โดยปกติแล้ว ยอดขายปลีกของสหรัฐฯ จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในวันที่ 25 ธันวาคมหรือวันคริสต์มาสและวันศุกร์สีดำ (Black Friday) ที่เกิดขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าซึ่งคิดเป็นยอดขายปลีกรวมกันประมาณ 30% ตัวเลขนี้มีความสำคัญต่อวงการค้าปลีกมากเพราะคิดเป็นเกือบหนึ่ีงในสามของยอดขายตลอดทั้งปีในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
แม้ว่าปีนี้โลกของเราจะเจอภัยคุกคามจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นักวิเคราะห์ก็ยังเชื่อยอดขายไม่ว่าจะในร้านค้าแบบดั้งเดิมหรือทางออนไลน์ยังคงจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ที่น่าสนใจก็คือว่ายอดขายจากร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไปจะสามารถขึ้นได้สูงมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับการขายออนไลน์ที่ว่ากันว่าเติบโตกันอย่างมหาศาลในช่วงการแพร่ระบาดที่ผ่านมา
ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวและเลือกร้านค้าปลีกในดวงใจเอาไว้แล้ว นักลงทุนอาจลืมไปว่ายังมีกลุ่มอุปโภคบริโภคที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันในช่วงของเทศกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ร้านอาหารที่สามารถทำให้ผู้บริโภครับประทานได้เร็วและกลับไปซื้อของได้ต่อจึงถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักช๊อปทั้งหลาย เมื่อพูดถึงอาหารฟาสท์ฟู๊ดแล้ว แบรนด์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือแมคโดนัลด์ (NYSE:MCD).
จากภาพจะเห็นได้ว่าหุ้นแมคโดนัลด์ได้ยืนยันแนวรับหลักแล้วที่ระดับราคาเหนือ $210 ขึ้นไปซึ่งเป็นจุดที่ราคาได้ลงมาทดสอบตลอดระยะเวลาสี่สัปดาห์ติดต่อกัน เส้นเทรนด์ไลน์ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับนั้นก็เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2019
การที่ราคาลงมาทดสอบแนวรับดังกล่าวอยู่บ่อยๆ ทำให้นักลงทุนเห็นอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ครั้งที่เกิดการทดสอบ โดยเฉพาะครั้งล่าสุด การทะลุเส้นเทรนด์ไลน์ดังกล่าวลงไปแล้ววิ่งกลับขึ้นมาและเกิดเป็นแท่งเทียนแท่งใหม่ที่ยืนเหนือเทรนด์ไลน์ดังกล่าวได้คือการยกจุดต่ำสุดที่สูงกว่าจุดต่ำสุดเดิมที่สามารถยืนเหนือเทรนด์ไลน์สำคัญ แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ว่าแนวโน้มอาจกำลังเปลี่ยนแปลง
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าหุ้นแมคโดนัลด์จะสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดสูงสุดล่าสุดเพื่อให้แน่ใจว่ารูปแบบหัวไหล่ที่กำลังเกิดขึ้นได้ถูกทำลายลงแล้ว
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง อาจพอใจที่จะซื้อเมื่อราคาสามารถขึ้นยืนเหนือจุดสูงสุดล่าสุดที่ยังไม่ขึ้นเหนือ $230
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะลองเสี่ยงเข้าซื้อทันทีตอนนี้เพราะราคาอยู่ใกล้แนวรับ เมื่อมองให้แง่ของความเสี่ยงกับผลตอบแทนจะเห็นว่าหากราคาไม่ขึ้น นักลงทุนกลุ่มนี้จะขาดทุนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับขาขึ้นที่มีพื้นที่อยู่อีกมาก
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $210
- Stop-Loss: $208 (จุดต่ำสุดของเดือนพฤศจิกายน)
- ความเสี่ยง: $2
- เป้าหมายในการทำกำไร:$230 (ใกล้ๆ กับจุดสูงสุดของเดือนตุลาคม)
- ผลตอบแทน: $20
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:10