ผ่านไปไม่นานเทศกาลตรุษจีนของปี 2021 ก็ได้เดินทางมาถึงอีกครั้ง แม้ว่าสำหรับชาวตะวันตกนั้นเทศกาลนี้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ากับคริสต์มาสที่มีการเฉลิมฉลองทั้งในอเมริกาและยุโรป แต่ถ้าประชากรจำนวนหนึ่งพันห้าร้อยล้านคนฉลองเทศกาลนี้ไปพร้อมๆ กัน หยุดยาวไปพร้อมๆ กันก็สามารถทำให้ความเคลื่อนไหวในตลาดชะลอตัวลงได้ เมื่อคืนนี้สกุลเงินส่วนใหญ่ล้วนแต่ปรับตัวสูงขึ้นเพราะการอ่อนค่าของสกุลเงิน
สามสิ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดลงทุนในสัปดาห์นี้ หนึ่งคือทิศทางของราคาในตลาดหุ้น สองคือข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสามคือถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางที่สำคัญของโลกการลงทุนไม่ว่าจะเป็นถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) พวกเขาทั้งหมดมีกำหนดการจะขึ้นพูดในเวลาเดียวกันคือวันพุธ เชื่อว่าถ้อยแถลงของพวกเขาจะไม่ส่งผลกระทบต่อขาขึ้นในตลาดสกุลเงินปัจจุบันเพราะเหล่าบรรดาผู้นำของธนาคารกลางฯ น่าจะแสดงความยินดีที่ได้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ
นอกจากแถลงการณ์ของธนาคารกลางประเทศต่างๆ แล้วนักลงทุนก็ยังเฝ้าจับตาข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกเช่นเคย การมาของมาตรการนี้คงเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วหลังจากที่ผลการโหวตของสภาสูงมีคะแนนออกมาเท่ากันพอดิบพอดีและก็ต้องเป็นหน้าที่ของรองประธานาธิบดีนางกามาลา แฮริสออกโรงตัดสิน นักวิเคราะห์เชื่อว่าสภาจะอนุมัติให้มาตรการเยียวยานี้ผ่านภายในสองสัปดาห์ข้างหน้าซึ่งไบเดนหวังว่าจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนวันที่ 15 มีนาคม แม้ว่าเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงจะถูกพับเก็บไปแล้วตอนนี้แต่เงินกระตุ้นเศรษฐกิจคนละ $1,400 เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อไหร่ก็ตามที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้รับการอนุมัติ เมื่อนั้นตลาดหุ้นก็จะปรับตัวสูงขึ้น ดอลลาร์จะยิ่งอ่อนมูลค่าลง
กราฟ ยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้และอาจปรับฐานลดลงไปยังระดับราคา 104.50 สำหรับการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้มีเพียงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เป็นตัวบ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อคือข่าวที่สำคัญที่สุด แต่ต่อให้ CPI ปรับขึ้น เชื่อว่าเฟดคงจะยังไม่ลงมือทำอะไร กราฟ ปรับตัวขึ้นจากเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันแม้ว่าตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันจะปรับตัวลดลง ถึงสถานการณ์โควิดในเยอรมันจะดีขึ้นแต่ภาครัฐก็ยังไม่รีบลดมาตรการคุมเข้ม พวกเขายังเป็นกังวลเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนที่ล่าช้าและการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่จากสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ หากมองจากมุมนี้สกุลเงินยูโรอาจปรับตัวขึ้นช้ากว่าเพื่อนๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทิศทางขาขึ้นของกราฟ EURUSD จะขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน
กราฟ ยังคงวิ่งอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดในรอบสองปีครึ่ง ตอนนี้ทั่วโลกกำลังพูดถึงความเร็วในการกระจายวัคซีนและประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลของสหราชอาณาจักร หากประเทศยังสามารถรักษาความเร็วเช่นนี้ต่อไปได้ นักวิเคราะห์มองว่าประชากรทั่วทั้งประเทศจะได้วัคซีนครบภายในช่วงกลางฤดูร้อนปีนี้ แต่ถึงอย่างนั้นนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันก็ยังไม่ยอมลดการ์ดลง หากแต่สถานการณ์ยังคงดีต่อเนื่องแบบนี้ ภายในสองสัปดาห์เขาอาจจะยอมทำตามแผนคลายล็อกดาวน์ทั่วทั้งประเทศ แน่นอนว่าข่าวดีนี้ย่อมจะช่วยหนุนสกุลเงินปอนด์ให้แข็งค่าขึ้นอีก
สกุลเงินและยังคงแข็งค่าแม้จะไม่มีข้อมูลรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการควบคุมและจัดการโควิด-19 ได้ดี แข็งค่าขึ้นเพราะราคาสามารถขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบหนึ่งปีได้