHLX เมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดง 40 จุดเบสิสยิ่งทำให้ผมไม่เชื่อว่าตลาดที่อยู่อาศัยได้รับแรงกดดันจากภาวะ reflation นอกจากนี้อินดิเคเตอร์อย่าง RSI ก็ยังไม่ได้ลงมาแตะโซน oversold และ MACD ก็ยังไม่ได้ลงไปอยู่ในแดนลบ ซึ่งหมายความว่ายังมีโอกาสที่ดัชนีนี้จะปรับตัวลดลงอีกในอนาคตอันใกล้
ตลาดไม้แปรรูป
ถึงแม้จะมีข่าวไม้แปรรูปมีราคาที่แพงขึ้น แต่เมื่อมาดูกราฟจริงๆ แล้วก็จะพบว่าราคาไม้แปรรูปกำลังปรับตัวลดลง ที่สำคัญราคาได้ปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันแล้วด้วย ซึ่งหมายความว่าเราต้องเริ่มพิจารณาแนวรับกันแล้ว ส่วนตัวผมให้แนวรับของตลาดนี้เอาไว้ที่ $1,100 และ $1,200 หากหลุดแนวรับทั้งสองลงไปได้ ให้พิจารณาว่าตลาดกำลังจะเข้าสู่แนวโน้มขาลงระยะยาวได้เลย
ภาคการขนส่ง
ดัชนีดาวโจนส์ที่ใช้วัดเฉพาะภาคการขนส่งปรับตัวลดลง 23 จุดเบสิสและกำลังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ส่วนเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันนั้นอยู่ห่างจากระดับราคาปัจจุบันประมาณ 15% ผมไม่กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่ากราฟตัวนี้กำลังเข้าสู่แนวโน้มขาลงแล้ว แต่การที่ราคาวิ่งลงมายังเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันได้ ก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับขาขึ้นเท่าไหร่นัก ดังนั้นให้พิจารณาแนวรับที่ 15,300 จุดเอาไว้ด้วย
โฮมดีโป
ถึงแม้ว่าข่าวที่ประโคมออกไปจะระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ดี แต่ในความจริงแล้วก็ยังไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด สังเกตได้จากการจับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยที่ยังไม่สามารถกลับขึ้นมาได้อย่างเต็มที่ หรือไม่ก็ดูราคาหุ้นของโฮมดีโป (NYSE:HD) บริษัทธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ก็ได้ ในตอนนี้ราคาหุ้นของโฮมดีโปกำลังปรับตัวลดลง และอาจจะลงไปถึงแนวรับที่ $300
ข่าวใหญ่ในวงการแพทย์
ข่าวใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์คือข่าวของบริษัทไบโอเจ็น (NASDAQ:BIIB) ที่องค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ ได้ประกาศอนุมัติใช้ยา Aduhelm ให้เป็นยารักษาโรคอัลไซเมอร์ตัวใหม่ของบริษัทได้ ผมเชื่อว่าสำหรับใครหลายๆ คน นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินชื่อบริษัทแห่งนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ราคาหุ้นของไบโอเจ็นทะยานขึ้นในวันเดียวเกือบ 40%
ในขณะที่ไบโอเจ็นกำลังฉลองกับข่าวดี แต่อีกบริษัทหนึ่งอย่างอาคาเดีย (NASDAQ:ACAD) กลับไม่โชคดีอย่างนั้นเมื่อโปรเจ็คยารักษาอาการสมองเสื่อมของพวกเขายังไม่ผ่านการยอมรับจาก FDA ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจว่าทำไมยาทั้งสองตัวซึ่งมีความใกล้เคียงกันกลับไม่สามารถผ่านการรับรองที่เหมือนกัน หากถามผมว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากเพราะผมก็ไม่ใช่หมอและก็ไม่ใช่คนจาก FDA ด้วย
แต่ผมเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้อาคาเดียยอมอยู่เฉยๆ แน่ พวกเขาจะต้องเรียกร้องคำอธิบายที่แน่ชัดจาก FDA ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมราคาหุ้นของอาคาเดียถึงสามารถปรับตัวขึ้นมาจนเกือบจะสามารถปิดช่องว่างระหว่างราคา (gap) ที่เกิดขึ้นได้แล้ว
ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
ผมเกือบลืมไปแล้วว่าจริงๆ หัวเรื่องของบทความนี้คืออะไร เชื่อว่าตอนนี้หลายๆ คนกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับแนวรับ $30,000 ของบิทคอยน์ว่าจะสามารถพยุงสกุลเงินแห่งอนาคตนี้เอาไว้ได้อีกนานแค่ไหน ยิ่งบิทคอยน์ไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้ ยิ่งทำให้ภาพรวมแล้วค่อนข้างน่าเป็นกังวล ข่าวร้ายสำหรับตอนนี้คือในมุมมองของผม บิทคอยน์ได้เริ่มเข้าสู่ขาลงเวฟที่ 5 แล้วตั้งแต่ตอนที่หลุด $33,000 ลงมาได้ และขาลงครั้งนี้อาจส่งบิทคอยน์ลงไปไกลถึง $16,600
ก่อนที่คุณจะเชื่อคำพูดผม ผมขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าผมไม่ใช่สาวกผู้ศรัทธาในบิทคอยน์ และผมไม่ใช่พวกเดินทางสายกลางด้วย ผมไม่เชื่อในบิทคอยน์และไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องใช้มันเลยด้วยซ้ำ และผมก็ยิ่งไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าสกุลเงินนี้จะมาแทนที่สกุลเงินปกติที่เราใช้กันอยู่ในทุกๆ วันได้ ถึงแม้ว่าซาน ซาวัลดอร์จะออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อบ่ายวันจันทร์ว่าดอลลาร์จะยังคงเป็นสกุลเงินหลักที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป โดยที่สกุลเงินบิทคอยน์จะเป็นเพียงทางเลือกเท่านั้น แต่ผมถามจริงๆ นะ มีสกุลเงินใดในโลกบ้างที่วิ่งขึ้นลงทีละ 3% เพียงเพราะทวีตของใครบางคน?
ไม่ว่าสุดท้ายละครเรื่องนี้จะจบลงแบบใด ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าดอลลาร์สหรัฐจะยังคงเป็นสกุลเงินสำรองอันดับหนึ่งของโลกไปอีกยาวนาน