ภาพรวมการแพร่กระจายวัคซีนที่เริ่มมีความหวังมากขึ้นทำให้รายงานตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP เมื่อวานนี้เพิ่มขึ้นมากถึง 174,000 ตำแหน่งเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ 49,000 ตำแหน่ง การเพิ่มขึ้นของตัวเลขจาก ADP แบบก้าวกระโดดนี้สร้างความคาดหวังให้กับนักลงทุนในการรายงานตัวเลขการจ้างงานจริง (NFP) ในวันพรุ่งนี้เป็นอย่างมาก อีกหนึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ช่วยหนุนดอลลาร์เมื่อคืนนี้คือรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการบริการจาก ISM ซึ่งพบว่าตัวเลขในส่วนของการจ้างงานนั้นเพิ่มขึ้นจาก 48.7 เป็น 55.2
แต่ก่อนที่จะไปถึงการรายงานตัวเลขการจ้างงานฯ ของสหรัฐฯ วันนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ว่านโยบายการเงินในปีนี้จะได้รับผลกระทบจากข้อตกลง Brexit ที่จบไปแล้วและการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 อย่างไร แม้ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรดูแล้วไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย (ค่อนไปทางบวกด้วย) แต่ภาพความเป็นจริงที่ปรากฎคือเศรษฐกิจของประเทศยังคงอ่อนแอเป็นอย่างมาก แม้นักวิเคราะห์จะเชื่อว่าการประชุมของ BoE ในวันนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ แต่ทุกๆ ครั้งที่จะมีการประชุมของ BoE ก็มักจะได้ยินคนพูดถึงอยู่เสมอว่า “BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปจนติดลบในการประชุมครั้งนี้เลยหรือไม่”
นายแอนดรูว์ ไบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ เคยย้ำไปแล้วในช่วงกลางเดือนมกราคมว่าธนาคารกลางฯ ยังมีทางเลือกอื่นอยู่อีกโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวิธีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาจนติดลบ การแข็งค่ากลับขึ้นมาของสกุลเงินปอนด์ก็เป็นตัวบอกอยู่แล้วว่านักลงทุนไม่ได้สนใจกับเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยจนลงไปเป็นลบมากขนาดนั้นเพราะตอนนี้ประชากรของสหราชอาณาจักรได้รับวัคซีนไปแล้วประมาณ 14% ถือเป็นประเทศที่ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในเวลานี้ตามหลังเพียงอิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้น นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษพึ่งออกมาประกาศข่าวดีเมื่อวานนี้ว่ารัฐบาลอาจคลายมาตรการล็อกดาวน์ลงเร็วๆ นี้ หากการประชุมของ BoE วันนี้ท่านผู้ว่าการยังประกาศจุดยืนเดิมว่าไม่คิดจะปรับอัตราดอกเบี้ยลงไปจนเป็นลบ สกุลเงินปอนด์จะแข็งค่าขึ้น แต่ถ้าเขายังเปิดทางให้กับความเป็นไปได้นี้อยู่ กราฟ GBP/USD จะร่วงลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง