ทุกสกุลเงินมีการแข็งค่าขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดยมีสาเหตุคือข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาดี และตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตขึ้น 4% ในไตรมาสที่สี่แต่ข้อมูลเหล่านั้นก็ไม่อาจชดเชยตัวเลข GDP ที่หดตัวลงมาถึง 3.5% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่หดตัวเร็วที่สุดในรอบ 70 ปี หากมองในแง่ดี ถือว่าสหรัฐฯ ยังสามารถปิดปี 2020 ได้ในระดับที่ไม่ได้ยับเยินมากมาย เศรษฐกิจในช่วงสามเดือนสุดท้ายยังมีการเติบโตแม้ว่าจะถูกจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงวันหยุดเทศกาลก็ตาม การที่ตัวเลขการส่งออก สินค้าคงคลัง และการลงทุนเติบโตแสดงให้เห็นว่าประเทศกำลังอยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว ข้อมูลตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกและตัวเลขดุลบัญชีการค้าถือว่าออกมาดีกว่าที่คาด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กราฟ USD/JPY สามารถขึ้นไปแตะระดับราคาสูงสุดในรอบหกสัปดาห์ได้
นอกจากกราฟดอลลาร์สหรัฐเทียบเยนแล้ว สกุลเงินอื่นๆ อย่างยูโร ปอนด์ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ถือว่ายังคงวิ่งอยู่ในระดับที่สามารถทรงตัวได้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากมีการประกาศจากบรรดาโบรกเกอร์ e-trading หลายแห่งว่าจะออกกฎจำกัดการซื้อขายหุ้นที่มีการปรับตัวขึ้นและลงอย่างหนัก อย่างเช่นจะมีการบังคับให้สามารถขายหุ้นบางตัวได้เท่านั้น ส่วนบางตัวที่ต้องการซื้อก็จำเป็นต้องเพิ่มมาร์จิ้นในการวางคำสั่งซื้อขาย นี่คือวิธีแก้เกมที่ฝั่งสถาบันหรือกองทุนเลือกใช้เพื่อตอบโต้การรวมพลังกันของนักลงทุนรายย่อยที่เป็นข่าวดังมาตลอดทั้งสัปดาห์
ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจจากฝั่งยูโรโซนออกมาดีกว่าที่คาด อัตราเงินเฟ้อในเยอรมันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ในขณะที่ตัวเลขกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของยูโรโซนดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมานั้น ในสายตาของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ยังถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นมาในระดับต่ำ ยิ่งกราฟ EUR/USD สามารถยืนเหนือ 1.21 ได้นานเท่าไหร่ ยิ่งเป็นไปได้ว่าเราอาจจะได้เห็นมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมของ ECB ครั้งถัดไป วันนี้จะเป็นคิวของเยอรมันที่จะรายงานตัวเลข GDP ของไตรมาสที่สี่ปี 2020 ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าตัวเลขของเยอรมันอาจออกมาอยู่ในระดับติดลบเพราะเยอรมันล็อกดาวน์ประเทศเกือบทั้งไตรมาสที่สี่ ตัวเลขในวันนี้จะเป็นตัวสะท้อนผลกระทบที่เกิดจากมาตรการควบคุมโควิด แม้วันนี้ไม่มีข่าวเศรษฐกิจจากฝั่งสหราชอาณาจักร แต่สกุลเงินปอนด์ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้น
สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ยังคงเป็นผู้ที่แข็งค่ามากที่สุดแม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจจะออกมาลดลง ดอลลาร์ออสเตรเลียคงที่เพราะตัวเลขการส่งออกถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ตัวเลขราคาผู้ผลิตและยอดขายปลีกของแคนาดาในวันนี้เชื่อว่าจะเป็นตัวเลขที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้วตัวเลข GDP ของแคนาดาที่จะมีรายงานในวันนี้จึงเชื่อว่าจะเป็นตัวเลขที่ฟื้นตัวขึ้นและทำให้ดอลลาร์แคนาดาแข็งค่า