นักลงทุนคริปโตฯ กำลังอยู่ในช่วงถูกทดสอบแรงศรัทธา สินทรัพย์ทางเลือกอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับคริปโตฯ เองก็เช่นกัน แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ‘คอยน์เบส’ (NASDAQ:COIN) ก็คือหนึ่งในนั้น หลังจากที่ราชาสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ร่วงลงมากกว่า $10,000 ในวันเดียวส่งผลให้ราคาหุ้นคอยน์เบสได้สร้างจุดต่ำสุดตลอดกาลทันที หุ้นคอยน์เบสปรับตัวลดลงมากถึง 13% ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นไปเหลือ 5.9% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $224.80 เมื่อวานนี้ราคาหุ้นคอยน์เบสสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีก 3.8% มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $233.39
นับตั้งแต่คอยน์เบสเปิด IPO เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้มูลค่าของหุ้นคอยน์เบสลดลงไปมากกว่าสามส่วนเมื่อเทียบจากราคาเปิดตอนแรกที่เข้ามายังตลาดหุ้น แม้จะมีนักลงทุนจำนวนมากมองว่าจังหวะตอนนี้คือโอกาสดีในการเข้าถือหุ้นคอยน์เบส แต่พวกเขาก็ต้องแบกรับกับต้นทุนที่ติดลบมากขึ้นเรื่อยๆ ตามราคาหุ้นที่ลดลง
หากจะถามว่าอะไรคือสิ่งที่ยังทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในตลาดสกุลเงินดิจิทัลอยู่ทั้งๆ ที่บิทคอยน์โดนเทขายลงมาหนักขนาดนี้ นอกจากผลตอบแทนแบบถือไว้สามปีขอคืนปีเดียวก็คุ้มและบล็อกเชนที่ไม่สามารถถูกทำลายได้แล้ว ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะการเข้ามาถือครองทรัพย์สินดิจิทัลของเหล่าบรรดาคนดังไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกวงการ และหนึ่งในคนดังที่ถือว่าทรงอิทธิพลที่สุด (ในแง่ของการออกสื่อ) ในโลกการเงิน ณ ตอนนี้คือคุณเคธี วูด เจ้าของกองทุน ARK Investment
ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังเทขายตลาดสกุลเงินดิจิทัล เคธี วูดกลับเป็นไม่กี่คนที่กล้าเข้าไปซื้อหุ้นของคอยน์เบส ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เธอพึ่งเปิดเผยว่าได้ใช้เงินอีก $90 ล้านเหรียญสหรัฐในการเข้าซื้อหุ้นคอยน์เบส การให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ทีวี ก็เรียกได้ว่าสร้างความตะลึงให้กับนักลงทุนเมื่อเธอบอกว่ามูลค่าของบิทคอยน์จะสามารถขึ้นถึง $500,000 ได้
“สำหรับคนที่เฝ้าดูตลาดคริปโตฯ มานาน การร่วงลงมาของบิทคอยน์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องปกติมากและไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอดีต”
Moshe Katri นักวิเคราะห์จาก Wedbush แสดงความเห็นต่อหุ้นคอยน์เบสในตอนนี้ว่า
“การร่วงลงของตลาดคริปโตฯ ไม่ควรที่จะทำให้นักลงทุนตกใจกลัวเมื่อเทียบกับมูลค่าธุรกิจของคอยน์เบส ส่วนตัวแล้วเรามองว่าหุ้นคอยน์เบสเป็นแพลตฟอร์มที่ “ซื้อ ครบ จบที่เดียว” มีนักลงทุนรายย่อยมากกว่า 56 ล้านคนและมีสถาบันการเงินมากกว่า 8,000 แห่งเข้าไปลงทุน นี่คือยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดตัวหนึ่งของวงการคริปโตฯ แล้วถ้าราคาหุ้นคอยน์เบสลงมาขนาดนี้...คุณจะรออะไรกันอยู่ละครับ”
นอกจากจะวิเคราะห์สนับสนุนคอยน์เบสแล้ว เขายังปรับความน่าเชื่อถือของหุ้นคอยน์เบสขึ้นเป็น “โดดเด่น” พร้อมทั้งปรับราคาเป้าหมายของหุ้นคอยน์เบสขึ้นเป็น $275
สภาพบิทคอยน์ตอนนี้เรียกว่าฟองสบู่แตกได้แล้วหรือไม่
ขาลงแบบนี้อาจจะถือเป็นช่วงกอบโกยของเหล่าบรรดากองทุนหรือสถาบันการเงินต่างๆ แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยแล้วต้องไม่ลืมว่ากำไรของคอยน์เบสจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์และอีเธอเรียม หากการร่วงลงของบิทคอยน์ครั้งนี้ถือเป็นช่วงฟองสบู่แตกแล้ว นั่นหมายความว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลกำลังจะเข้าสู่ช่วงซึมยาว
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บิทคอยน์ร่วงเป็นน้ำตกขนาดนี้ และหากเทียบในเชิงมูลค่าแล้วการร่วงลงครั้งนี้ยังสู้สองครั้งก่อนไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่การร่วงลงของบิทคอยน์มีความหมายต่อคอยน์เบสว่ามูลค่าของกำไรที่บริษัทควรได้ก็จะต้องลดลงตามไปด้วย เพราะกำไรหลักของคอยน์เบสมาจากการเก็บค่าทำเนียมในการลงทุน และถ้าขาลงครั้งนี้คือจุดเริ่มต้น นั่นหมายความว่านักลงทุนที่ไม่มีเงินมากพอจะไม่สามารถถือยาวรอจนกว่าตลาดคริปโตฯ จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งได้
สิ่งที่เกิดขึ้นกับบิทคอยน์ตอนนี้เรียกได้ว่าโดนรุมกลั่นแกล้งก็ว่าได้ จุดเริ่มต้นแรกนั้นเกิดขึ้นมาจากอดีตคนที่เคยเชียร์บิทคอยน์อย่างสุดหัวใจอย่างอีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา (TSLA) ก่อนหน้านี้เคยเคยเชิดชูบิทคอยน์ทุกทาง ถึงขนาดเปิดให้ซื้อขายรถยนต์ของบริษัทเขาด้วยบิทคอยน์ได้แล้ว แต่แล้ววันหนึ่งหลังจากที่เขาหันไปเชียร์สกุลเงินดิจิทัลโดจคอยน์ ความรักที่เคยมีก็ค่อยๆ จืดจางลง
ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นเพราะอีลอน มัสก์กำลังจะหันไปสนับสนุนเหรียญอื่น หรือทำเพื่อปั่นราคาหุ้นของตัวเอง จู่ๆ เขาก็ประกาศออกมาว่าจะไม่รองรับการทำธุรกรรมด้วยบิทคอยน์ เพราะการขุดเหรียญบิทคอยน์นั้นใช้พลังงานไฟฟ้ามากเกินไปและถือเป็นการไม่รักษ์โลกซึ่งขัดกับวิสัยทัศน์บริษัท
จากนั้นไม่นาน ก็บังเอิญอีกว่าธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBoC) ประกาศห้ามไม่ให้สถาบันการเงินภายในประเทศเข้าไปข้องเกี่ยวกับตลาดคริปโตเคอเรนซี่ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ก่อนหน้านี้นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนล่าสุดของสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาพูดถึงคริปโตเคอเรนซี่เมื่อเดือนมกราคมว่าต้องตรวจสอบการทำธุรกรรมผ่านสกุลเงินดิจิทัลอย่างเข็มงวดโดยเฉพาะการนำไปใช้เพื่อทำเรื่องผิดกฎหมาย
โดยสรุปแล้ว
ราคาหุ้นของคอยน์เบสในตอนนี้ถือว่าถูกมากหากเทียบกันกับตอนเปิดตัวในตอนแรกที่มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $400 แต่ผู้ที่คิดจะถือหุ้นคอยน์เบสก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนในตลาดสกุลเงินดิจิทัลให้ได้ นับจากนี้ตลาดคริปโตฯ จะถูกทดสอบด้วยระบบกฎหมายอีกมากมาย แต่หากคุณเชื่อจริงๆ ว่าคริปโตฯ คืออนาคตของโลกการเงิน แต่คุณก็ไม่อยากรับความเสี่ยงจากการถือครองสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง การถือหุ้นคอยน์เบสในราคาถูกคือคำตอบของคุณ