มหกรรมลดราคา Black Friday เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตอนนี้! ห้ามพลาดกับส่วนลดสูงสุดถึง 60% InvestingProรับส่วนลด

เจาะลึกสองเหรียญคริปโตฯ มาแรง market cap เกินพันล้าน!

เผยแพร่ 21/05/2564 15:06
BRKa
-
BTC/USD
-
ETH/USD
-
RVN/USD
-
BAKE/USD
-

หากเป็นสองปีก่อน การบอกกับเพื่อนสนิทเราว่า “ฉันกำลังลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่อยู่นะ” เพื่อนของคุณอาจจะถามย้อนกลับมาว่า “มันคืออะไร?” แต่เชื่อไหมว่าถ้าลองได้ถามเพื่อนคุณคนเดิมในตอนนี้ ด้วยประโยคเดียวกัน เพื่อคุณอาจจะถามกลับมาว่า “นายกำลังถือเหรียญอะไรอยู่ ฉันก็ถือบิทคอยน์เหมือนกัน”

ตอนนี้เรากำลังอยู่ในโลกที่ทุกคนต่างพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล ทุกคนรู้จักบล็อกเชน จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณจะได้เจอคนที่คุณไม่คิดว่าเขาจะรู้หรือสนใจสกุลเงินดิจิทัล อยู่ๆ ดีก็ตรงเข้ามาคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องอนาคตการลงทุน อนาคตในโลกที่ถูกควบคุมโดยบล็อกเชน อนาคตแห่งเสรีทางการเงินต่างๆ ในยุคนี้เราคงไม่ต้องมาร่ายยาวถึงประวัติศาสตร์ของบิทคอยน์ที่เริ่มต้นจาก 5 เหรียญในปี 2010 ขึ้นมาเป็น $65,500 ในปี 2021 หรือพูดถึง อีเธอเรียมจาก 55 เซนต์ขึ้นมาเป็น $4,240.25 กันอีกแล้ว

ในยุคที่โลกมีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 9,700 สกุลเงิน นักลงทุนจึงเริ่มมองว่าสกุลเงินที่คาดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็น “นิวบิทคอยน์” (New Bitcoin) หรือ “นิวอีเธอเรียม” (New Ethereum) แม้ว้าทุกวันนี้จะมีหลายสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (market cap) สูงกว่า $1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่สัดส่วนในการครอบครองตลาดของสกุลเงินเหล่านั้นกลับยังมีน้อยจนยังไม่สามารถเทียบเคียงหรือมีโอกาสจะล้มบิทคอยน์หรืออีเธอเรียมได้เลย อย่างไรก็ตามในบรรดาสกุลเงินดิจิทัลที่มี market cap เกิน $1,000 ล้านเหรียญนั้น เรากลับพบสองสกุลเงินที่มีความน่าสนใจ หนึ่งคือเบเกอรี่โทเค็น (BAKE) และสองคือเรเวนคอยน์ (RVN)

เชื่อหรือไม่ว่ามีเพียง 99 สกุลเงินดิจิทัลเท่านั้นที่มี market cap เกินหนึ่งพันล้านเหรียญ

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ CoinMarketCap ตอนนี้โลกเรามีเพียง 99 สกุลเงินดิจิทัลจากทั้ง 9,908 สกุลเงินที่มีมูลค่าเกินหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วยังไม่ถึง 1% จาก 9,908 สกุลเงินดิจิทัลที่จะมีโอกาสสูญสลายกลายเป็นเหรียญไร้ค่าที่ไม่มีใครจดจำ

แต่....ความเป็นจริงนี้ก็ไม่สามารถหยุดความโลภของคนได้ โดยเฉพาะสมัยนี้ที่เรามีนักลงทุนอยู่รอบตัวเป็นไปหมด หรือถ้าจะพูดให้ถูก...ต้องเรียกว่านักเก็งกำไรระยะสั้น ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ การหางานกลายเป็นเรื่องยาก ความฝันที่ว่าเราสามารถปั้นเงินจาก $1, $10, $100 ขึ้นเป็นหนึ่งล้านภายในเวลาไม่ถึงเดือน สามารถล่อให้คนที่หมดหนทางเข้าสู่เส้นทางแห่งความโลภได้เสมอ

เป็นความจริงที่หากเราสามารถลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถกลายเป็นบิทคอยน์หรืออีเธอเรียมได้ในอนาคต เราก็จะสามารถพลิกชีวิตจากยาจกเป็นเศรษฐีได้ แต่ก็เป็นความจริงอีกเช่นกันที่ไม่มีใครรู้อนาคตและไม่มีใครรู้ว่าสกุลเงินดิจิทัลตัวไหนจะกลายเป็นดาวหรือกลายเป็นฝุ่น

เมื่อพูดถึงโลกที่มีสกุลเงินเกิดใหม่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆ วัน การมีสภาพคล่องได้ตั้งแต่เหรียญนั้นยังมีอายุน้อยๆ สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดได้ว่าเหรียญดังกล่าวนั้นมีพื้นฐานที่ดี (สำหรับก้าวแรก) ดังนั้นนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจโลกของสกุลเงินดิจิทัลอย่างถ่องแท้จึงใช้ market cap เป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือเพียงอย่างเดียว

และเมื่อทุกคนคิดเช่นนี้กับทุกเหรียญที่พวกเขาเห็น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราได้เห็นมูลค่าของตลาดสกุลเงินดิจิทัลเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยิ่งเติบโตเร็วผิดธรรมชาติมากเท่าไหร่ โอกาสที่ตลาดนั้นจะกลายเป็นฟองสบู่ก็ยิ่งมีมากขึ้น และนั่นทำให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลนับวันก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก

ฟองสบู่แตกกับความโลภของคนคือสิ่งที่อยู่คู่กันมาทุกยุคทุกสมัย

ผมอยากพูดถึงฟองสบู่ในอดีตสักเล็กน้อย เราคงไม่ย้อนไปไกลถึงยุคฟองสบู่ทิวลิป แต่ขอเอาเฉพาะในยุคที่ผมเติบโตขึ้นมาก็พอ ในปี 1996 ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสมัยนั้นนายอลัน กรีนสแปน เคยกล่าวถึงฟองสบู่ในหุ้นกลุ่มที่ลงทุนกับอินเตอร์เน็ตว่าเป็น “โลกอุดมคติไร้สาระ” หลายจากนั้นหุ้นกลุ่มนี้ก็ยังสามารถไปต่อได้อีกสองปี (มีนาคมปี 2000 - ตุลาคมปี 2002) ก่อนที่ฟองสบู่จะแตก

เลื่อนขึ้นมาเป็นปัจจุบัน สองเพื่อนซี่รุ่นเดอะที่เป็นเจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮททาเวย์ (NYSE:BRKa) ร่วมกันอย่างวอร์เรน บัฟเฟตและเพื่อนของเขานายชาร์ลี มันเกอร์ ก็เคยสับบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลมาแล้วทั้งคู่ วอรเรน์ บัฟเฟต นักลงทุนในตำนานถึงกับว่าบิทคอยน์ว่าเป็น “หนูสกปรกของวงการการเงิน” ส่วนชาร์ลีก็ว่าบิทคอยน์ว่าเป็น “สิ่งที่น่ารังเกียจและขัดขวางการเจริญเติบโตของมนุษยชาติ”

ผมจะไม่พูดเพื่อกล่าวหาว่าตลาดคริปโตเคอเรนซี่เป็นเรื่องหลวกลวง หรือเป็นสินทรัพย์ฟองสบู่ที่กำลังรอการระเบิดครั้งใหญ่ เพราะส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างเชื่อประโยชน์ที่เทคโนโลยีบล็อกเชนสร้างให้กับโลกใบนี้และไม่ว่าสุดท้ายโลกสกุลเงินดิจิทัลจะจบลงเช่นไร บล็อกเชนก็จะถูกต่อยอดเอาไปใช้ประโยชน์ให้กับมนุษยชาติต่อไปอย่างแน่นอน

เบเกอรี่โทเค็น

ขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ไม่ได้ตามวงการคริปโตฯ อีกเล็กน้อย หากจะบอกว่าตอนนี้เราได้เดินทางมาถึงยุคที่สองของสกุลเงินดิจิทัล ก็คงจะไม่ผิดนัก ตอนนี้เราสามารถนำสกุลเงินดิจิทัลไปใช้ทำอย่างอื่นนอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนได้แล้ว เช่น การฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ย การปล่อยเงินกู้ หรือแม้แต่การใช้เป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนสิทธิ์การเป็นเจ้าของของสักชิ้นแต่เพียงผู้เดียว (NFT) ในที่นี้เราจะมาพูดถึงสองสกุลเงินที่โดดเด่นในยุคที่สองของวงการคริปโตฯ กัน

สกุลเงินแรกคือเบเกอรี่โทเค็น หรือที่หลายคนรู้จักในนาม ‘เบเกอรี่สแวป’ (BakerySwap) โดดเด่นมากในโลกการซื้อขาย NFT เบเกอรี่โทเค็นทำงานเฉพาะบน Binance Smart Chain (BSC) Binance ทำการตลาดด้วย "ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าและเวลายืนยันที่เร็วกว่าอีเธอเรียม" นอกจากนี้ยังรวมถึงคุณสมบัติของการเดิมพันกับผู้ใช้ที่ให้สภาพคล่องและรับโทเค็น NFT ใหม่ ในวันที่ 18 พฤษภาคม เบเกอรี่โทเค็นมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $6.53 มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,244 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: CoinMarketCap

กราฟในรูปแสดงให้เห็นตั้งแต่ช่วงเวลาที่เบเกอรี่โทเค็นเกิดในเดือนกันยายนปี 2020 ตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน เบเกอรี่โทเค็นก็ยังมีมูลค่าอยู่ต่ำกว่าหนึ่งเพนนี จนกระทั่งปรับตัวขึ้นมาเรื่อยๆ สร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $8 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน สมมุติว่าคุณเป็นคนที่โชคดีบังเอิญถือเบเกอรี่โทเค็น $100 ตั้งแต่ตอนที่มีมูลค่าต่ำกว่าหนึ่งเพนนีและบังเอิญขายได้ตอนที่ทำจุดสูงสุด $8 พอดี เจ็ดเดือนผ่านไปคุณจะมีเงิน $80,000 ทันที

ตอนที่ราคาซื้อขายเหรียญเบเกอรี่โทเค็นมีราคา $6.53 เบเกอรี่โทเค็นก็ได้เข้าสู่แกงค์ 99 เหรียญไฮโซที่มีมูลค่าตลาดเกินหนึ่งพันล้านเหรียญแล้ว สถิติสูงสุดที่เบเกอรี่โทเค็นเคยทำได้ในวันที่สร้างจุดสูงสุด $8 คืออยู่อันดับที่ 92 จาก 99 เหรียญ การเทขายบิทคอยน์อย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันพุธที่ผ่านมาทำให้เบเกอรี่โทเค็นโดนเทขายตามไปด้วย ตอนนี้มูลค่าตลาดของเบเกอรี่โทเค็นลดลงต่ำกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐเสียอีก แต่ราคาซื้อขายของเบเกอรี่โทเค็นยังสามารถยืนเหนือ $4.50 ได้

เรเวนคอยน์

เรเวนคอยน์ (Ravencoin) ถูกเปิดตัวขึ้นเมื่อปี 2018 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นตัวกลางในการเทรดสินทรัพย์บนโลกนี้ผ่านบล็อกเชน โดยเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมานั้น โปรเจคเหรียญดังกล่าวได้รับเงินลงทุนเป็นจำนวนที่สูงถึงหลายล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัท Overstock เลยทีเดียว

ในวันที่ 18 พฤษภาคม เหรียญเรเวนคอยน์มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $1,149 ล้านเหรียญสหรัฐ มีราคาซื้อขายเหรียญสูงสุดอยู่ที่ $0.1303 ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ เรเวนคอยน์มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $0.098 มีมูลค่าตลาดต่ำกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐเรียบร้อยแล้ว

กราฟในรูปนี้แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่เรเวนคอยน์เคยมีมูลค่าต่ำกว่าหนึ่งเซนต์และสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 23.60 เซนต์ในวันเดือนมีนาคมปี 2018 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ตอนที่เรเวนคอยน์เคยมีราคาซื้อขายอยู่ที่ 15.50 เซนต์ ตอนนั้นเรเวนคอยน์มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,366 ล้านเหรียญสหรัฐ รั้งอันดับ 89 จาก 99 เหรียญสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเกินหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ

ในวันที่บทความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ผมมีความเชื่อเป็นอย่างมากจะไม่มีคนสนใจสิ่งที่ผมพูดมากเท่าไหร่ เพราะตลาดคริปโตฯ ในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลงที่รุนแรง นักลงทุนคริปโตฯ กำลังถูกซ้ำเติม ล้อเลียน ดูถูกดูแคลน อย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นอดีตจนถึงปัจจุบัน มนุษยชาติก็ยังได้รับบทเรียนจากความโลภของตนอยู่เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดจะขึ้นไปตลอด และก็ไม่มีสิ่งใดที่จะลงไปตลอดเช่นกัน

จนกว่าวันที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะถูกจำกัดความได้อย่างจริงจัง หรือจนกว่าวันที่ฝ่ายผู้ออกกฎหมายจะสามารถออกกฎควบคุมที่แฟร์กับทั้งฝั่งผู้มีอำนาจและผู้มีความเชื่อได้ จนถึงวันนั้น ตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะยังเป็นเหมือนม้าป่า ที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคุมเจ้าม้าตัวนี้ได้อย่างสมบูรณ์ หากคุณยังเชื่อในสิ่งที่ซาโตชิ นากาโมโตะสร้าง และมองว่าบล็อกเชนหรือคริปโตเคอเรนซี่คืออนาคต ก็จงลงทุนอย่างระมัดระวัง ไม่นำเงินทั้งหมดที่มีไปลงทุน และเปิดตาให้กว้างอยู่เสมอ ฟองสบู่นั้นพร้อมแตกเสมอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดคริปโตฯ จะซึมยาวไปตลอดกาล

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย