ปลดล็อคข้อมูลพรีเมียม: ส่วนลดสูงสุดถึง 50% InvestingProรับส่วนลด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคเช้า กองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มอีก +5.83 ตัน

เผยแพร่ 24/05/2564 09:24
XAU/USD
-
GC
-

สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคําจะทะยานขึ้นไปทําระดับสูงสุดบริเวณ 1,859.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรง หนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ท่ามกลางการแข็งค่าของยูโรและปอนด์ หลังจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปที่ออกมาดีเกินคาด อาทิ ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการ เบื้องต้นของสหราชอาณาจักร ที่ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 62.0 ในเดือนพ.ศ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 56.9 ในเดือนพ.ศ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ําสุดในรอบกว่า 4 เดือนบริเวณ 80.65 จนเป็นปัจจัยสําคัญที่ผลักดันให้ราคา ทองคําดีดตัวขึ้นแรง อย่างไรก็ดี ราคาทองคําปรับตัวลงแรงในทันทีที่มาร์กิตเปิดเผยว่าดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐดีดตัวเกินคาดสู่ระดับ 68.1 ในเดือนพ.ศ. ซึ่ง เป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนการขยายตัวควบคู่กันทั้งภาคการผลิตและบริการ ส่งผลให้ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ําสุดในระหว่างวัน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นขานรับ ตัวเลขดังกล่าวเช่นกัน จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคําร่วงลงแรงสู่ระดับต่ําสุดบริเวณ 1,870.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมีแรงซื้อในช่วงปลายตลาดหนุนให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นมาปิด ตลาดบริเวณ 1,880.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มอีก +5.83 ตันโดยเกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน สําหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐ แต่แนะนําติตตามถ้อยแถลงของนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟตแอตแลนตา และนางสาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟต

ระหว่างวันหากราคาทองคําไม่หลุด 1,875-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มราคาทองคําในระยะ สั นราคายังคงมีรูปแบบแกว่งตัวในลักษณะค่อยปรับตัวขึ น ซึงมีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,900-1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคําหลุดแนวรับดังกล่าว มีโอกาสปรับตัวลงไปหา แนวรับถัดไปที่ 1,859 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คําแนะนํา ราคาอาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,9001,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิด แรงขายทํากําไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคําอ่อนตัว ลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,870-1,859 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดูกราฟราคาทองคำ SPOT XAU/USD

https://th.investing.com/currencies/xau-usd

กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT

https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย