รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

สรุป Clubhouse รับฟังปัญหานักลงทุน โดยฮง สถาพร และทีมงาน

เผยแพร่ 22/02/2564 09:36
อัพเดท 09/07/2566 17:32

คุณฮง สถาพร งามเรืองพงศ์ เปิด Clubhouse เป็นดีเจตอบคำถามเพื่อนๆ นักลงทุนกว่า 3,000 คน ทั้งหมด 17 คำถาม ผมขอสรุปเนื้อหาสำคัญตามนี้นะครับ

1. มีมุมมองเกี่ยวกับ บิทคอยน์ อย่างไร

ก่อนจะลงทุนอะไรก็ตาม เราต้องประเมินก่อนว่า ความน่าจะเป็นของการลงทุนนั้นเรามีแต้มต่อแค่ไหน เราจะประเมินจากกระแสเงินสด หรือสินทรัพย์อะไรได้บ้างหรือเปล่า ถ้าไม่สามารถหาความน่าจะเป็นนั้นได้ว่าได้มากกว่าเสียอย่างไร ก็จะไม่ลงทุน

ยกตัวอย่างในคาสิโน นักเทรดที่เก่งมาก เล่นไพ่ black jack ด้วยการนับไพ่ว่าออกอะไรมาแล้วบ้าง เป็นการใช้คณิตศาสตร์เพื่อหาแต้มต่อในการชนะพนัน แล้วก็เขียนหนังสือออกมาชื่อว่า Beat the Dealer

อีกตัวอย่างคือ นักวิทยาศาสตร์คนนึงที่ฉลาดมาก (น่าจะเป็น ไอแซค นิวตัน) ยังขาดทุนจากหุ้น South Sea แปลว่า นักธุรกิจเก่งๆ หลายคนที่ไปซื้อ Bitcoin ก็ไม่ได้แปลว่า เขาจะถูกหรือผิดเสมอไป

2. จะมั่นใจได้อย่างไรที่ซื้อหุ้นและถือยาวเป็นสิบปี เช่น (BK:KTC)

คุณฮงบอกว่า ซื้อ KTC หลายครั้งมาก ครั้งแรก P/E ต่ำมาก ผู้บริหารเข้ามาลด cost to income เยอะ ตอนนั้นคนในตลาดไม่สนใจ เพราะคิดว่าโตจากการลดต้นทุน แต่ต่อมาทำ top line ให้โตได้ด้วย คุมหนี้เสียได้ต่ำด้วย คุณฮงเลยมองว่าความเสี่ยงต่ำ และเล่นอีกรอบตอน พรบ บัตรเครดิต ที่ราคาลงมาต่ำ และปันผลดีด้วย

3. เรื่องเทคนิคการแบ่งซื้อ 3 ไม้

การแบ่งไม้ซื้อเป็นการบริหารจิตใจ เหมาะสำหรับคนที่ขวัญอ่อน ตกใจง่าย ทำให้ hold สถานะได้ เพราะถ้าเราเข้าไม้เดียว แสนหุ้น แล้วมันลงเลย เราก็อาจจะมองว่า หรือเราคิดผิด แต่ถ้าทยอยซื้อหลายไม้ ถ้าราคาลง เราจะไม่กดดัน เราก็จะซื้อไม้ที่สองตามช่วงราคา หรือถ้าราคาขึ้น ก็จะยิ่งดี เพราะไม้แรกกำไรไปแล้ว

4. มีวิธีประเมินหุ้นเทคอย่างไร

หุ้นเทคหลายตัวยังไม่มีกำไร เป็นการมองความคาดหวังว่า รายได้จะโตเยอะ เดี่ยวจะไปกินแชร์อุตสาหกรรมได้ เดี่ยวอีกกี่ปีกำไรจะเติบโตมหาศาล แต่จะไม่กล้าลงน้ำหนักมากกับหุ้นต่างประเทศตัวใดตัวหนึ่งแบบนี้ เพราะมีทั้ง upside และ downside มาก ผิดกับหุ้นไทยที่ยังมีปันผลรองรับ ก็จะกล้าลงน้ำหนักมากกว่า

5 ทำไมไม่สนใจเรื่องสัญญา TFEX

ไม่อยากเป็นคนบาปของ VI คือ เห็นคนที่ขาดทุนตอน circuit breaker เห็นคนที่ short แล้วขาดทุนตอนหุ้นขึ้นเพราะข่าววัคซีน บางคนต้องเอาบ้าน เอารถมาโปะ เลยรู้สึกไม่ดี จึงไม่ลงทุนทางนี้

กูรูระดับโลกสอนว่า อย่าคาดการณ์ตลาด การที่มีคนพูดว่าตลาดจะเป็นอย่างไร สะท้อนว่าคนๆ นั้นเป็นอย่างไร ไม่ได้สะท้อนว่าตลาดเป็นอย่างไร

6. ช่องทางหาความรู้จากเซียน VI หาได้จากที่ไหน

สมัยก่อน ตอนสังคมเล็ก คนกล้าแชร์กันเยอะใน Thai VI ต่างคนต่างเริ่มจากคนไม่มีวิชาอะไร แชร์กัน มี projection ละเอียดๆ ดีๆ แต่ถ้าปัจจุบันคุณฮงแนะนำให้ติดตามเพจหุ้นที่มีความเป็นกลาง ไม่ได้เชียร์หุ้นตัวไหน ก็เข้าไปถามไปดูจากเพจนั้นๆ แทน

7. สมัยก่อนคุณฮงอ่านข้อมูลหุ้นวันละ 8-9 ชั่วโมง อ่านอะไรบ้าง

อ่านหนังสือการลงทุนแทบจะทุกเล่ม ยุคนั้นหนังสือลงทุนดีๆ มีน้อย หลายเล่มเป็นหนังสือ อมตะมาถึงทุกวันนี้ เช่น หนังสือ Peter Lynch ก็จะอ่านวนไปวนมา แต่ยุคนี้คนเขียนหนังสือแบบคิดเองเออเองเยอะ

เข้า web borard thaivi ดูว่าคำถามที่ถามไป มีคนตอบหรือยัง เพราะว่าเตรียมคำถามต่อไปไว้แล้ว print ข้อมูลออกมา highlight เย็บเกระดูกงู อ่านทวน จนกว่าเราจะคิดได้แบบนั้น

อ่านบทวิเคราะห์เยอะมาก เข้าใจคำศัพท์ที่มี เรียนรู้จากคนอื่น ถามคนอื่นเพิ่มเติม พยายามเข้าใจให้ได้แบบคนๆนั้น

8. หลักการขายหุ้นเป็นอย่างไร

ถ้าถึงราคาเป้า แล้วบริษัทไม่มีอะไรที่ดีกว่าที่เราคิดแต่แรก ก็ขาย

ถ้าผู้บริหารมีพฤติกรรมที่ไม่ใช่คนดีๆ ทำกัน ถึงแม้จะยังไม่ถึงเป้า ก็จะลดน้ำหนัก

เจอหุ้นตัวใหม่ที่มี upside มากกว่า

9. แนวคิดการเล่น warrant

เวลาจีบผู้หญิง ดูครอบครัว ดูพ่อแม่ เป็นอย่างไร การอบรมสั่งสอนมาจากพ่อแม่ที่ดี

เวลาดู warrant ก็ต้องดูหุ้นแม่ว่ากำไร กระแสเงินสด การเติบโตค่อนข้างเยอะ โอกาสที่จะทำให้เราขาดทุนถาวรมีน้อย จะหลีกเลี่ยงหุ้นแม่ที่มีความเสี่ยงเยอะอยู่แล้ว ต้องดูหุ้นแม่ให้ขาดก่อน ถึงจะค่อยมาดูหุ้นลูกว่าเป็นอย่างไร แล้วจะได้คำตอบว่าจะลงน้ำหนักกับหุ้น warrant เท่าไหร่

บัฟเฟต บอกว่า การลงทุนที่จะทำให้ขาดทุนถาวรน้อยมากๆ เราจะกล้าลงน้ำหนัก ถ้าคุณ hold ได้นาน คุณน่าจะไม่ขาดทุน

10. แนวโน้มหุ้นหมูไก่ ยังไปได้ต่อไหม

คุณฮงไม่ได้ตามนานแล้ว เคยเล่นรอบก่อน ตอนที่อาหารสัตว์เลี้ยงถูก ต้นทุนลดลง ราคาขายขยับนิดหน่อย PE ต่ำ ให้แนวคิดว่าต้องมองราคาถั่วเหลือง ข้าวโพด แนวโน้มเป็นอย่างไร บางทีเกี่ยวโยงกับราคาน้ำมัน ถ้าขึ้น ก็อาจจะเอาไปทำ ethanol วัตถุดิบก็จะเหลือน้อย

11. ขายหุ้นไปแล้ว เดือนสองเดือน ราคาวิ่งขึ้นต่อ บริหารจิตใจอย่างไร

ให้ท่องพุทโธ ดูลมหายใจแป๊บนึงก่อน

ให้คิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จหรือไม่สำเร็จเจอทุกคน พอเราขายเสร็จ งบดีเกิดคาด ทำไมมันไม่เก่งขนาดนี้ตอนเราถือ

พอเวลาผ่านมา กำไรมันดีกว่าที่เราคิด มันเป็นส่วนนึงของการลงทุน เราไม่สามารถปิดความเสี่ยงได้ 100% บางครั้งปัจจัยพื้นฐานมีช่วงที่ดีและแย่กว่าที่เราคิด หรือสภาวะตลาดแย่มากๆ หุ้นมันก็ไม่ไปก็มี

โลกความจริง เราไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่คนที่คิดแล้วมันจะเป็นได้ทุกอย่าง ความเก๋า คือ หน้างาน พออะไรไม่เป็นอย่างที่คิด เราตัดสินใจอย่างไร เราวางแผนไว้ดีแล้วหรือเปล่า

ถ้าพื้นฐานเป็นอย่างที่เราคิด แล้วหุ้น under value เราก็ไม่น่าจะต้องรอนานเกินไป ยกเว้นเราซื้อหุ้นถูกเรื้อรัง แบงค์ อสังหา บางตัว เราได้ยิน PE 6 เท่า มาไม่รู้กี่ปีแล้ว มันเป็น P/E 6 เท่า ที่ตลาดจะไม่ให้มันมากกว่านี้ไง มันไม่มีความแข็งแกร่งที่ตลาดจะปรับราคาได้ เราต้องทำการบ้านหนัก เข้าใจจิตวิทยามวลชน ทำการบ้านจนหนักจนมั่นใจให้เราเห็นเป็นคนแรกๆ

12. ถ้าซื้อหุ้นแล้วไม่ไป มีระยะเวลารอนานแค่ไหน

ก่อนซื้อต้องคิดก่อนว่า กำไรเท่าไหร่ ปีต่อไปจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่ เติบโตเท่าไหร่ ถ้าโตตามที่คิด เราก็รอได้ เราต้องมีแผน ต้องมีตัวเลข เราจะอดทนได้ เพราะตามแผนเรา

13. อ่านหนังสือ mindset การพัฒนาตัวเอง เล่มไหน

คุณฮงเป็นคนรักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก ชอบอยู่ร้านหนังสือแพร่พิทยา อ่านตั้งแต่สามก๊ก อ่านจิตวิทยา ช่วยหล่อหลอมให้เราแข็งแกร่งขึ้น ให้เรารู้ว่าเราควรให้ความสำคัญกับอะไรตอนอายุเท่านี้

หนังสือที่แนะนำคือ หนังสือของ Dale Carnegie มีอยู่ 3 เล่ม เกี่ยวกับ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน การใช้ชีวิต

14. แนวทางการลงทุนเมื่อพอร์ตขนาดใหญ่ขึ้น

ตอนพอร์ตเล็ก ยังเล่น CANSLIM ได้ ตอนกราฟทะลุขึ้นไป ซื้อตามได้ ตอนหลุดโยนได้ แต่ตอนพอร์ตใหญ่ ทำไม่ได้ เช่น ถ้าต้องการ 50 ล้านหุ้น แต่ว่าในแต่ละช่องแค่ 7 แสนหุ้น ก็จะทำไม่ได้

ตอนพอร์ตเล็ก ซื้อหุ้นคุณภาพน้อยกว่านี้ แค่คิดว่ากำไรโต ตลาดก็น่าจะโอเค ถ้าผิดเรายังออกได้ง่าย แต่ตอนนี้คัดคุณภาพหุ้นเยอะมาก เพราะถ้าเวลาผิด เวลาออกจะได้ออกยาก ไม่ได้ใช้กราฟแล้ว ดูน้อยมาก

15. แนวทางการลงทุนเมื่อพอร์ตขนาดใหญ่ขึ้น Passion แนวทางในการลงทุนต่างจากเดิมมั้ย

คุณฮงบอกว่า พอร์ตอนนี้มาเกินกว่าที่จะคิด ตอนนั้นอ่านหนังสือ 8-9 ชั่วโมง ใครจะไปคิดว่ามาได้ขนาดนี้ สมมติว่าถ้าขนาดพอร์ตเหลือแค่ครึ่งเดียว ก็ยังมองว่าเหลือเชื่อแล้ว

ตอนนี้เล่นหุ้นเพราะว่าเพื่อนเล่นหุ้น รู้สีกว่ามีกิจกรรมไว้คุยกับเพื่อน เห็นเพื่อนกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ถ้าเราพอจะช่วยแนะนำเพื่อนได้ เราก็ happy เปลี่ยนชีวิตเพื่อนเก่าเราบางคนให้ดีขึ้นได้

16. วิธีการตรวจสอบว่าเรามาถูกทางหรือไม่

ต้องคิดก่อนว่า ตอนนี้ยังไม่รู้อะไร หุ้นกลุ่มนี้มีค่ามากพอให้เสียเวลาไปศึกษามั้ย บางตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่รอดแน่ ก็จะไม่เข้าไปดูเลย

ให้คิดว่าเราเก่งขึ้นจากสิ่งที่เราไม่รู้อย่างไรได้บ้าง คิดก่อนว่าควรจะรู้อะไรบ้าง เราเข้าใจก่อนว่า อุตสาหกรรมนี้ ถูกผลักดันจาก Supply, Demand อย่างไร ใช้เวลากับมันนานหน่อย อย่างน้อยจากสิ่งที่เราไม่เป็น อ่านวนไป ซึมซับไป เราจะเข้าใจมากขึ้น

คุณฮงเคยทำข้อมูลพฤติกรรมหุ้นหลายพันหน้าจนลืมกินข้าวเย็น มองอีกที 3 ทุ่ม เราค่อยๆ ไขความลับของธุรกิจนี้ กำหนดจุดซื้อขายอย่างไร

17. สถานการณ์ปัจจุบันที่เงินล้นตลาด หุ้นหลายตัว ราคาขึ้น PE ปรับตัวสูงขึ้น จะถือว่าเป็นปกติแบบนี้ไปตลอดไหม

จินตนาการง่ายๆ เหมือนเล่นเกมเศรษฐี มีนายธนาคารแจกเงิน ผู้เล่น 4-6 คน ถ้าตกตรงนี้ซื้อบ้าน ตกซ้ำกลายเป็นโรงแรม และนายธนาคารแจกเงินเพิ่ม 3 เป็น 4 พัน เงินมากขึ้น บ้านมีเหมือนเดิม มูลค่าก็จะมากขึ้น

ไม่มีเหตุผลที่คนจะไม่เอาเงินมาลงทุน ทุกวันนี้ดอกเบี้ยเงินฝากแย่มาก 0.25% หาหุ้นที่มีปันผลก็ยังดีกว่า เทรนด์แบบนี้ก็จะยังมีต่อไป

คุณฮงมองว่า มันไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางที่ต้องไป

Sale ขายของ มาดูคลิปคุณฮง คนทำสปา คนขายเสื้อผ้าก็ถาม แปลว่า คนสนใจเยอะ คนจะเข้ามามากขึ้น แม้ว่าเงินต่อคนจะน้อย

ขอบพระคุณ DJ ฮง ครับ สำหรับคำตอบที่เป็นแนวทางดีๆ ให้กับนักลงทุนจำนวนมาก มีค่ามากๆ และเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ จริงๆ

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

ขอบคุณมากครับที่ทำสรุปมาเเบ่งปันนักลงทุน🙏
👍🏻
ดีครับเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นครับ
ได้แนวคิดครับ
ขอบคุณครับ
ขอยคุณค่ะ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย