- เน็ตฟลิกซ์จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ในวันอังคารที่ 20 ตุลาคมหลังจากหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการ: $6,370 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: $2.12
ความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อการรายงานผลประกอบการของบริษัทภาพยนตร์สตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) ที่จะประกาศในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทยมีสูงมาก ตลอดทั้่งปี 2020 หุ้นเน็ตฟลิกซ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% และถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคมาทำงานอยู่ที่บ้านแทนที่จะออกไปทำงานยังออฟฟิศ
แม้ว่าเน็ตฟลิกซ์จะได้ลูกค้าใหม่ที่สมัครสมาชิกเข้ามาในช่วงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โควิดแพร่ระบาดหนักที่สุด แต่ดูเหมือนว่าการเติบโตของยอดผู้สมัครเป็นสมาชิกจะไม่จีรังยั่งยืนไปตลอด ในไตรมาสที่สองซึ่งนับถึงเดือนมิถุนายน เน็ตฟลิกซ์มีสมาชิกเพิ่มขึ้น 10.1 ล้านคนทั่วโลก มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ที่ 8.3 ล้านคน แต่ในไตรมาสที่สามบริษัทเน็ตฟลิกซ์ประเมินเอาไว้ว่าจะมียอดผู้สมัครสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านคนเท่านั้น เนื่องจากตอนนี้โลกผ่านช่วงวิกฤตโควิดที่หนักที่สุดมาแล้วและผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตจนเกือบจะใกล้เคียงเป็นปกติอีกครั้ง
ถึงเน็ตฟลิกซ์จะออกมาพูดแบบนั้น แต่นักลงทุนก็ยังคงเชื่อว่าหุ้นของบริษัทจะยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นได้ จากการวิเคราะห์ของเรา สิ่งที่ยังทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในเน็ตฟลิกซ์คือขนาดธุรกิจของบริษัทและงบการเงินที่ยังถือว่าอยู่ในระดับดีกว่าคู่แข่งตัวท๊อปหลายขุมนัก
ข้อได้เปรียบของผู้ที่เริ่มต้นก่อน
นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการจะล้มบริษัทใดก็ตามที่สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ได้เป็นคนแรกถือเป็นเรื่องยากเพราะผู้คนจะมีภาพจำของบริษัทนั้นเป็นตัวแทนของสิ่งนั้นๆ นอกจากเหตุผลข้อนี้แล้วสิ่งที่ทำให้เน็ตฟลิกซ์ได้เปรียบยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์ (NYSE:DIS) และเอทีแอนด์ที (NYSE:T) ในปี 2020 คือบริษัททั้งสองยังประสบปัญหาทางด้านการเงินและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นอย่างมาก
ธนาคารสำหรับการลงทุนชื่อดังโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายภายในอีก 12 เดือนของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ขึ้นจาก $600 ขึ้นเป็น $670 พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่ารายงานผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ในวันพรุ่งนี้จะยังเป็นตัวเลขที่ดีอย่างแน่นอน
“เราคาดหวังว่าตัวเลขผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ในวันพรุ่งนี้จะออกมามากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ ด้วยยอดผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 ล้านคน การเติบโตของวงการแพลตฟอร์ม คู่แข่งที่ยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาเทียบเคียงได้และวิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไปทำให้มีเวลาใกล้ชิดกับเน็ตฟลิกซ์มากยิ่งขึ้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่รายงานผลประกอบการครั้งนี้จะสร้างความผิดหวังให้กับเน็ตฟลิกซ์”
หากพิจารณาว่าเน็ตฟลิกซ์คือผู้ให้บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งเพียงเจ้าเดียวที่สามารถขยายตลาดไปได้ทั่วโลก แทบหาข้อโต้แย้งใดๆ มาค้านไม่ได้เลยว่าทำไมจึงไม่ควรถือหุ้นเน็ตฟลิกซ์เอาไว้ในระยะยาว นักวิเคราะห์จากไปเปอร์ แซนด์เลอร์มีความเห็นไปในทางคล้ายๆ กันกับโกสด์แมน แซคส์ว่า
“แม้จะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น แต่เน็ตฟลิกซ์ยังถือเป็นผู้ครอบครองตลาดสตรีมมิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพียงจ้าวเดียว แม้ในประเทศต่างๆ จะมีบริการรับชมภาพยนตร์สตรีมมิ่งเป็นของตัวเองแต่เชื่อว่า 6 จาก 10 คนที่ชมภาพยนตร์สตรีมมิ่งย่อมจะต้องเป็นสมาชิกของเน็ตฟลิกซ์ด้วย ที่สำคัญตราบใดที่โควิดยังไม่จบ ผู้่คนยังกลัวการเดินทาง ตราบนั้นเน็ตฟลิกซ์ก็ยังตอบโจทย์ในฐานะสื่อทางเลือกที่ให้ความบันเทิงภายในบ้านที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง”
โดยสรุปแล้ว
การรายงานผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ในวันพรุ่งนี้จะยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของเน็ตฟลิกซ์ว่ายังเป็นผู้นำในวงการภาพยนตร์สตรีมมิ่งและน่าดึงดูดอยู่ขนาดไหนในวันที่โลกยังคงเป็นกังวลต่อโควิด-19 และพยายามเลี่ยงการออกจากบ้าน สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตามองในการรายงานผลประกอบการครั้งนี้คืออัตราการเติบโตของยอดผู้สมัครเป้นสมาชิกว่ายังเพิ่มขึ้นอยู่อีกมากน้อยแค่ไหน หากมองอีกทางหนึ่งผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์จะสามารถบอกเราได้ว่าผู้คนในตอนนี้มีความต้องการอยู่บ้านมากขึ้นหรือน้อยลง