การลงทุนในทุกวันนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเจอแต่คนพูดถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล คำว่าบิทคอยน์ (BTC) และอีเธอเรียม (ETH) กลายเป็นคำปกติที่นักลงทุนคริปโตฯ หรือคนที่พึ่งจะเข้ามาอยู่ในวงการใหม่ๆ สามารถพูดกันได้อย่างคล่องแคล่ว
แต่ถึงกระนั้นการที่จะได้ครอบครองเหรียญทั้งสอง (แบบเต็มๆ เหรียญ) นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเป็นเหรียญที่มีราคาแพง และด้วยเงินลงทุนที่มีจำนวนจำกัด คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเราจะยอมลดสภาพคล่องลงเพื่อให้ได้ถือเฉพาะบิทคอยน์และอีเธอเรียม ดังนั้นในบทความนี้เราจึงได้เสนอเหรียญทางเลือกใหม่ที่ถือได้ว่ามาแรงและน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือเหรียญชิบะ อินนุ(SHIB) และเมกเกอร์ (MKR)
ภาพรวมของตลาดคริปโตเคอเรนซี่
สถานการณ์ล่าสุดของตลาดบิทคอยน์ยังถือว่าทรงตัวแต่ก็ไม่ได้พ้นขีดอันตราย ราคาซื้อขายบิทคอยน์ยังคงวิ่งอยู่เหนือ $35,000 โดยประมาณ นักลงทุนบางส่วนเริ่มรังเกียจพฤติกรรมการปั่นราคาบิทคอยน์ของอีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทเทสลา (NASDAQ:TSLA) มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาคือคนที่ทำให้บิทคอยน์ขึ้นไปแตะ $60,000 ได้และก็เป็นคนที่ส่งบิทคอยน์ลงมาวิ่งต่ำกว่า $40,000 ในปัจจุบัน นอกจากนี้ตลาดบิทคอยน์ยังได้รับแรงกดดันมาจากความพยายามแบนบิทคอยน์ที่เข้มงวดมากขึ้นในประเทศจีน
ที่มา: CQG
กราฟในรูปนี้แสดงให้เห็นราคาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนมิถุนายนปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุด $66,450 ในวันที่ 14 เมษายนซึ่งเป็นวันเดียวกับการถูกลิสต์ขึ้นแนสแด็กของคอยนส์เบส (NASDAQ:COIN) ลงไปยังจุดต่ำสุดที่ $30,275 ในวันที่ 19 พฤษภาคม
ที่มา: CQG
ราคาเหรียญอีเธอเรียมก็ปรับตัวลดลงมาไม่น้อยหน้าบิทคอยน์ ราคาส่งมอบอีเธอเรียมล่วงหน้าในเดือนมิถุนายนได้ปรับตัวลดลงมาจาก $4,442 ในวันที่ 12 พฤษภาคมลงมายัง $2,077.50 ในวันที่ 24 พฤษภาคม และลงต่อมายัง $2,720 ในวันที่ 2 มิถุนายน
ตอนนี้โลกของเรามีสกุลเงินดิจิทัลเกิน 10,000 เหรียญแล้ว
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักที่ในที่สุดเราก็จะได้เห็นตัวเลขจำนวนรวมของเหรียญสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดในตลาดมีเกิน 10,000 เป็นที่เรียบร้อย ถ้าจะพูดให้ถูก ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันเรามีสกุลเงินดิจิทัลรวมแล้วทั้งหมด 10,200 สกุลเงิน ถึงแม้ว่าจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นการบ่งบอกถึงกระแสความนิยมและคนที่ตื่นรู้ในสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น แต่ในแง่ของความน่าเชื่อถือนั้นกลับมีเหรียญที่สามารถไว้ใจได้อยู่ไม่เกิน 150 เหรียญเท่านั้น
มีเพียงสองเหรียญที่มีมูลค่าตลาดเกิน $63,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีเพียงเก้าเหรียญเท่านั้นที่มีมูลค่าเกิน $20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีเพียงสิบห้าเหรียญเท่านั้นที่มีมูลค่าเกิน $10,000 ล้านเหรียญสหรัฐและมีเพียงแปดสิบห้าเหรียญที่มีมูลค่าเกิน $1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบสัดส่วนของเหรียญทั้งหมด 111 สกุลเงินที่สามารถไว้ใจได้ เข้ากับจำนวนเหรียญที่มีอยู่ทั้งหมดในตลาดจะพบว่ามีสกุลเงินดิจิทัลเพียง 0.83% เท่านั้นที่สามารถเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้งานทั่วโลกได้จริงๆ
สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ศรัทธาโลกสกุลเงินดิจิทัลหรือฝ่ายที่ต่อต้านสกุลเงินดิจิทัลต้องยอมรับตรงกันก็คือ ตลาดแห่งนี้ยังมีความเสี่ยงสูงมาก ดูจากสัดส่วนของเหรียญที่รอดชีวิตเทียบกับเหรียญที่ได้รับการยอมรับก็น่าจะทราบได้ ดังนั้นการรักษาสภาพคล่อง ให้มีเงินลงทุนในระยะยาวจึงถือเป็นสิ่งที่ควรกระทำ และการเลือกถือเฉพาะเหรียญที่มีมูลค่าตลาดเยอะ ย่อมทำให้มีโอกาสรอดมากกว่า มีเพียง 0.40% ของสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้นที่มีมูลค่าตลาดเกิน $30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ชิบะ อินุ และเมกเกอร์คือสองสกุลเงินที่อยู่ใน 0.40%
อย่าเข้าใจผิด ชิบะ อินุไม่ใช่โดจคอยน์
ชิบะ อินุ เป็นสกุลเงินที่ถูกตั้งชื่อขึ้นมาให้ล้อกับเหรียญโดจคอยน์ (DOGE) โดยตรงหลังจากที่มูลค่าของโดจคอยน์เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สกุลเงินนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อเหล่าคนดังที่ศรัทธาในโลกคริปโตฯ อย่างอีลอน มัสก์ สนู๊ป ด๊อก และคนอื่นๆ ที่เริ่มทำธุรกรรมผ่านเจ้าเหรียญตัวนี้ อ้างอิงจากการจันอันดับของเว็บไซต์ ‘CoinMarketCap’ ปัจจุบันเหรียญ ชิบะ อินุ อยู่ในอันดับที่ 34 มีมูลค่าตลาดรวมแล้วทั้งสิ้น $55,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
เหรียญชิบะ อินุหรือที่เรียกว่า ‘ชิบะโทเค็น’ เป็นเป็นโทเค็น ERC20 ที่ถูกรันอยู่บนเครือข่ายข่ายของอีเธอเรียม ถูกสร้างขึ้นในเดือนสิงหาคม 2020 โดยบุคคลนิรนามที่รู้จักกันในชื่อ 'Ryoshi' มันไดรับฉายาว่านามว่า 'DOGE killer' เพาะเลียนแบบแบบมาจาก Dogecoin เช่นเดียวกับคริปโตอื่นๆ
ที่มา: CoinMarketCap
กราฟนี้แสดงให้เห็นถึงวันที่เหรียญชิบะ อินุทะยานขึ้นจากเหรียญที่มีมูลค่าน้อยกว่า $0.00000001 ในเดือนสิงหาคมปี 2020 ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ $0.00003431 ในวันที่ 10 เดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะย่อตัวลดลงมาเหลือ $0.0000095 ในวันที่ 2 มิถุนายน
เมกเกอร์ สเตเบิ้ลคอยน์มาแรงในโลก DeFi
เมกเกอร์ (MKR) คือเหรียญ Governance token ของ Maker Protocol ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการกู้ยืม (Lending Platform) ที่สร้างขึ้นบน Ethereum และ MakerDAO ที่เป็นองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO) ที่คอยดูแล Maker Protocol อยู่เบื้องหลังอีกทีหนึ่ง
ผู้ใช้แพลตฟอร์ม Maker Protocol สามารถฝากเหรียญดิจิทัลที่รองรับเข้าไป จากนั้น Smart contract จะนำเหรียญไปค้ำประกันและปล่อยเงินกู้ออกมาในรูปแบบของเหรียญ Dai โดยเหรียญ Dai คือ Stablecoin ที่มีการผูกมูลค่าเข้ากับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (US Dollar) ในวันที่ 2 มิถุนายน เหรียญเมกเกอร์มีมูลค่าตลาดรวมแล้วอยู่ที่ $35,590 ล้านเหรียญสหรัฐ มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $3,590
ที่มา: CoinMarketCap
กราฟในรูปนี้แสดงให้เห็นตอนที่เหรียญ MKR ปรับตัวขึ้นจาก $24.45 ในช่วงปลายเดือนมกราคมปี 2017 ขึ้นไปเป็น $6,000 ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม การขึ้นจาก $24.45 ขึ้นไปถึง $3,590 ได้นั้น MKR ได้สร้างหมุดหมายสำคัญให้กับเหรียญตัวเอง เพราะนั้นคือการมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 146 เท่าเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในช่วงต้นปี 2017
สรุปแล้วหากต้องการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล หากสนใจในสกุลเงินที่เกิดมาเพื่อโค่นโดจคอยน์ เราขอแนะนำให้ไปลงทุนกับเหรียญ SHIB แต่ถ้าสนใจในเรื่องของ DeFi เราขอแนะนำให้เริ่มลงทุนในเหรียญ MKR ทั้งสองตลาด มีนักลงทุนแต่ละประเภทที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งที่เหรียญทั้งสองมีเหมือนกันคือสภาพคล่องที่ไว้ใจได้ แต่เพราะตลาดสกุลเงินดิจิทัลยังเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นเราจึงขอแนะนำเหมือนเดิมว่า ไม่ควรนำเงินที่จำเป็นต้องใช้มาลงทุน