🤑 ราคาไม่ได้ถูกมากไปกว่านี้แล้ว รับเลยส่วนลด Black Friday 60% ก่อนที่จะหมดเขต….รับส่วนลด

Pinterest VS ExxonMobil: ใครรุ่งใครร่วง?

เผยแพร่ 27/10/2563 12:01
GOOGL
-
AAPL
-
XOM
-
IXIC
-
META
-
GOOG
-
PINS
-

ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความผันผวนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นอย่างยิ่ง ก่อนปิดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ปิดสัปดาห์ด้วยการย่อลงมาเล็กน้อย 0.9% ท่ามกลางความหวังที่ยังมีให้กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามปี 2020 นอกจากดาวโจนส์แล้วดัชนีอื่นๆ อย่าง S&P 500 ก็ได้ย่อตัวลงมา 0.5% ในขณะที่ NASDAQ ปรับตัวลดลง 1.1% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ NASDAQ ปิดลบในรอบห้าสัปดาห์ล่าสุด

ในสัปดาห์นี้ตลาดลงทุนสหรัฐฯ จะยิ่งเป็นที่น่าจับตามองเพิ่มขึ้นเพราะนี่คือสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการรายงานผลประกอบการจากบริษัทชื่อดังที่เราคุ้นหูกันดีไม่ว่าจะเป็น กูเกิล (NASDAQ:GOOGL) แอปเปิล (NASDAQ:AAPL) เฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) แอมาซอนและไมโครซอฟต์ ในบทความนี้ เราจะมาดูหุ้นที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นและอีกหนึ่งตัวที่มีโอกาสปรับตัวลดลงจากปัจจัยภาพรวมใหญ่ๆ ตามที่ได้กล่าวมา

1. Pinterest Inc (NYSE:PINS)

แอปพลิเคชันที่ได้ไอเดียมาจากการปักหมุดภาพ ความคิด ไอเดียลงบนบอร์ดนำมาไว้บนแอปพลิเคชันนาม Pinterest (NYSE:PINS) ถือเป็นหนึ่งในสื่อโซเชียลมีเดียที่มาแรงและทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2020 เพราะการเข้ามาของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานมาเป็นทำอยู่ที่บ้านเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การต่อเติมบ้านหรือที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นซึ่งพวกเขาได้ไอเดียส่วนใหญ่มาจากแอปพลิเคชั่น Pinterest

หากนับตั้งแต่ต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบันหุ้น Pinterest ทะยานขึ้นมาแล้ว 184% เอาชนะดัชนี S&P 500 ไปได้อย่างสบายๆ ที่ทำได้เพียงขาขึ้น 7% เท่านั้น มีความโดดเด่นไม่แพ้กับแอปพลิเคชันชื่อดังอื่นๆ อย่าง Facebook (NASDAQ:FB) Twitter (NYSE:TWTR) และ Snap (NYSE:SNAP) เมื่อวันศุกร์ที่แล้วหุ้นของ Pinterest พึ่งขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่  อยู่ที่ราคา  $53.00 มีมูลค่าตลาดรวมแล้วทั้งสิ้น $20,800 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในวันพุธที่ 28 ตุลาคมบริษัท Pinterest จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามปี 2020 ด้วยหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิด ในไตรมาสที่สอง ตัวเลขผลประกอบการของ Pinterest สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ไปได้ ดังนั้นไตรมาสนี้นักวิเคราะห์จึงประเมินว่าตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้นจาก $0.01 เป็น $0.04 ส่วนตัวเลขกำไรในไตรมาสนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 35% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2019 โดยมีตัวเลขกำไรอยู่ที่ $378.9 ล้านเหรียญสหรัฐ

สิ่งที่นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับการรายงานผลประกอบการครั้งนี้จำนวนยอดผู้ใช้งานในแต่ละเดือนเพื่อประเมินว่า Pinterest ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอยู่หรือไม่ ในไตรมาสที่สอง Pinterest เคยแสดงตัวเลขส่วนดังกล่าวว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 39% มีจำนวนผู้ใช้งานอยู่ที่ 416 ล้านคน

2. Exxon Mobil Corp (NYSE:XOM)

บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา (NYSE:XOM) ถือเป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างมาก เมื่อความต้องการน้ำมันดิบลดลง การผลิตน้ำมันของบริษัทก็ต้องลดลงด้วยซึ่งส่งผลให้กำไรของบริษัทต้องหดตัวตาม

ล่าสุดหุ้นของบริษัท ExxonMobil มีราคาปิดอยู่ที่ $34.16 ปรับตัวลดลง 51% ตั้งแต่ต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน นี่คือขาลงที่สามารถลงไปถึงจุดต่ำสุดของปี 2004 ได้ ปัจจุบันบริษัท ExxonMobil มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $144,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากตัวเลขสูงสุดที่เคยทำเอาไว้ในช่วงกลางปี 2014 ที่ $446,000 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ราคาน้ำมันดิบเคยขึ้นไปเกิน $100 ต่อบาร์เรล

มูลค่าตลาดที่หายไปอย่างน่าใจหายนี้ทำให้ ExxonMobil พึ่งจะเสียแชมป์บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ให้กับบริษัทคู่แข่งอย่าง Chevron (NYSE:CVX) ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการน้ำมันสหรัฐฯ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานกว่าทศวรรษแล้ว ที่สำคัญก่อนหน้านี้ ExxonMobil พึ่งถูกปลดออกจากดัชนีดาวโจนส์หลังจากที่อยู่บนดัชนีดังกล่าวยาวนานถึง 92 ปี

จากปัญหามรสุมที่เข้ามากระทบ จึงไม่น่าแปลกใจที่รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่สองถึงออกมาผิดคาดไปจากที่นักวิเคราะห์คำนวณ เมื่อมาถึงการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ นักวิเคราะห์จึงมองว่ารายงานตัวเลขการปันผลกำไรของหุ้นจะลดลงจาก $0.68 ในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้วเหลือ $0.25 ส่วนตัวเลขรายได้ในไตรมาสนี้คาดว่าจะลดลง 30% จาก $65,050 ล้านเหรียญสหรัฐเหลือ $45,100 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำถามหลักที่ตลาดอยากรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของ ExxonMobil ในตอนนี้คือบริษัทจะยังยืนยันคำเดิมที่จะรักษาการปันผลให้อยู่ในจำนวนเท่าเดิมให้กับผู้ถือหุ้นอยู่หรือไม่ ตอนนี้บริษัทได้หั่นงบสำหรับการลงทุนไปแล้ว $10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงทำให้นักวิเคราะห์มองว่าอาจจะมีการประกาศปลดพนักงานเพิ่มอีกในไตรมาสที่ 3 นี้

จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคพบว่ากราฟหุ้นของ ExxonMobil วิ่งอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 200 วันซึ่งหมายความว่ากราฟยังอยู่ในแนวโน้มขาลง เมื่อพิจารณาทั้งจากปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคดูแล้วหุ้น XOM คงจะยังไม่มีข่าวดีในอนาคตอันใกล้แน่นอน

 

 

   

 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย