มหกรรมลดราคา Black Friday เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตอนนี้! ห้ามพลาดกับส่วนลดสูงสุดถึง 60% InvestingProรับส่วนลด

ชิปขาดแคลนทำหุ้น NVIDIA ร่วง รายงานผลกำไรไตรมาส 4 จะช่วยได้หรือไม่

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 24/02/2564 17:55
MSFT
-
GOOGL
-
QCOM
-
NVDA
-
GOOG
-

- NVIDIA จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันนี้หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการ: $4,820 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขอัตราส่วนกำไรต่อหุ้น: $2.8

คำถามที่นักลงทุนอยากถามบริษัทเอ็นวีเดีย (NASDAQ:NVDA) หนึ่งในผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาในรายงานผลประกอบการครั้งนี้คือ “บริษัทจะแก้ไขปัญหาชิปคอมพิวเตอร์ขาดแคลนที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าและยอดขายอย่างไร?”

ปัญหาการขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทำให้สินค้าบางประเภทมีราคาแพงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดปัญหาด้านความล่าช้ากับลูกค้าที่เซ็นสัญญาเอาไว้ในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์กำลังกลายเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ถึงแม้ว่ารถจะเสร็จแล้วแต่ถ้าไม่มีชิปก็ไม่สามารถวางขายได้ตามกำหนด ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มาจากวิกฤตโรคระบาดที่ทำให้ความต้องการเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นซึ่งเทคโนโลยีหลักๆ อื่นอย่างโทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์พีซี บริการจัดเก็บข้อมูลผ่านคลาวด์ล้วนแต่ต้องใช้ชิปคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น

แม้ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ที่ผ่านมา เอ็นวีเดียพึ่งจะประกาศเปิดตัวชิปกราฟฟิกรุ่นใหม่อย่าง Ampere ที่ว่ากันว่าเป็นชิปคอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท แต่ถ้าเอ็นวีเดียยังประสบปัญหาขาดแคลนชิปไม่ต่างจากผู้ผลิตอื่นๆ ต่อให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากเพียงใดก็ไม่อาจทำให้ลูกค้าพอใจได้ ในปี 2020 หุ้นของเอ็นวีเดียเคยเติบโตได้ 90% แต่หลังจากปัญหาชิปขาดแคลนเข้ามา ทำให้หุ้นเอ็นวีเดียปรับตัวลดลง 7% ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาลดลงอีก 1.5%NVIDIA Weekly Chart.

โคเล็ตต์ เครส CFO ของบริษัทเอ็นวีเดียให้สัมภาษณ์ที่งาน UBS เมื่อเดือนธันวาคมว่า

“บริษัทยังคงทำงานทุกวันในการผลิตชิปออกมาให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าแม้ว่าจะต้องล่าช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากภัยโรคระบาด บริษัทอาจจะต้องใช้เวลาอีกสองสามเดือนกว่าจะสามารถปรับอุปทานของบริษัทให้มีมากเพียงพอต่ออุปสงค์ได้”

NVIDIA กำลังโดนเพ่งเล็งในปมผูกขาดทางการค้า

อีกหนึ่งข่าวที่อาจสร้างผลกระทบให้กับหุ้นเอ็นวีเดียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาคือบริษัทเทคฯ ชื่อดังอย่างเช่นกูเกิล (NASDAQ:GOOGL) ไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) ควาลคอมม์ (NASDAQ:QCOM) และอื่นๆ รวมตัวกันค้านดีลการซื้อบริษัทอาร์ม จำกัด (Arm Ltd.) ของเอ็นวีเดียเพราะอาร์มเป็นผู้ผลิตชิปโทรศัพท์มือถือที่ใช้กันอยู่มากกว่า 1 พันล้านเครื่องในปัจจุบัน บริษัทชื่อดังทั้งหลายกำลังมองว่านี่คือการผูกขาดทางการค้าทั้งที่พวกเขาเองก็กำลังผูกขาดทางการค้าอยู่เช่นกัน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านอกจากคำค้านเหล่านี้จะสร้างความลำบากให้ดีลของเอ็นวีเดียแล้ว ตอนนี้คณะกรรมธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC) ก็กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จาก Jefferies กลับประเมินสถานการณ์ของเอ็นวีเดียในเชิงบวกว่า ต่อให้ไม่มีเรื่องของอาร์มเข้ามาเกี่ยวข้อง หุ้นเอ็นวีเดียก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนระยะยาวอยู่ดี เพียงแค่บริษัทนำผลิตภัณฑ์ของตัวเองมาเปลี่ยนชื่อ เพิ่มสเปกเล็กน้อยก็สามารถทำกำไรไปได้อีก 50%-80% ในอีกห้าปีข้างหน้าได้อย่างไม่มีปัญหาจากความต้องการในตลาดผู้ให้บริการศูนย์กลางข้อมูลผ่านคลาวด์ที่นับวันยิ่งเติบโตมากยิ่งขึ้น

โดยสรุปแล้ว

ปัจจัยเชิงลบที่กำลังเข้ามากระทบเอ็นวีเดียตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาให้ขาขึ้นของเอ็นวีเดียได้พักผ่อนบ้าง แต่หากมองอีกด้านหนึ่ง นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่จะได้ซื้อหุ้นเอ็นวีเดียและถือเอาไว้ในระยะยาว การเติบโตของเอ็นวีเดียที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ายักษ์ใหญ่ตนนี้ไม่มีทางที่จะล้มลงได้โดยง่ายในยุคที่เทคโนโลยีคือทุกสิ่ง

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย