- NVIDIA จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันนี้หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการ: $4,820 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขอัตราส่วนกำไรต่อหุ้น: $2.8
คำถามที่นักลงทุนอยากถามบริษัทเอ็นวีเดีย (NASDAQ:NVDA) หนึ่งในผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาในรายงานผลประกอบการครั้งนี้คือ “บริษัทจะแก้ไขปัญหาชิปคอมพิวเตอร์ขาดแคลนที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าและยอดขายอย่างไร?”
ปัญหาการขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทำให้สินค้าบางประเภทมีราคาแพงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดปัญหาด้านความล่าช้ากับลูกค้าที่เซ็นสัญญาเอาไว้ในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์กำลังกลายเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ถึงแม้ว่ารถจะเสร็จแล้วแต่ถ้าไม่มีชิปก็ไม่สามารถวางขายได้ตามกำหนด ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มาจากวิกฤตโรคระบาดที่ทำให้ความต้องการเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นซึ่งเทคโนโลยีหลักๆ อื่นอย่างโทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์พีซี บริการจัดเก็บข้อมูลผ่านคลาวด์ล้วนแต่ต้องใช้ชิปคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น
แม้ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ที่ผ่านมา เอ็นวีเดียพึ่งจะประกาศเปิดตัวชิปกราฟฟิกรุ่นใหม่อย่าง Ampere ที่ว่ากันว่าเป็นชิปคอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท แต่ถ้าเอ็นวีเดียยังประสบปัญหาขาดแคลนชิปไม่ต่างจากผู้ผลิตอื่นๆ ต่อให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากเพียงใดก็ไม่อาจทำให้ลูกค้าพอใจได้ ในปี 2020 หุ้นของเอ็นวีเดียเคยเติบโตได้ 90% แต่หลังจากปัญหาชิปขาดแคลนเข้ามา ทำให้หุ้นเอ็นวีเดียปรับตัวลดลง 7% ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาลดลงอีก 1.5%
โคเล็ตต์ เครส CFO ของบริษัทเอ็นวีเดียให้สัมภาษณ์ที่งาน UBS เมื่อเดือนธันวาคมว่า
“บริษัทยังคงทำงานทุกวันในการผลิตชิปออกมาให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าแม้ว่าจะต้องล่าช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากภัยโรคระบาด บริษัทอาจจะต้องใช้เวลาอีกสองสามเดือนกว่าจะสามารถปรับอุปทานของบริษัทให้มีมากเพียงพอต่ออุปสงค์ได้”
NVIDIA กำลังโดนเพ่งเล็งในปมผูกขาดทางการค้า
อีกหนึ่งข่าวที่อาจสร้างผลกระทบให้กับหุ้นเอ็นวีเดียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาคือบริษัทเทคฯ ชื่อดังอย่างเช่นกูเกิล (NASDAQ:GOOGL) ไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) ควาลคอมม์ (NASDAQ:QCOM) และอื่นๆ รวมตัวกันค้านดีลการซื้อบริษัทอาร์ม จำกัด (Arm Ltd.) ของเอ็นวีเดียเพราะอาร์มเป็นผู้ผลิตชิปโทรศัพท์มือถือที่ใช้กันอยู่มากกว่า 1 พันล้านเครื่องในปัจจุบัน บริษัทชื่อดังทั้งหลายกำลังมองว่านี่คือการผูกขาดทางการค้าทั้งที่พวกเขาเองก็กำลังผูกขาดทางการค้าอยู่เช่นกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านอกจากคำค้านเหล่านี้จะสร้างความลำบากให้ดีลของเอ็นวีเดียแล้ว ตอนนี้คณะกรรมธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC) ก็กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จาก Jefferies กลับประเมินสถานการณ์ของเอ็นวีเดียในเชิงบวกว่า ต่อให้ไม่มีเรื่องของอาร์มเข้ามาเกี่ยวข้อง หุ้นเอ็นวีเดียก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนระยะยาวอยู่ดี เพียงแค่บริษัทนำผลิตภัณฑ์ของตัวเองมาเปลี่ยนชื่อ เพิ่มสเปกเล็กน้อยก็สามารถทำกำไรไปได้อีก 50%-80% ในอีกห้าปีข้างหน้าได้อย่างไม่มีปัญหาจากความต้องการในตลาดผู้ให้บริการศูนย์กลางข้อมูลผ่านคลาวด์ที่นับวันยิ่งเติบโตมากยิ่งขึ้น
โดยสรุปแล้ว
ปัจจัยเชิงลบที่กำลังเข้ามากระทบเอ็นวีเดียตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาให้ขาขึ้นของเอ็นวีเดียได้พักผ่อนบ้าง แต่หากมองอีกด้านหนึ่ง นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่จะได้ซื้อหุ้นเอ็นวีเดียและถือเอาไว้ในระยะยาว การเติบโตของเอ็นวีเดียที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ายักษ์ใหญ่ตนนี้ไม่มีทางที่จะล้มลงได้โดยง่ายในยุคที่เทคโนโลยีคือทุกสิ่ง