🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

ทองคำ น้ำมันดิบถึงเวลาต้องเลือกหลังจากพักฐานมานาน

เผยแพร่ 23/02/2564 15:08
XAU/USD
-
XAG/USD
-
DX
-
GC
-
HG
-
LCO
-
SI
-
CL
-
NG
-
US2US10=RR
-

สัปดาห์นี้นักลงทุนต้องจับตาดูรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ เป็นพิเศษเพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาน้ำมันดิบตลอดทั้งสัปดาห์ หลังจากสถานการณ์พายุหิมะถล่มในรัฐเท็กซัสเริ่มดีขึ้น การผลิตและการกลั่นน้ำมันก็ค่อยๆ ฟื้นตัวและเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดกลับลงมาจาก $60 ต่อบาร์เรลได้เป็นการชั่วคราว

Oil Daily

สำหรับความเคลื่อนในตลาดแร่โลหะมีค่า ทองคำสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือ $1,800 ต่อออนซ์ได้อีกครั้งหลังจากที่ได้ลงไปทดสอบจุดต่ำสุดที่ $1,760 อีกครั้ง ความกังวลที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อและขาขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ทำให้ตลาดหันกลับมามองราคาทองคำอีกครั้งGold Daily

นอกจากทองคำแล้ว นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่าราคาทองแดงจะสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายปีด้วยการยืนเหนือ $4 ทำขาขึ้นต่อจากสัปดาห์ที่แล้วในขณะที่โลหะเงินกำลังอยู่ในช่วงพยายามที่จะเจาะแนวต้านเพื่อกลับเข้าสู่แนวโน้มเดิมที่สร้างมาตลอดเดือนกุมภาพันธ์

ราคาน้ำมันดิบและการประชุม OPEC

เจฟฟรี่ ฮาร์รี่ นักวิเคราะห์จาก OANDA มองว่าหากราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ก็จะต้องกลับเข้าสู่ขาลงอีกครั้ง การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐช่วยให้ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว แต่นอกจากประเด็นนี้แล้วยังมีสาเหตุอื่นอีกที่ยังค้ำราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ไม่ให้ปรับตัวขึ้น

“การปรับตัวลดลงมาของตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI และเบรนท์ในวันพฤหัสบดีและศุกร์ที่ผ่านมาเป็นไปตามอินดิเคเตอร์ RSI ที่ค้างอยู่ใน overbought มาเป็นเวลาซักระยะหนึ่งแล้ว ถึงกระนั้นราคาน้ำมันดิบทั้งสองก็สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ $60 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ความแข็งแกร่งที่สะท้อนออกมาแสดงให้เห็นว่ามีโอกาสที่สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบจะสามารถขึ้นไปยืนถึง $62.80 (WTI) และ $65.50 (เบรนท์) ได้”

สัปดาห์หน้านอกจากจะต้องจับตาดูรายงานตัวเลขการจ้างงานอกภาคการเกษตรแล้ว นักลงทุนยังจะให้ความสนใจกับการประชุมของ OPEC+ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม เจฟฟรี่ ฮาร์รี่ มีความเห็นเกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้ว่า

“การที่ราคาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้ามีราคาอนาคตอยู่ตํ่ากว่าราคาปัจจุบัน (Backwardation) ก็เป็นตัวบ่งบอกอยู่แล้วว่าราคาน้ำมันในอนาคตกำลังจะปรับตัวสูงขึ้น การประชุมของ OPEC+ ครั้งนี้ พวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะเพิ่มหรือลดกำลังการผลิต ก่อนหน้านี้ซาอุดิอาระเบียได้ตัดสินใจลดกำลังการผลิตของตนเพื่อรักษาสมดุลในตลาดน้ำมัน แต่เมื่อความต้องการน้ำมันเริ่มกลับมาแล้ว การขุดน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวและทรงตัวในบุคของโจ ไบเดน จึงเหลือเหตุผลสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบียน้อยมาก”

นักวิเคราะห์ประเมินว่าเหตุการณ์พายุหิมะถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ หายไปวันละ 4 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะที่การผลิตก๊าซธรรมชาติลดลง 21 พันล้านลูกบาศ์กฟุต บริษัทผู้ผลิตน้ำมันยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการละลายน้ำแข็ง เริ่มเปิดระบบใหม่ ก่อนที่จะจัดการเริ่มส่งออกน้ำมันได้อีกครั้ง บริษัทผู้ผลิตน้ำมันที่อยู่ในอ่าวของสหรัฐฯ อาจต้องใช้เวลามากถึงสามสัปดาห์ในการฟื้นกำลังการผลิตกลับมา สถานการณ์เช่นนี้หมายความว่าราคาน้ำมันดิบอาจจะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นไปอีกอย่างน้อยในสัปดาห์นี้

อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นบทความแล้วว่าสัปดาห์นี้นักลงทุนต้องให้ความสนใจการรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจาก EIA เป็นพิเศษ หากราคาน้ำมันดิบคงคลังของสัปดาห์ที่แล้วปรับลดลง จะเป็นสัญญาณบอกถึงการฟื้นตัวของตลาดน้ำมันดิบและอาจเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาและอิหร่านจะกลับมาคุยกับเรื่องการคว่ำบาตรหลังจากบุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

หากสหรัฐฯ อนุญาตให้อิหร่านสามารถส่งน้ำมันมาที่สหรัฐฯ ได้เหมือนเดิมโดยแลกกับคำมั่นสัญญาที่ว่าอิหร่านจะไม่สร้างระเบิดนิวเคลียร์ ความกดดันจะกลับไปอยู่กับซาอุดิอาระเบียและกลุ่มโอเปกทันที เพราะนี่หมายความว่ากลุ่มโอเปกจะต้องรับมือกับกำลังการผลิตน้ำมันจากอิหร่านมากถึง 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ในกรณีที่อิหร่านสามารถผลิตน้ำมันได้มากที่สุดต่อวัน) 

การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐอาจช่วยหนุนราคาทองคำในสัปดาห์นี้

สำหรับทองคำนั้นแม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าชั่วคราว แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ทองคำสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือ $1,800 ได้อีกครั้ง Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก Dixit Charting ของอินเดียกล่าวว่า

“ตราบใดที่ราคาทองคำสปอตสามารถยืนเหนือ $1800 ซึ่งหมายถึงการขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ที่ $1,796 ได้ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะสามารถขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันที่ $1,815 และเส้นค่าเฉลี่ย 50 EMA ที่ $1,834 ได้ในอนาคตอันใกล้”

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย