สกุลเงินเมื่อวานนี้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักตัวอื่นๆ ไม่ได้อ่อนค่าลงตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและความเป็นกังวลจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) สถานการณ์โดยภาพรวมแล้วตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ไบเดนใกล้จะได้ลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนต้านโควิดมากขึ้นและประธานธนาคารกลางบางคนเริ่มพูดถึงการแตะเบรกเข้าซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ แล้ว
อย่างไรก็ตามเจอโรม พาวเวลล์ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เห็นแย้งกับบรรดาผู้ที่ต้องการให้เฟดแตะเบรกว่าลำพังเห็นตัวเลขการจ้างงานดีขึ้นเพียงเดือนเดียวยังไม่สามารถพูดได้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐอเมริกากลับมาแข็งแกร่ง เขายังคงต้องการให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้เท่านี้ (0.00%-0.25%) ไปจนกว่าจะได้เห็นอัตราการจ้างงานกลับไปอยู่ในช่วงใกล้เคียงกับก่อนโควิดและอัตราเงินเฟ้อก็ควรขึ้นไปแตะ 2% ให้ได้ก่อน เจอโรม พาวเวลล์ต้องการให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง
ข้อมูลจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อนั้นปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมกราคมแต่ตัวเลขพื้นฐานนั้นกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่าแม้ราคาจะสามารถขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบหนึ่งปีได้ แต่อัตราเงินเฟ้อกลับไม่ได้กระเตื้องขึ้นมากนัก พาวเวลล์ยังกล่าวอีกว่า
“ต่อให้ CPI ในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจดูดีขึ้นมาได้”
ที่น่าแปลกใจก็คือการแสดงความเห็นแบบนี้ปกติแล้วควรจะทำร้ายดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อคืนนี้ดอลลาร์กลับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สถานการณ์อัตราเงินเฟ้อทางฝั่งยูโรโซนไม่ได้แตกต่างไปจากของสหรัฐอเมริกาเท่าไหร่ นางสาวคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) เผยในแถลงการณ์ของเธอเมื่อวานนี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังขึ้นไม่ถึงเป้าระยะกลางที่ ECB ตั้งเอาไว้ เป็นการส่งสัญญาณว่าเธอจะยังคงการเงินนโยบายเอาไว้ดังเดิม อย่างไรก็ตามประธาน ECB เหมือนจะมอบข่าวดีให้กับสกุลเงินยูโรเมื่อเธอบอกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนตอนนี้อาจทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้โครงการจัดซื้อสภาวะฉุกเฉินเกี่ยวกับโรคระบาด (PEPP) ต่อ ข่าวดีนี้ทำให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกับดอลลาร์สหรัฐ
ถึงกระนั้น สกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดเมื่อคืนนี้ตกเป็นของสกุลเงินปอนด์แม้ว่าแถลงการณ์จากประธานธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะไม่ได้พูดถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางเลย แต่เขาเลือกที่จะกดดันสหภาพยุโรปให้เปิดช่องทางให้กับธุรกิจประเภทบริการด้านการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องระหว่างทั้งสองประเทศมากขึ้นกว่านี้ สกุลเงินยังแข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับยูโรมาตั้งแต่ต้นปีและจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปตราบใดที่สหราชอาณาจักรไม่ลดความเร็วในการกระจายวัคซีนลง
สกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดคือและ เมื่อวานนี้ไม่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจมาสนับสนุนสกุลเงินทั้งสอง ดังนั้นการวิ่งของสกุลเงินจึงเป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นภายในประเทศและการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ ดัชนี เมื่อคืนนี้ผันผวนพอสมควร ดาวโจนส์สามารถพุ่งขึ้นมากกว่า 100 จุดได้ในช่วงเปิดตลาดแต่กลับลงมามีราคาปิดห่างจากจุดเปิดตลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กราฟ สามารถขึ้นยืนเหนือ 1.27 เป็นวันที่แปดติดต่อกันจากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น
สำหรับสัปดาห์นี้ นอกจากรายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ในคืนนี้และรายงานตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียที่ออกมาอยู่ที่ 3.7% มากกว่าครั้งก่อน 3.4% แล้ว นักลงทุนไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในแล้วเพราะปริมาณการซื้อขายในตลาดจะลดลงในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน